ราคาใหม่ 1.28 ล้านบาทในจีน AVATR 12 EREV ไฟฟ้าช่วงขยาย วิ่งไฟฟ้า 245 กม. CLTC
รายงานวันที่ 24 มีนาคม 2024 เผยว่าปัจจุบัน AVATR 12 ซีดานไฟฟ้ามียอดขายกว่า 40,000 คัน หลังจากเปิดตัว 10 พฤศจิกายน 2023 และส่งมอบครั้งแรกในวันที่ 10 ธันวาคม 2024 รวมระยะเวลากว่า 5 เดือน พร้อมเปิดตัวสีใหม่”Hui Gold” “ฮุ่ยโกลด์”
ก่อนหน้านี้ Chen Zhuo ประธาน AVATR Technology ได้ประกาศยอดการผลิต AVATR 12 ในเดือนนี้ 8,000 – 10,000 คัน และคาดว่าจะส่งมอบถึง 8,000 คัน แม้จะเผชิญกับความท้าทายในการจัดหาชิ้นส่วน ด้วยความช่วยเหลือจากการรับประกันการจัดหาแบบเร่งด่วนของ Huawei รถยนต์มากกว่า 2,000 คันก็ถูกส่งมอบภายในเวลาเพียง 20 วัน
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2024 AVATR ประเทศจีน ประกาศส่วนลดพิเศษสำหรับ AVATR 12 ทั้งหมด 6 รุ่นย่อย โดยแบ่งเป็นรุ่น ไฟฟ้าช่วงขยาย EREV จาก 269,900 -299,900 หยวน หรือประมาณ 1.28 – 1.42 ล้านบาท เหลือ 259,900 – 289,900 หยวน หรือประมาณ 1.23 – 1.38 ล้านบาท รุ่นไฟฟ้าล้วน BEV จาก 289,900 – 429,900 หยวน หรือประมาณ 1.38 – 2.04 ล้านบาท เหลือ 279,900 – 419,900 หยวน หรือประมาณ 1.33 – 2.0 ล้านบาท
车型 |
售价(万元) |
限时权益价(万元) |
Max增程版 |
26.99 |
25.99 |
Ultra增程版 |
29.99 |
28.99 |
Max纯电版 |
28.99 |
27.99 |
Ultra纯电版四驱 |
32.99 |
31.99 |
Master纯电版四驱 |
36.99 |
35.99 |
皇家剧院版 |
42.99 |
41.99 |
AVATR 12 ดำเนินการออกแบบโดย Avita Global Design Center ในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี โดยมีแนวคิด “ล้ำยุค” เป็นแนวคิดในการออกแบบหลัก ซึ่งแสดงถึงเสน่ห์ด้านสุนทรียภาพอันเป็นเอกลักษณ์ สร้างขึ้นบนพื้นฐานของแพลตฟอร์มเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ CHN รุ่นใหม่
AVATR 12 รูปลักษณืการออกแบบภายนอกคล้ายๆ AVATR 11 SUV ไฟฟ้า กระจังหน้าแบบปิดไฟหน้าแบบ LED เพรียวบาง พร้อมเส้นไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED ไฟเลี้ยวสามารถแสดงไดนามิกของน้ำไหล การออกแบบทั้งหมดใช้พื้นฐานของ AVATR 11 อย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นเราสามารถอ้างอิงเทคโนโลยีจาก AVATR11 ได้แบบเต็มๆ ตัวถังออกแบบสไตล์ Slip-back ทำให้ดูปราดเปรียวและมีสไตล์มากขึ้น กระจกมองข้างแบบดิจิตอล ล้ออัลลอยขนาด 20 – 21 นิ้วตามเกรด
ขนาดัวถัง AVATR 12
- ยาว 5,020 มม.
- กว้าง 1,999 มม.
- สูง 1,460 มม.
- ระยะฐานล้อ 3,020 มม.
- ล้ออัลลอย 20 นิ้ว ยาง 265/45 R20 และ ล้ออัลลอย 21 นิ้ว ยาง 265/40 R21
- น้ำหนัก 2,180 – 2,300 กก.
- ภายในรองรับ 5 ที่นั่ง
ภายในห้องโดยสารออกแบบภายใต้แนวคิด “Vortex Emotional Eddy Current” เน้นกึ่งกลาง พร้อมนวัตกรรมใหม่ๆ เน้นความสปอร์ต และ หรูหราด้วยโทนดำ-เทา เบาะหนัง Nappa คู่หน้า เบาะนั่งด้านหน้าเป็นแบบ Bucket-Shape รองรับการปรับไฟฟ้า ระบบทำความร้อน และ ฟังก์ชั่นนวด ที่พักแขนตรงกลางมาพร้อมระบบชาร์จไร้สาย และตู้เย็นบริเวณด้านล่าง
จอไวด์สกรีนแบบพาโนรามาขนาด 35.4 นิ้ว ความละเอียด 4K พร้อมจอแสดงผลที่กระจกมองหลังด้านนอกทั้งสองด้านและข้อมูลการขับขี่บางส่วนอยู่ตรงกลาง ประกอบด้วย หน้าจอส่วนกลางแบบลอยขนาด 15.6 นิ้ว หน้าปัด Full LCD ขนาด 10.25 นิ้ว หน้าจอสำหรับผู้โดยสารขนาด 10.25 นิ้ว ติดตั้งระบบปฏิบัติ Hamony OS รุ่นล่าสุด ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะระดับไฮเอนด์ เช่น Huawei ADS 2.0
ลำโพง 27 ตำแหน่ง + เพาเวอร์แอมป์ภายนอก 12 ช่อง ติดตั้ง RNC (Road Noise Cancellation) การลดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ และ เทคโนโลยีคลื่นเสียงแบบแอ็คทีฟ ASE (Active Sound Enhancement) พร้อมโหมดน้ำหอมเป็นอุปกรณ์เสริม
- ASE (Active Noise Cancellation) Sound Enhancement) เทคโนโลยีคลื่นเสียงแบบแอคทีฟที่สามารถจำลองเครื่องยนต์ได้หลากหลาย
ฟังก์ชันการชาร์จแบบไร้สาย สำหรับโทรศัพท์มือถือแถวหน้า ให้กำลังชาร์จสูงถึง 50W ซันรูฟพาโนรามาแบบแบ่งส่วนได้ - ระบบการจับคู่แผนที่มีความแม่นยำสูงช่วยให้ Avita 11 สามารถรับรู้ภาพได้สูง 360 องศา ทั้งกลางคืน แสงน้อย อุโมงค์ และ ความมืด ทำให้ไม่มีปัญหาในการรับรู้
- พร้อมกับโซลูชันสมาร์ทคาร์แบบฟูลสแตกของ Huawei ซึ่งรวมถึง Huawei Smart Driving, Smart Cockpit, ระบบเชื่อมต่อัฉจริยะ อินเตอร์เน็ต Smart Electric และ บริการคลาววด์ในรถยนต์
AVATR 12 ติดตั้ง Lidar 3 ตัว, เรดาร์คลื่น 6 มม., เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว และกล้อง 13 ตัว พร้อมพลังประมวลผล 400TOPS สำหรับ Lidar ไม่เพียงแต่สามารถตรวจจับระยะไกลได้ 150 เมตรเท่านั้น แต่ยังมีความแม่นยำในการตรวจจับสูง พร้อมจำลองภาพ 3D เรนดาร์คลื่นมิลลิเมตร สามารถตรวจจับอย่างแม่นยำได้ไกลอีก 210 เมตร นอกจากนี้ยังตอบสนองต่อ การจดจำเลน การเปลี่ยนสัญญาณไฟจราจร ระยะห่างจากคนเดินถนน สิ่งกีดขวางวัตถุที่ต่ำ หรื เล็กจนมองไม่เห็น
- ระบบช่วยนำทางสำหรับการขับขี่อัจฉริยะของ NCA ในความเร็วสูง
- ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ APA
- ระบบช่วยจดจำสัญญาไฟจราจร
- ระบบจำกัดความเร็วอัจฉริยะ
- ระบบเตือนการเปิดประตู
ไฟฟ้าช่วงขยาย EREV มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว
- เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร + มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวด้านหลัง
- ให้กำลัง 314 แรงม้า
- แรงบิด 367 นิวตัน-เมตร
- แบตเตอรี่ LFP 39.05kWh
- วิ่งไฟฟ้า 245 กม. CLTC
- ครอบคลุมการวิ่ง 1,115 กม./ถังน้ำมัน
- ชาร์จ DC 30-80% ภายใน 15 นาที
- ชาร์จ AC 100% ภายใน 7 ชั่วโมง
- ความเร็วสูงสุด 190 กม./ชม.
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.7 วินาที
- อัตราประหยัด 17.2 กม./ลิตร
มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวด้านหลัง RWD
- ให้กำลัง 308 แรงม้า
- แรงบิด 370 นิวตัน-เมตร
- แบตเตอรี่ Ternary Lithium Battery ขนาด 94.5kWh
- สามารถวิ่งได้ 700 กม./ชาร์จ CLTC
- รองรับการชาร์จ DC 240kW 0 – 80% SOS ภายใน 30 นาที
- รองรับการชาร์จ DC 240KW 30-80% SOS ภายใน 20 นาที ร
- องรับการชาร์จ AC 11KW 0-100% SOS ภายใน 11 ชั่วโมง
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.7 วินาที
- ความเร็วสูงสุด 215 กม./ชม.
- รองรับการจ่ายไฟภายนอก 3.3KW
มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ AWD
- มอเตอร์ไฟฟ้าหน้า ให้กำลัง 261 แรงม้า ม
- อเตอร์ไฟฟ้าหลัง ให้กำลัง 308 แรงม้า
- รวมกำลังสูงสุด 569 แรงม้า
- แรงบิด 650 นิวตัน-เมตร
- แบตเตอรี่ Ternary Lithium Battery ขนาด 94.5kWh
- สามารถวิ่งได้ 650 กม./ชาร์จ CLTC
- รองรับการชาร์จ DC 240kW 0 – 80% SOS ภายใน 30 นาที
- รองรับการชาร์จ DC 240KW 30-80% SOS ภายใน 20 นาที ร
- องรับการชาร์จ AC 11KW 0-100% SOS ภายใน 11 ชั่วโมง
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.9 วินาที
- ความเร็วสูงสุด 220 กม./ชม.
- รองรับการจ่ายไฟภายนอก 3.3KW
ช่วงล่าง
- ระบบกันสะเทือนหน้า ปีกนกคู่อลูมิเนียมอัลลอยด์
- ระบบกันสะเทือนหลัง Five-link แบบอิสระ
ระบบกันสะเทือนแบบไดนามิก CDC (China Digital Car)
ระบบกันสะเทือนแบบไดนามิก CDC (China Digital Car) เป็นระบบกันสะเทือนที่พัฒนาโดยหัวเว่ย โดยใช้เทคโนโลยี AI และเซ็นเซอร์ต่างๆ เพื่อปรับแต่งการตอบสนองของระบบกันสะเทือนให้เหมาะสมกับสภาพการขับขี่และการใช้งาน
ระบบกันสะเทือนแบบถุงลมประสิทธิภาพสูงสามารถปรับความสูงของรถได้ตั้งแต่ +25 มม. ถึง -20 มม. รวมถึงโหมดต่ำ ปานกลาง สูง ปรับได้ และอื่นๆ และสามารถเชื่อมโยงกับโหมดต้อนรับได้ ในขณะเดียวกัน สามารถปรับด้วยตนเอง 3 สปีดได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์การขับขี่ในความถี่สูงอย่างต่อเนื่อง และสามารถเปลี่ยนโหมดการขับขี่ต่างๆ ได้ตามต้องการ
ระบบกันสะเทือนแบบไดนามิก CDC มีส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน ได้แก่:
- เซ็นเซอร์ เซ็นเซอร์ต่างๆ ติดตั้งอยู่ที่ล้อและตัวถังรถ เซ็นเซอร์เหล่านี้จะส่งข้อมูลเกี่ยวกับสภาพการขับขี่และการใช้งานไปยังระบบควบคุม
- ระบบควบคุม ระบบควบคุมจะใช้ข้อมูลที่ได้รับจากเซ็นเซอร์ต่างๆ เพื่อปรับแต่งการตอบสนองของระบบกันสะเทือน
- ชุดควบคุม ชุดควบคุมจะส่งสัญญาณไปยังโช้คอัพเพื่อให้ปรับความแข็งและระยะยุบตัว
ระบบกันสะเทือนแบบไดนามิก CDC ช่วยให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่ดีขึ้น โดยระบบจะปรับแต่งการตอบสนองของระบบกันสะเทือนให้เหมาะสมกับสภาพการขับขี่และการใช้งาน เช่น ความเร็ว สภาพถนน และลักษณะการขับขี่
ระบบกันสะเทือนแบบไดนามิก CDC มีประโยชน์หลายประการ ดังนี้
- ความปลอดภัย ระบบกันสะเทือนแบบไดนามิก CDC ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ โดยระบบจะปรับแต่งการตอบสนองของระบบกันสะเทือนให้เหมาะสมกับสภาพถนนและลักษณะการขับขี่ เช่น หากผู้ขับขี่กำลังขับขี่บนถนนที่ขรุขระ ระบบจะปรับแต่งการตอบสนองของระบบกันสะเทือนให้นุ่มขึ้น เพื่อลดการสั่นสะเทือนและช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้อย่างปลอดภัย
- ความสะดวกสบาย ระบบกันสะเทือนแบบไดนามิก CDC ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ โดยระบบจะปรับแต่งการตอบสนองของระบบกันสะเทือนให้เหมาะสมกับสภาพถนนและลักษณะการขับขี่ เช่น หากผู้ขับขี่กำลังขับขี่บนถนนที่เรียบ ระบบจะปรับแต่งการตอบสนองของระบบกันสะเทือนให้แข็งขึ้น เพื่อช่วยให้รถเกาะถนนได้ดี
- ประสิทธิภาพ ระบบกันสะเทือนแบบไดนามิก CDC ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ โดยระบบจะปรับแต่งการตอบสนองของระบบกันสะเทือนให้เหมาะสมกับความเร็วและลักษณะการขับขี่ เช่น หากผู้ขับขี่กำลังขับขี่ด้วยความเร็วสูง ระบบจะปรับแต่งการตอบสนองของระบบกันสะเทือนให้แข็งขึ้น เพื่อช่วยให้รถเกาะถนนได้ดีและเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่
ระบบกันสะเทือนแบบไดนามิก CDC กำลังถูกนำมาใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะหลายรุ่น เช่น BYD Dolphin และ SERES SF5 คาดว่าระบบกันสะเทือนแบบไดนามิก CDC จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะในอนาคต
ระบบกระจายแรงบิดแบบไดนามิก iTRACK
ระบบกระจายแรงบิดแบบไดนามิก iTRACK ของ Huawei เป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการขับขี่และความปลอดภัยของรถยนต์ ระบบนี้ใช้เซ็นเซอร์และอัลกอริธึม AI เพื่อวิเคราะห์สภาพการขับขี่และกระจายแรงบิดไปยังล้อแต่ละล้ออย่างเหมาะสม
ระบบ iTRACK ประกอบด้วยโมดูลต่างๆ ต่อไปนี้:
- โมดูลเซ็นเซอร์: โมดูลนี้ใช้เซ็นเซอร์ต่างๆ เช่น เซ็นเซอร์ความเร็วล้อ เซ็นเซอร์มุมล้อ และเซ็นเซอร์แรง G เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสภาพการขับขี่
- โมดูล AI: โมดูลนี้ใช้อัลกอริธึม AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลจากเซ็นเซอร์และตัดสินใจว่าจะกระจายแรงบิดไปยังล้อแต่ละล้ออย่างไร
- โมดูลควบคุม: โมดูลนี้ใช้ข้อมูลจากโมดูล AI เพื่อควบคุมระบบส่งกำลังและกระจายแรงบิดไปยังล้อแต่ละล้อ
ระบบ iTRACK มีประโยชน์มากมายสำหรับผู้ใช้รถยนต์ รวมถึง:
- การปรับปรุงประสิทธิภาพการขับขี่: ระบบ iTRACK สามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการขับขี่โดยลดการลื่นไถลและการสูญเสียแรงบิด
- การปรับปรุงความปลอดภัย: ระบบ iTRACK สามารถช่วยปรับปรุงความปลอดภัยโดยลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุ
- การปรับปรุงความสะดวกสบาย: ระบบ iTRACK สามารถช่วยปรับปรุงความสะดวกสบายในการขับขี่โดยลดการสั่นสะเทือนและการยึดเกาะถนน
ระบบ iTRACK สามารถใช้ในรถยนต์ทุกประเภท ตั้งแต่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไปจนถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่ เทคโนโลยีนี้สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการขับขี่และความปลอดภัยของรถยนต์ทุกประเภท
ตัวอย่างการใช้งานระบบ iTRACK ได้แก่:
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคล: ระบบ iTRACK สามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการขับขี่ในสภาพถนนที่เปียกหรือลื่น
- รถบรรทุกขนาดใหญ่: ระบบ iTRACK สามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการขับขี่และความปลอดภัยในการลากจูง
ระบบ iTRACK เป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ก้าวล้ำ ซึ่งสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการขับขี่และความปลอดภัยของผู้ใช้รถยนต์ได้
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบ iTRACK
ระบบ iTRACK ใช้เซ็นเซอร์ต่างๆ เช่น เซ็นเซอร์ความเร็วล้อ เซ็นเซอร์มุมล้อ และเซ็นเซอร์แรง G เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสภาพการขับขี่ ข้อมูลนี้รวมถึงความเร็วของล้อแต่ละล้อ ทิศทางการเคลื่อนที่ของรถยนต์ และแรงกดบนล้อแต่ละล้อ
โมดูล AI ของ iTRACK ใช้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์เพื่อวิเคราะห์สภาพการขับขี่และตัดสินใจว่าจะกระจายแรงบิดไปยังล้อแต่ละล้ออย่างไร อัลกอริธึม AI ของ iTRACK ได้รับการฝึกฝนบนชุดข้อมูลขนาดใหญ่ของข้อมูลการขับขี่ ซึ่งช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ
โมดูลควบคุมของ iTRACK ใช้ข้อมูลจากโมดูล AI เพื่อควบคุมระบบส่งกำลังและกระจายแรงบิดไปยังล้อแต่ละล้อ โมดูลควบคุมสามารถปรับแต่งแรงบิดไปยังล้อแต่ละล้อได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพการขับขี่
ระบบ iTRACK เป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะที่มีประสิทธิภาพซึ่งสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการขับขี่และความปลอดภัยของรถยนต์ได้ ระบบนี้ใช้เซ็นเซอร์และอัลกอริธึม AI เพื่อวิเคราะห์สภาพการขับขี่และกระจายแรงบิดไปยังล้อแต่ละล้ออย่างเหมาะสม
https://www.car250.com/2023-avita-11-ev-china-new.html