Advertisement

Advertisement

เตรียมขายไทย 2,xxx,xxx บาท 17 กันยายน AVATR 11 EV SUV ไฟฟ้า 630 – 730 กม./ชาร์จ CLTC

เตรียมขายไทย 2,xxx,xxx บาท 17 กันยายน AVATR 11 EV SUV ไฟฟ้า 630 – 730 กม./ชาร์จ CLTC
Spread the love

Advertisement

Advertisement

 

 

ฉางอัน ประเทศไทย ประกาศฉลองความสำเร็จในการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ครบรอบ 1 ปี ด้วยยอดขายรถจำนวน 8,000 คัน ซึ่งทำการส่งมอบถึงมือลูกค้าแล้วกว่า 6,000 คัน โดยจำนวนกว่า 5,000 คัน เป็น DEEPAL S07 ติดอันดับท็อป 10 ของตลาด SUV ทั้งหมด ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 2.6% และอันดับ 2 ในกลุ่ม C-SUV ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 21%

นายเซิน ซิงหัว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซาท์อีสเอเชีย จำกัด เปิดเผยว่า ล่าสุด ฉางอัน เตรียมขยายโชว์รูมทั่วประเทศกว่า 60 แห่ง ปัจจุบันเปิดทำการอย่างเป็นทางการแล้วจำนวน 30 แห่ง ครอบคลุมจังหวัดสำคัญ 25 จังหวัด โดยในปี 2025 ตั้งเป้าที่จะขยายโชว์รูมให้ครบ 100 แห่ง

CHANGAN Thailand ได้พัฒนาคลังอะไหล่ขนาดกว่า 3,000 ตารางเมตร ที่สามารถเก็บอะไหล่กว่า 2,000 ประเภท และชิ้นส่วนมากกว่า 40,000 ชิ้น ทำให้สามารถจัดส่งอะไหล่ครอบคลุมกว่า 95% ของประเทศภายใน 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังเปิดตัวศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ดิจิทัลใหม่ในวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมาอีกด้วย

นายเซิน ซิงหัว ยังกล่าวถึง ความคืบหน้าของการก่อสร้างโรงงานที่จังหวัดระยอง ด้วยเงินลงทุน 10,000 ล้านบาท ว่ามีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 80% มีกำหนดการเปิดและเริ่มผลิตในไตรมาสแรกของปี 2025 อีกทั้งยังใช้ซัพพลายเออร์ท้องถิ่นกว่า 300 ราย และมีแผนที่จะเพิ่มอัตราส่วนชิ้นส่วนท้องถิ่นในรุ่นที่ผลิตในประเทศต้นปีหน้าถึง 50% ในด้านบุคลากรท้องถิ่น ได้ว่าจ้างพนักงานเกือบ 300 คนในกรุงเทพ รวมถึงที่จังหวัดระยอง คิดเป็นร้อยละ 70% ของพนักงานทั้งหมด และยังมีแผนที่จะส่งพนักงานที่มีทักษะประมาณ 100 คนไปฝึกอบรมที่ฉงชิ่งในเดือนกันยายนนี้ด้วย

เตรียมที่จะแนะนำแบรนด์ AVATR ในเดือนกันยายนนี้ โดยมีรายงานว่าเตรียมจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ AVATR 11 ภายในวันที่ 17 กันยายน พร้อมการเปิดตัว DEEPAL E07EREV ในเดือนพฤศจิกายน

 วันที่ 11 มีนาคม 2024 AVATR Motors ประกาศราคาจำหน่าย AVATR 11 รุ่น Smart Driving Model มีวางจำหน่ายในระยะเวลาจำกัดเริ่มต้นที่ 250,000 หยวน หรือประมาณ 1.19 ล้านบาท (ราคารุ่นเริ่มต้นเดิม 300,000 หยวน ปรับลดลงกว่า 50,000 หยวน หรือ 239,000 บาท)

  • พร้อมระบบขับขี่อัจฉริยะ และ ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะระดับไฮเอนด์ของ HUAWEI ADS2.0 การชาร์จความเร็วสูง 800V สามารถชาร์จ 10 นาทีวิ่งได้ 200 กม.

ก่อนหน้านี้วันที่ 8 มกราคม 2024 AVATR ประเทศจีนเปิดตัว AVATR 11 Edition Smart Enjoy รุ่นอัปเกรด โดยไม่เพิ่มราคา สำหรับรุ่นดังกล่าวอัพเกรดระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ NCA ในเขตเมืองทั่วประเทศเป็นมาตรฐานในทุกซีรีย์ เริ่มต้นที่ 300,000 – 390,000 หยวน หรือประมาณ 1.43 – 1.87 ล้านบาท สำหรับฟังก์ชั่น NCA ใหม่จะติดตั้งในรถใหม่พร้อมปลดล็อคฟังก์ชันการขับขี่อัจฉริยะ NCA ในเมืองใน 300 เมืองในเร็วๆ นี้ ในประเทศจีน

  • ภายนอก AVATR  11 EV Harmony Edition เน้นการตกแต่งที่ไม่ได้มากจนเกินไป พร้อมสีตัวถัง สีดำออบซิเดียนใหม่ และ คาลิเปอร์เบรกสีเหลือง มีการเพิ่มการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ลิ้นหน้า สเกิร์ตข้าง และส่วนปิดด้านหลังเพื่อเพิ่มความสปอร์ตให้กับตัวรถ
  • ภายในห้องโดยสารมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Huawei Hongmeng OS ที่ผสานการออกแบบของรถยนต์ไฟฟ้าให้สามารถใช้งานง่ายเหมือนโทรศัพท์มือถือ รวม “โลกแห่งสถานการณ์จำลอง” ที่พัฒนาขึ้นเองเข้ากับระบบเครื่องจักรในรถยนต์ของ โดยมาพร้อม 6 โหมดที่แตกต่างกันออกไป  รองรับ QQ Music, Tencent Video และ Leishi KTV

สิ่งที่เพิ่มเติม

  • มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ขับขี่อัจฉริยะ 3 ตัว + เซ็นเซอร์ขับขี่อัจฉริยะ 34 ตัว รองรับการขับขี่อัจฉริยะ ADS 2.0 ของ Huawei
  • Huawei ADS 2.0 Navigation Cruise Assist (NCA) ระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติที่พัฒนาโดย Huawei ใช้การผสมผสานระหว่างเซ็นเซอร์ กล้อง และแผนที่ความละเอียดสูงเพื่อให้สามารถขับขี่แบบแฮนด์ฟรีบนทางหลวงและในเขตเมืองบางแห่งในประเทศจีน ระบบสามารถควบคุมความเร็ว การบังคับเลี้ยว และการเปลี่ยนเลนของรถได้ แต่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ ผู้ขับขี่ยังคงรับผิดชอบในการตรวจสอบถนนและเตรียมพร้อมเข้าควบคุมหากจำเป็น
    • การขับขี่แบบแฮนด์ฟรีบนทางหลวงและในบางพื้นที่ในเมืองของจีน
    • การควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
    • การบังคับเลี้ยวอัตโนมัติ
    • การเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ
    • การตรวจจับวัตถุและคนเดินถนน
    • เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
  • เทคโนโลยี iTRACK ช่วยติดตามยานพาหนะแบบเรียลไทม์ (real-time vehicle tracking) สามารถรับรู้สภาพถนนที่มีรายละเอียดสูงเป็นพิเศษด้วยความเร็ว 1,000 ครั้งต่อวินาที และการปรับแรงบิดแบบเรียลไทม์ 1,000 ครั้งต่อวินาที ตัวอย่างเช่น เมื่อเผชิญกับแรงกระแทกความเร็ว สามารถปรับและควบคุมแรงบิดได้ภายในมิลลิวินาที ช่วยลดความผันผวนของความเร็วล้อและระยะเวลาที่เกิดอาฟเตอร์ช็อก และได้กำลังสูงสุดภายใต้สภาพถนนที่แตกต่างกัน
  • ระบบจดจำสิ่งกีดขวาง GAEB ของ Huawei เป็นระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่พัฒนาโดย Huawei โดยใช้เซ็นเซอร์เรดาร์และกล้องเพื่อตรวจจับวัตถุและคนเดินถนนที่อยู่ข้างหน้ารถ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนให้ผู้ขับขี่ทราบหากมีวัตถุหรือคนเดินถนนอยู่ใกล้เกินไป หากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนอง ระบบจะทำการเบรกฉุกเฉินโดยอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงการชน
  • ระบบนำทางอัตโนมัติ AVATR ของ Huawei เป็นระบบนำทางที่พัฒนาโดย Huawei เพื่อใช้ในรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยใช้เซ็นเซอร์เรดาร์ กล้อง และ LiDAR เพื่อตรวจจับสภาพแวดล้อมของรถ ระบบจะสร้างภาพรวมของสภาพแวดล้อมของรถและวางแผนเส้นทางที่ดีที่สุดเพื่อไปยังจุดหมายปลายทาง
  • รุ่นอัปเกรดที่เปิดตัวในครั้งนี้ยังมาพร้อมกับที่นั่งวีไอพีที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น พื้นผิวหนังมีความแน่น นุ่ม ไร้ริ้วรอยหลายชั้น

ฟังก์ชั่นการขับขี่อัจฉริยะ NCA ในเขตเมือง

  • ขับขี่อัจฉริยะ NCA (No-Car-Ahead) หัวเว่ย เป็นระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติที่พัฒนาโดยหัวเว่ย ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ขับขี่ในเขตเมืองได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
  • ระบบ NCA หัวเว่ย ใช้กล้องและเซ็นเซอร์ต่างๆ เพื่อตรวจจับรถคันหน้าและสภาพแวดล้อมรอบตัวรถ จากนั้นระบบจะคำนวณและควบคุมความเร็วและระยะห่างระหว่างรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ ระบบ NCA หัวเว่ย ทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ (ACC) ระบบเตือนการชนด้านหน้า (PCS) และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LTA)

AVATR 11 ดำเนินการออกแบบโดย AVATR  Global Design Center ในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี โดยมีแนวคิด “ล้ำยุค” เป็นแนวคิดในการออกแบบหลัก ซึ่งแสดงถึงเสน่ห์ด้านสุนทรียภาพอันเป็นเอกลักษณ์ สร้างขึ้นบนพื้นฐานของแพลตฟอร์มเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ CHN รุ่นใหม่

เน้นความหรูหราแบบเรียบง่ายกระจังหน้าแบบปิด ชุดไฟหน้ารูปตัว F พร้อมไฟส่องสว่างกลางวัน ทำมุมทั้งสองข้าง แนวของหน้าต่างทั้งสองบานผสานกันอย่างลงตัว เพื่อสร้างมุมแหลมรูปตัว V ที่คมชัด และชี้ไปยังปลายเสา C แบบคูเป้ ให้พลังและไดนามิกอย่างงดงาม ด้านหลังมาพร้อมไฟแบบ LED ทะลุผ่านเรียวบาง กันชนหลังสีดำ ไม่มีท่อไอเสียเพราะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมระบบแสดงสัญลักษณ์ โฮโลแกรมบริเวณภายนอก กระจกหน้ารถ

ล้ออัลลอย 22 นิ้ว พร้อมยาง Continental PC6 คาลิปเปอร์เบรค Brembo 4 ลูกสูบอลูมิเนียมทั้งหมด มือจับประตูแบบซ่อน ติดตั้งประตูไฟฟ้าเหนี่ยวนำอัจฉริยะ และ ระบบลดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ RNC

ขนาดตัวถัง AVATR  11

  • ยาว 4,880 มม.
  • กว้าง 1,970 มม.
  • สูง 1,601 มม.
  • ฐานล้อ 2,975 มม.

ภายในห้องโดยสารออกแบบภายใต้แนวคิด “Vortex Emotional Eddy Current” เน้นกึ่งกลาง พร้อมนวัตกรรมใหม่ๆ เน้นความสปอร์ต และ หรูหราด้วยโทน น้ำเงิน-เทา และ แดงเบอร์กันดี เบาะหนัง Nappa คู่หน้า เบาะนั่งด้านหน้าเป็นแบบ Bucket-Shape เบาะหลังมีให้เลือกทั้ง 3 ที่นั่ง และ 2 ที่นั่ง รองรับการปรับไฟฟ้า ระบบทำความร้อน และ ฟังก์ชั่นนวด ที่พักแขนตรงกลางมาพร้อมระบบชาร์จไร้สาย และตู้เย็นบริเวณด้านล่าง

หน้าจอส่วนกลางแบบลอยขนาด 15.6 นิ้ว พร้อมระบบ Huawei Hongmen หน้าปัด Full LCD ขนาด 10.25 นิ้ว หน้าจอสำหรับผู้โดยสารขนาด 10.25 นิ้ว

ลำโพง 14 ตำแหน่ง + เพาเวอร์แอมป์ภายนอก 12 ช่อง ติดตั้ง RNC (Road Noise Cancellation) การลดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ และ เทคโนโลยีคลื่นเสียงแบบแอ็คทีฟ ASE (Active Sound Enhancement) พร้อมโหมดน้ำหอมเป็นอุปกรณ์เสริม

  • ASE (Active Noise Cancellation) Sound Enhancement) เทคโนโลยีคลื่นเสียงแบบแอคทีฟที่สามารถจำลองเครื่องยนต์ได้หลากหลาย
  • ฟังก์ชันการชาร์จแบบไร้สาย สำหรับโทรศัพท์มือถือแถวหน้า ให้กำลังชาร์จสูงถึง 50W ซันรูฟพาโนรามาแบบแบ่งส่วนได้
  • ระบบการจับคู่แผนที่มีความแม่นยำสูงช่วยให้ Avita 11 สามารถรับรู้ภาพได้สูง 360 องศา ทั้งกลางคืน แสงน้อย อุโมงค์ และ ความมืด ทำให้ไม่มีปัญหาในการรับรู้
  • Avatr 11 ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่สร้างร่วมกันโดยทั้งสอง มาพร้อมกับโซลูชันสมาร์ทคาร์แบบฟูลสแตกของ Huawei ซึ่งรวมถึง Huawei Smart Driving, Smart Cockpit, ระบบเชื่อมต่อัฉจริยะ อินเตอร์เน็ต Smart Electric และ บริการคลาววด์ในรถยนต์

AVATR  11 ติดตั้ง Lidar 3 ตัว, เรดาร์คลื่น 6 มม., เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว และกล้อง 13 ตัว พร้อมพลังประมวลผล 400TOPS สำหรับ Lidar ไม่เพียงแต่สามารถตรวจจับระยะไกลได้ 150 เมตรเท่านั้น แต่ยังมีความแม่นยำในการตรวจจับสูง พร้อมจำลองภาพ 3D เรนดาร์คลื่นมิลลิเมตร สามารถตรวจจับอย่างแม่นยำได้ไกลอีก 210 เมตร นอกจากนี้ยังตอบสนองต่อ การจดจำเลน การเปลี่ยนสัญญาณไฟจราจร ระยะห่างจากคนเดินถนน สิ่งกีดขวางวัตถุที่ต่ำ หรื เล็กจนมองไม่เห็น

  • ระบบช่วยนำทางสำหรับการขับขี่อัจฉริยะของ NCA ในความเร็วสูง
  • ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ APA
  • ระบบช่วยจดจำสัญญาไฟจราจร
  • ระบบจำกัดความเร็วอัจฉริยะ
  • ระบบเตือนการเปิดประตู

ติดตั้งมอเตอร์คู่ของ Huawei DriveONE ด้านหน้า ให้กำลัง 265 แรงม้า มอเตอร์หลัง ให้กำลัง 313 แรงม้า รวมกำลัง 578 แรงม้า แรงบิตสูงสุด 650 นิวตัน-เมตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

  • อัตราส่วนน้ำหนักหน้า-หลัง 50:50
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.98 วินาที
  • แบตเตอรี่ลิเธียม CATL NMC 90kWh (แบตเตอรี่ของ CATL) วิ่งได้  580 กม./ชาร์จ CLTC
  • ชาร์จ 240KW SOS 0-80% ภายใน 25 นาที
  • ชาร์จ 240KW SOS 30-80% ภายใน 15 นาที
  • ชาร์จ AC 11KW SOS 0-100% ภายใน 10.5 ชม.
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.98 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม.

ติดตั้งมอเตอร์คู่ของ Huawei DriveONE ด้านหน้า ให้กำลัง 265 แรงม้า มอเตอร์หลัง ให้กำลัง 313 แรงม้า รวมกำลัง 578 แรงม้า แรงบิตสูงสุด 650 นิวตัน-เมตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

  • อัตราส่วนน้ำหนักหน้า-หลัง 50:50
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.98 วินาที
  • แบตเตอรี่ลิเธียม CATL NMC 116kWh (แบตเตอรี่ของ CATL) วิ่งได้  700 กม./ชาร์จ CLTC
  • ชาร์จ 240KW SOS 0-80% ภายใน 35 นาที
  • ชาร์จ 240KW SOS 30-80% ภายใน 25 นาที
  • ชาร์จ AC 11KW SOS 0-100% ภายใน 13.5 ชม.
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.5 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม.

มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว  Huawei DriveONE ให้กำลัง 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 370 นิวตัน-เมตร

  • อัตราส่วนน้ำหนักหน้า-หลัง 50:50
  • แบตเตอรี่ลิเธียม CATL NMC 90kWh (แบตเตอรี่ของ CATL) วิ่งได้ 630 กม./ชาร์จ CLTC
  • ชาร์จ 240KW SOS 0-80% ภายใน 25 นาที
  • ชาร์จ 240KW SOS 30-80% ภายใน 15 นาที
  • ชาร์จ AC 11KW SOS 0-100% ภายใน 10.5 ชม.
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม.

มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว Huawei DriveONE ให้กำลัง 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 370 นิวตัน-เมตร

  • อัตราส่วนน้ำหนักหน้า-หลัง 50:50
  • แบตเตอรี่ลิเธียม CATL NMC 116kWh (แบตเตอรี่ของ CATL) วิ่งได้ 730 กม./ชาร์จ CLTC
  • ชาร์จ 240KW SOS 0-80% ภายใน 35 นาที
  • ชาร์จ 240KW SOS 30-80% ภายใน 25 นาที
  • ชาร์จ AC 11KW SOS 0-100% ภายใน 13.5 ชม.
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.9 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม.

ช่วงล่าง

  • ระบบกันสะเทือนหน้า ปีกนกคู่อลูมิเนียมอัลลอยด์
  • ระบบกันสะเทือนหลัง Five-link แบบอิสระ
  • พวงมาลัยเพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์แบบปรับความเร็วได้
  • ดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความร้อนทั้งหน้าและหลัง

  วันที่ 1 กันยายน 2023 Huawei AVATR 11 EV ประกาศยอดจองทะลุ 5,000 คันภายใน 7 วัน หลังจากเปิดขายในวันที่ 24 สิงหาคม 2023  

  

 

 

 

 

 

 

 

 

Autohome / Inf.news

https://www.car250.com/motor-expo-2023.html

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้