Advertisement

Advertisement

พี่โตเล่นจริง! ห้าม Altis Hybrid และ GR Sport ทำแท๊กซี่ เพื่อรักษาภาพลักษณ์

พี่โตเล่นจริง! ห้าม Altis Hybrid และ GR Sport ทำแท๊กซี่ เพื่อรักษาภาพลักษณ์
Spread the love

Advertisement

Advertisement

ประกาศเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2562 : เป็นข่าวที่เศร้าพอสมควรสำหรับแฟนๆโตโยต้า หากย้อนดูปี 2561 โตโยต้าเคยประกาศห้ามนำ C-HR มาทำแท๊กซี่เพื่อรักษาภาพลักษณ์ และครั้งนี้โตโยต้า ประกาศชัดเจน ห้ามนำ Altis รุ่น GR-SPORT และ Hybrid มาทำแท๊กซี่ เพื่อรักษาภาพลักษณ์ ประเด็นคือ Altis มันคือรถยนต์ที่คนไทยนิยมนำมาทำแท๊กซี่

ถึงอย่างไรรุ่นไฮบริด และ GR SPORT ความนิยมนำมาทำแท๊กซี่น้อยกว่ารุ่น 1.6G อยู่แล้ว แต่อย่างไรไม่ควรจะห้ามกันแบบนี้ ควรเปิดโอกาศให้ผู้ใช้งาน ตัดสินใจเองดีกว่า ?

ตำนานแท็กซี่เมืองไทยของ Toyota Corolla Altis เริ่มจากเจนที่ 5 (พ.ศ. 2526-2530) รหัสตัวถัง E80 จนมาถึงเจนปัจจุบันคือเจนที่ 11 (พ.ศ. 2557-2562) ความนิยมการใช้ Altis ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีมันนานมาก ทำให้ยากที่แท็กซี่ไทยจะเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นแม้จะมี Toyota Innova , Honda City , Chevrolet Cruze , Honda Civic , และมี PPV โผล่มาบ้างเช่น Pajero Sport , Fortuner , Fiesta , Focus แต่ก็มีให้เห็นน้อย

ย้อนดูยอดขาย Altis 5 ปีหลังในประเทศไทย

  • 2014 – 36,595 คัน
  • 2015 – 20,633 คัน
  • 2016 – 18,052 คัน
  • 2017 – 19,179 คัน
  • 2018 – 21,914 คัน

ไม่ต้องแปลกใจในปี 2014 คือปีที่เปิดตัว All-NEW Toyota Corolla Altis เจนที่ 11 วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557 เปิดตัวต้นปีโกยยอดขายไปได้เยอะ และปรับโฉมในปี 2016 เพิ่มรายละเอียดการออกแบบรวมถึงออฟชั่นความปลอดภัย แต่ยอดขายคงไม่พุ่งเท่าไหร่ ในปี 2561 เพราะมีการปรับรุ่นย่อยช่วงต้นปี ทำให้พอดันยอดขึ้นมาได้บ้าง

สาเหตุที่ Alits ได้รับความนิยมตลอดมา คงเป็นเพราะประสิทธิภาพของตัวรถ ปัญหาไม่เยอะ และเมื่อเปิดตัวมาดี และทำรุ่นดีมาตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ความไว้วางใจของลูกค้ารายเก่า และใหม่ จากการบอกต่อ และช่างผู้ชำนาญการที่เยอะ อะไหล่แท้เทียบเยอะ ซ่อมง่าย ด้วยความนิยมเหล่านี้ จึงไม่แปลกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่แท็กซี่

ข้อมูลจาก กรมขนส่งทางบก

จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นการจดทะเบียนแท็กซี่ใหม่กว่า 8,094 คันทั่วประเทศ แต่มันเป็นการจดทะเบียน รถเพื่อให้บริการขนส่งสาธารณะ รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน (รถแท็กซี่) เพียงครึ่งปี นั้นหมายความว่า ยอดจดทะเบียนทั้งปีน่าจะประมาณ 14,000 – 16,000 คันโดยเฉลี่ย และยอดขายของ Altis 21,914 คันในปี 2018 แอดมินเชื่อว่า เกินครึ่ง คือรถแท็กซี่

ข้อบังคับการนำรถมาจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้าง (รถแท็กซี่)

  • รถที่นำมาจดทะเบียนต้องเป็นรถใหม่ หรือเป็นรถที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันจดทะเบียนครั้งแรกและใช้งานมาแล้ว เป็นระยะทางไม่เกิน 20,000 กม.
  • ลักษณะรถ รถเก๋งสองตอน รถเก๋งสองตอนแวน รถเก๋งสามตอน รถเก๋งสามตอนแวน รถยนต์นั่งสองตอน รถยนต์นั่งสองตอนแวน รถยนต์นั่งสามตอน รถยนต์นั่งสามตอนแวน
    • เครื่องยนต์ต้องมีความจุของกระบอกสูบรวมกันไม่ต่ำกว่า 1,500 ซีซี
    • ห้ามติดเซ็นทรัลล็อค และฟิล์มกรองแสง
  • สีรถ
    • รถยนต์รับจ้างของบุคคลธรรมดา ให้ใช้สีเขียวและสีเหลืองเป็นสีของตัวรถ
    • รถยนต์รับจ้างของนิติบุคคล ให้ใช้สีเหลืองเป็นสีของตัวรถ และสีน้ำเงินเป็นสีของข้อความ และเครื่องหมายต่างๆ
  • รถยนต์รับจ้างให้มีอายุการใช้งานได้ไม่เกิน 9 ปี นับแต่วันจดทะเบียนครั้งแรก
  • ต้องมีและใช้อัตราค่าโดยสาร ตามแบบหรือชนิดที่ได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบกไว้ด้านซ้ายของผู้ขับรถ
  • ต้องมีและใช้เครื่องสื่อสาร ตามแบบหรือชนิดที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ เครื่องสื่อสารประเภทอื่นที่กรมการขนส่งทางบกให้ความเห็นชอบ
  • ต้องมีและใช้ส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์ของรถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอัด (NGV) เป็นเชื้อเพลิงหรือใช้ร่วมกับน้ำมันเชื้อเพลิง
    • ต้องมีเครื่องหมายเป็นอักษรโรมัน “TAXI-METER” ขนาดสูงไม่น้อยกว่า 7 ซม. เส้นหน้าของตัวอักษร 1.2 ซม. ภายใน กรอบขนาดไม่น้อยกว่า 60×15 ซม. ติดตรึงไว้ในแนวนอนบนหลังคารถและให้มีแสงไฟพร้อมด้วยกรอบที่บังคับแสง ให้เห็นเครื่อง หมายได้ชัดเจนในเวลากลางคืน
    • ต้องมีเครื่องหมายอักษร “ว่าง” เมื่อไม่มีผู้โดยสารโดยติดตั้งไว้ด้านซ้ายของคนขับซึ่งสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากภายนอก ทั้งเวลากลางวันและกลางคืน
    • ต้องแสดงเครื่องหมาย “งดรับจ้าง” ที่มีพื้นสีขาวกรอบสีแดงขนาดไม่น้อยกว่า 10×22 ซม. เส้นกรอบหนา 0.5 ซม. ตัวอักษร คำว่า “งดรับจ้าง” ให้มีสีแดงขนาดความสูงไม่น้อยกว่า 5 ซม. เส้นตัวอักษรหนาไม่น้อยกว่า 0.6 ซม.
    • ต้องจัดให้มีกรอบสำหรับติดบัตรประจำตัวผู้ขับรถไว้ด้านหน้ารถในลัษณะที่ผู้โดยสารสามารถมองเห็นได้ชัดเจน
    • ต้องมีเครื่องหมายเป็นหมายเลขทะเบียน พื้นสีเหลือง ตัวอักษรสีดำ ทำด้วยโลหะติดไว้ที่แนวกึ่งกลางประตูรถตอนหลังด้านใน ใต้ขอบกระจกทั้งสองข้าง
    • ต้องมีเครื่องหมายเป็นข้อความ “แท็กซี่บุคคล” หรือ “ชื่อนิติบุคคล” หมายเลขทะเบียนรถ และข้อความ “ร้องเรียนแท็กซี่ โทร.1584” ไว้ที่ประตูตอนหน้าด้านนอกทั้งสองข้าง โดยต้องใช้สีที่ตัดกับสีของตัวรถให้เห็นได้ชัดเจน
    • จัดให้มีประกันภัย 2 อย่าง คือ ประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถฯ และประกันภัยอย่างน้อยชั้น 3 คุ้มครองความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถรับจ้างแต่ละคัน

หากเทียบราคารถยนต์ระดับ C-Segment Corolla Altis ราคาไม่แรงเลย แต่ในรุ่นที่ได้รับความนิยมเพราะราคาถูกคงต้องยกให้ 1.6J เกียร์ธรรมดา ราคา 799,000 บาท และอัพเงินเข้ามาอีกหน่อยจะเป็นรุ่น 1.6G เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ราคา 869,000 บาท ซึ่งได้รับความนิยมไม่แพ้กัน

ทีมงานไม่ได้ว่า Altis เป็นรถไม่ดี แต่ยังอวยว่า เป็นรถที่มีคุณภาพ และปัญหาน้อยอีกรุ่น เว้นเสียแต่ไปดัดแปลงจนพัง และเพี้ยน อันนั้นมันก็อีกเรื่อง แต่มีหลายท่านที่ใช้เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล และหลงรักมันอันนี้ก็มีมาก อย่ามองแค่ Altis คือแท็กซี่ ขอให้มันบอกว่า มันเป็นรถซีดานที่คุ้มค่า และดีอีกรุ่น เพราะยากมากที่จะมีรุ่นไหนครองใจผู้ใช้งานได้ขนาดนี้

และขอต้อนรับเจนที่ 12 ที่จะเปิดตัวในวันที่ 3 กันายนนี้ และเผยโฉมโชว์รูมทั่วประเทศ 13 กันยายน 2562 นี้ในประเทศไทย เราคงได้เห็นแท็กซี่ดี และคุณภาพมากขึ้น และแน่นอนว่าปลอดภัยกว่าด้วยโครงสร้างใหม่ภายใต้แพล็ตฟอร์ม Toyota New Global Architecture (TNGA)

  • ตลอดเวลาตั้งแต่ พ.ศ. 2509 – พ.ศ. 2550 รถโคโรลล่าถูกขายไปมากกว่า 30 ล้านคัน เฉลี่ยแล้ว จะมีรถโคโรลล่า 1 คัน ถูกซื้อทุกๆ 40 วินาที นับเป็นรถที่ประสบความสำเร็จสูงมากของโตโยต้า
  • โตโยต้า โคโรลล่า Generation ที่ 7 มีการออกแบบในรูปแบบไฟท้ายสองชั้น มีทั้งหมด 3 แบบ คือ 1.ท้ายแดง 2.ท้ายเทา 3.ท้ายแดงเหลือง ซึ่งแบบที่นิยมที่สุด คือ ท้ายแดง ซึ่งทางล้อแม็กมีการออกแบบเป็นรูปดอกไม้ โดยวงการรถไทยมักเรียกว่า “โฉมสามห่วง” ซึ่งนิยมมากในประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ รวมไปถึง สหรัฐอเมริกา ฯลฯ ประเทศอื่นๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก กรมขนส่งทางบก

ไม่ต้องแปลกใจที่รถแท็กซี่ทั่วบ้านเมืองเรา นิยมใช้ Toyota Corolla Altis มาแต่งให้บริการกันทั่วประเทศ และแน่นอนเจนใหม่ คงหนีไม่พ้นการจับมาพ่นสีจดทะเบียนแท็กซี่เช่นกัน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

Toyota Corolla พัฒนาทั้งหมด 12 เจนเนอเรชั่น รุ่นที่ใช้ในไทยปัจจุบันคือเจนที่ 11 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557 และเจนที่ 12 เปิดตัวอย่างเป็นทสงการวันที่ 3 กันยายน 2562 นี้

https://www.car250.com/toyota-corolla-altis23-21.html

ขนาดมิติตัวถังเท่ากัน

  • ยาว × กว้าง × สูง 4,630 × 1,780 × 1,435 มม.
  • ความยาวช่วงล้อ 2,700 มม.
  • ความกว้างช่วงล้อ หน้า/หลัง 1,530 / 1,534 มม.
  • ระดับต่ำสุดจากพื้น 135 มม.
  • ความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร
  • รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.2 เมตร

1.6 g

ภาพโดย : Taka Masataka

ภายนอก 1.6G
ชุดไฟหน้า ฮาโลเจน
ชุดไฟท้าย LED
ที่ปัดน้ำฝน แบบหน่วงเวลาและตั้งเวลาได้
กระจังหน้า สีดำ
มือจับประตูด้านนอก โครเมียม
ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED (LED Daytime Running Lights)
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว
ระบบไฟหน้า Follow-me-home
ภายใน 1.6 G
วัสดุเบาะ หนังและวัสดุสังเคราะห์ (สีทูโทน เบจและน้ำตาล)
วัสดุตกแต่งพวงมาลัยหนัง
วัสดุตกแต่งคอนโซลกลาง พร้อมกล่องเก็บของ และที่วางแก้วน้ำ สีดำ
หัวเกียร์หุ้มหนัง
วัสดุตกแต่งที่จับประตูสีดำ
เบาะนั่งด้านหน้าแบบธรรมดา
เบาะนั่งด้านหลังแบบธรรมดา
กระเป๋าหลังเบาะนั่งด้านหน้า เบาะผู้โดยสาร
เครื่องปรับอากาศ แบบอัตโนมัติ
ช่องปรับอากาศด้านหลัง
ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
เครื่องเล่น CD รองรับ Bluetooth / USB และลำโพง 6 จุด
จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display)
พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง สูง-ต่ำ และใกล้-ไกล
ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า
ช่องต่อ USB ด้านหน้า
หน้าต่างไฟฟ้า พร้อมระบบ Jam-protection ทั้ง 4 บาน
กุญแจรีโมท
กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน
ช่องชาร์จแบตผ่าน USB ในกล่องเก็บของ
ระบบสตาร์ทรถและเปิดประตูอัจฉริยะ (Push Start and Smart Entry)
ความปลอดภัย 1.6 G
เข็มขัดนิรภัยหน้า ดึงรั้งและผ่อนแรงอัตโนมัติ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง
เข็มขัดนิรภัยหลัง ELR 3 จุด 3 ตำแหน่ง
ระบบเบรก ABS
ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
ระบบเสริมแรงเบรก BA
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS คู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านด้านข้าง / หัวเข่าด้านคนขับ
ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC
ไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED
ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน EBS
ระบบป้องกันการโจรกรรม Immobilizer

เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร

  • เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร 1ZR-FBE 4 สูบแถวเรียง DOHC Dual VVT-iความจุกระบอกสูบ 1,598 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ × ระยะชัก (มม.) 80.5 × 78.5 อัตราส่วนกำลังอัด 10.2 : 1 แรงม้าสูงสุด 125 แรงม้าที่ 6,050 รอบต่อนาที แรงบิตสูงสุด 156 นิวตัน-เมตรที่ 5,200 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลัง Super CVT-i 7 สปีด พร้อม Sequential Shift รองรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง E85 รองรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง E20

อัตราทดเกียร์ 2.480 – 0.396
อัตราทดเกียร์ถอยหลัง 2.604 – 1.680
อัตราทดเฟืองท้าย 5.356

  • ระบบช่วงล่างหน้า อิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
  • ระบบช่วงล่างหลัง อิสระแบบปีกนกคู่ พร้อมเหล็กกันโคลง
  • ระบบเบรกหน้า ดิสก์เบรก ขนาด 15 นิ้ว (1.6 Limo อิสระแบบปีกนกคู่)
  • ระบบเบรกหลัง ดิสก์เบรก ขนาด 15 นิ้ว

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้