ด่วน! Audi – VW – Porsche – Jaguar – Lotus หยุดส่งรถเข้าอเมริกาแล้ว เนื่องจากโดนภาษีหนัก
ภาษีศุลกากรบังคับให้ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายต้องระงับการขนส่งไปยังสหรัฐอเมริกา จนถึงขณะนี้ Lotus, JLR, VW และ Audi ต่างยืนยันว่าได้หยุดการจัดส่งเนื่องจากภาษีศุลกากร และอาจมีการจัดส่งเพิ่มเติมตามมา
เมื่อสหรัฐฯ เริ่มสัปดาห์แรกของการบังคับใช้ภาษีนำเข้าเต็มรูปแบบ วงการยานยนต์ก็ต้องเจอกับความไม่แน่นอนครั้งใหญ่ โดยเฉพาะกับค่ายรถจากต่างประเทศที่ยังไม่มีฐานการผลิตในอเมริกา การเก็บภาษี 25% สำหรับรถยนต์นำเข้าถือว่าไม่ใช่เรื่องเล็ก และตอนนี้หลายแบรนด์ก็เริ่มชะลอการส่งรถเข้าตลาดอเมริกาแล้ว
หนึ่งในนั้นคือ Audi จากรายงานของ Automotive News ที่อ้างถึงบันทึกภายในที่ส่งถึงดีลเลอร์ ระบุว่ารถยนต์ Audi ที่จะเข้าอเมริกาทั้งหมดถูก “พักไว้ก่อน” โดยรถที่มาถึงท่าเรือหลังวันที่ 2 เมษายนจะถูกเก็บไว้ที่นั่น ส่วนรถที่มาถึงก่อนหรือภายในวันที่ 2 จะได้รับการดำเนินการและส่งต่อไปยังดีลเลอร์ พร้อมสติ๊กเกอร์แสดงว่า ไม่มีการคิดภาษีนำเข้า
ตอนนี้ยังไม่มีการประกาศว่า Audi จะกลับมาส่งรถเมื่อใด และหากกลับมาจริง รถบางรุ่นอาจต้องเจอภาษีรวมกันถึง 50%! โดยเฉพาะ Audi Q5 ที่ผลิตในเม็กซิโก แต่ Audi ไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรี USMCA (ระหว่างสหรัฐฯ-แคนาดา-เม็กซิโก) ทำให้ Q5 เสี่ยงเจอ “ภาษีสองต่อ”
โฆษกของ Audi ให้สัมภาษณ์กับ Motor1 เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า บริษัท “กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะประเมินผลกระทบต่อซัพพลายเชนและเครือข่ายการผลิตของเราภายในอย่างรอบด้าน” – ซึ่ง Motor1 ได้ถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการหยุดส่งรถ แต่ยังไม่ได้รับคำตอบใด ๆ
ไม่ใช่แค่ Audi เท่านั้นที่หยุดส่งรถ – ทั้งกลุ่ม Volkswagen Group ก็ดูเหมือนจะทำแบบเดียวกัน มีรายงานว่า Volkswagen และ Porsche ก็หยุดส่งรถเข้าตลาดอเมริกาแล้วเช่นกัน แต่ยังไม่มีการระบุชัดเจนว่าเมื่อไหร่จะกลับมาดำเนินการตามปกติ
นอกจากค่ายเยอรมันแล้ว Jaguar Land Rover (JLR) ก็ประกาศหยุดส่งรถเช่นกัน ตามรายงานของ Reuters เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยโฆษกของ JLR ยืนยันกับ Motor1 ว่า:
“สหรัฐฯ ถือเป็นตลาดสำคัญของแบรนด์หรูในเครือ JLR ขณะที่เรากำลังปรับตัวกับเงื่อนไขการค้าฉบับใหม่ เราจึงเริ่มดำเนินการระยะสั้นที่วางแผนไว้ รวมถึงการหยุดส่งรถในเดือนเมษายน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับแผนระยะกลางและระยะยาว”
ด้าน Lotus ก็มีรายงานว่าหยุดส่งรถแบบไม่มีกำหนด โดยอ้างอิงจากโพสต์ในฟอรั่มของ Lotus ซึ่ง Car and Driver นำมารายงาน – ตอนนี้ยังไม่มีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ แต่ทีมงานได้ติดต่อทั้ง Lotus และบริษัทแม่แล้ว รออัปเดตกันต่อไป
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจเท่าไรนัก เพราะนโยบายภาษีของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ถือว่า “แกว่ง” มาตั้งแต่เริ่มต้น บางครั้งประกาศเก็บภาษี 25% แล้วไม่กี่วันก็ถอยกลับ แต่รอบนี้ที่เริ่มมีผลเมื่อวันที่ 3 เมษายน ดูเหมือนจะมีน้ำหนักมากขึ้น ถึงอย่างนั้น คำสั่งฝ่ายบริหารที่ทรัมป์ลงนามก็ยังเปิดช่องไว้เยอะ ทั้งในแง่การตีความและการ “ยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้”
การที่บรรดาค่ายรถ “ขอพักก่อน” ก็ถือเป็นการถ่วงเวลา เพื่อรอดูว่ารัฐบาลจะเปลี่ยนแผนหรือไม่ – เพราะดูจากภาษีรอบก่อน ๆ รวมถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกจากความปั่นป่วนนี้ ก็มีแนวโน้มสูงว่าอะไรบางอย่าง “อาจเปลี่ยน” เร็วกว่าที่คิด
