ห้ามไฟติด แม้เกิดลัดวงจร! จีนประกาศมาตรฐานความปลอดภัยแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ เริ่มกลางปี 2026

หัวใจหลักของมาตรฐานใหม่:
- แบตเตอรี่ต้องไม่ติดไฟหรือระเบิด แม้เกิดลัดวงจรภายใน (thermal runaway)
-
เพิ่มการทดสอบใหม่:
- ทดสอบการกระจายความร้อน
- ทดสอบการกระแทกใต้ท้องรถ
- ทดสอบความปลอดภัยหลังชาร์จเร็ว 300 รอบ
-
แม้ไฟไม่ติดก็ต้องแจ้งเตือน และควันต้องไม่อันตรายต่อผู้โดยสาร
เหตุผลที่ต้องออกมาตรฐานใหม่:
-
รถ EV เกิดไฟไหม้บ่อยจากการชน, ชาร์จผิดพลาด, หรือแบตเตอรี่คุณภาพต่ำ
-
สถิติเผย:
- 22.67% ไฟไหม้ตอนชาร์จ
- 38.67% ไฟไหม้ตอนจอด
- 9.33% จากการชน
บริษัทดังพร้อมแล้ว:
- CATL มีเทคโนโลยีแบตเตอรี่ไม่ระเบิดมาตั้งแต่ปี 2020
- SVOLT มี “แบตเกราะมังกร” ไม่ควัน ไม่ไฟ ไม่บึ้ม
- 78% ของบริษัทในจีนมีเทคโนโลยีพร้อมรองรับ
ประกาศใช้ “มาตรฐานความปลอดภัยแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า” ฉบับใหม่ของจีน เริ่มบังคับใช้ 1 ก.ค. 2026
เมื่อวันที่ 15 เมษายน กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) ได้ประกาศใช้มาตรฐานบังคับระดับประเทศฉบับใหม่ชื่อว่า “ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของแบตเตอรี่กำลังสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า” (รหัส GB38031-2025) ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2026
“กฎแบตเตอรี่ที่เข้มงวดที่สุดในประวัติศาสตร์” เน้นย้ำว่า แบตเตอรี่ต้องไม่ติดไฟหรือระเบิด แม้เกิดการลัดวงจรภายในที่นำไปสู่การเกิดภาวะ “Thermal Runaway”
ประเด็นสำคัญของมาตรฐานใหม่:
-
ขีดเส้นตายชัดเจน: รถยนต์รุ่นใหม่ที่ยื่นขออนุมัติแบบ (type approval) ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2026 เป็นต้นไป ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานนี้ ส่วนรถที่ได้รับอนุมัติแล้ว ต้องเริ่มใช้มาตรฐานนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2027
-
ยกระดับการทดสอบแบตเตอรี่เดี่ยว (Cell Level):
- เพิ่มการทดสอบความปลอดภัยหลังการชาร์จเร็ว (Fast Charge Cycling)
- ทดสอบว่าแบตเตอรี่จะไม่ติดไฟหรือระเบิดแม้เกิด “ภาวะลัดวงจรภายใน” และ “ความร้อนสะสม”
-
การทดสอบใหม่ “การกระจายความร้อน” (Thermal Propagation Test):
- เดิม: เพียงแค่ต้องเตือนก่อนเกิดเพลิงไหม้หรือระเบิดภายใน 5 นาที
- ใหม่: ห้ามเกิดไฟไหม้หรือระเบิด, ต้องมีระบบแจ้งเตือน และควันต้องไม่เป็นอันตรายต่อผู้โดยสาร
-
การทดสอบแรงกระแทกด้านล่าง (Bottom Impact Test):
- ใช้หัวทดสอบเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 มม. กระแทกด้วยพลังงาน 150 จูล
- ผลลัพธ์ที่ยอมรับได้: ไม่มีการรั่วไหล, ตัวถังไม่แตก, ไม่มีไฟไหม้หรือระเบิด และต้องมีค่าความต้านทานฉนวนที่เหมาะสม
-
การทดสอบรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วพิเศษ (Ultra Fast Charging):
-
แบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จจาก 20% ถึง 80% SOC ภายใน 15 นาที ต้องผ่านการทดสอบการลัดวงจรหลังชาร์จเร็ว 300 รอบ โดยต้องไม่ติดไฟหรือระเบิด
-
ประเด็นเบื้องหลังมาตรฐาน:
- ปัญหาแบตเตอรี่ถือเป็นสาเหตุหลักของไฟไหม้ในรถยนต์พลังงานใหม่
- ปัญหาที่พบบ่อย: ชนอย่างรุนแรง, การชาร์จเกิน-ปล่อยไฟเกิน, แบตเตอรี่คุณภาพต่ำ, ชาร์จด้วยกำลังไฟสูงเกินไป
-
สถิติในปี 2022
- 22.67% เกิดไฟไหม้ขณะชาร์จ
- 16% เกิดระหว่างขับขี่
- 38.67% เกิดขณะจอดอยู่เฉยๆ
- 9.33% มาจากการชน
- 13.33% จากสาเหตุอื่น
เหตุการณ์ที่กระตุ้นสังคมให้ตื่นตัว:
- 28 มี.ค.: Volvo เรียกคืนรถบางรุ่นในจีน เนื่องจากอาจเกิดลัดวงจรในแบตเตอรี่
- 29 มี.ค.: Xiaomi SU7 ชนรุนแรงบนทางด่วน เกิดไฟไหม้และระเบิด เสียชีวิต 3 ราย
- 5 เม.ย.: Xiaomi SU7 อีกคัน ชนกับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เกิดไฟไหม้ เสียชีวิต 2 ราย
มาตรฐานใหม่ ≠ รถยนต์ไฟฟ้าจะไม่มีวันไฟไหม้อีก
- แม้มาตรฐานนี้ระบุว่าแบตเตอรี่ต้องไม่ติดไฟหลังเกิดภาวะ “ความร้อนสะสมจากลัดวงจรภายใน” แต่ ยังไม่ได้ครอบคลุมกรณีอุบัติเหตุภายนอก เช่น การชนอย่างรุนแรง
- ผู้ผลิตแบตเตอรี่ เช่น CATL และ SVOLT ระบุว่าเทคโนโลยีปัจจุบันของพวกเขา สามารถผ่านข้อกำหนดใหม่นี้ได้แล้ว
- CATL พัฒนาแบตเตอรี่ NP (No Propagation) ตั้งแต่ปี 2020 และมีเวอร์ชัน NP2.0 (แยกก๊าซและแรงดัน) และ NP3.0 (ไม่เกิดควันแม้เกิดความร้อนสูง)
- SVOLT มี “แบตเตอรี่เกราะมังกร” ซึ่งไม่ระเบิด ไม่เกิดควัน ไม่ติดไฟ ตั้งแต่ปี 2022
อนาคตของแบตเตอรี่ และผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
- จากการสำรวจ 36 บริษัท พบว่า 78% มีเทคโนโลยีป้องกันการติดไฟแม้เซลล์เดี่ยวจะร้อนจัด
- มาตรฐานใหม่นี้ จะส่งเสริมการแข่งขันด้วยมาตรฐานที่สูงขึ้น นำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยขึ้น
- ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่า ความปลอดภัยหลังอุบัติเหตุต้องใช้การร่วมมือจากทั้งผู้ผลิตแบตเตอรี่และผู้ผลิตรถยนต์
สรุปใจความ
มาตรฐานใหม่ GB38031-2025 ของจีน ถูกขนานนามว่าเป็น “กฎเหล็กแบตเตอรี่” ที่เข้มข้นที่สุดในโลก ด้วยเป้าหมายลดความเสี่ยงการติดไฟและระเบิดจากภาวะ “Thermal Runaway” โดยเฉพาะกรณีเกิดจากการลัดวงจรภายในเซลล์แบตเตอรี่ ซึ่งนับว่าเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ และเป็นความหวังใหม่ในด้านความปลอดภัยของผู้บริโภคในอนาคต
บทวิเคราะห์: GB38031-2025 “มาตรฐานแบตเตอรี่โหดที่สุดในโลก” จุดเปลี่ยนที่เขย่าอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า
1. จุดเปลี่ยนด้าน “ความปลอดภัย = เงื่อนไขบังคับ ไม่ใช่แค่ฟีเจอร์”
มาตรฐาน GB38031-2025 ของจีน คือครั้งแรกของโลกที่บังคับว่า แบตเตอรี่ต้องไม่ลุกไหม้หรือระเบิด แม้เกิดการลัดวงจรภายใน (Internal Short Circuit)
ไม่ใช่แค่ลดความเสี่ยง แต่คือ “ต้องไม่เกิดขึ้นเลย”
เป็นการเปลี่ยนจุดยืนของแบตเตอรี่ EV จาก “พอรับได้” → “ต้องปลอดภัยสูงสุด”
ผลกระทบ:
- ทำให้แบตเตอรี่ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ หมดสิทธิ์ใช้ในตลาดจีน
- แบรนด์ที่ไม่ลงทุนด้านความปลอดภัย อาจต้อง “ถอนตัวหรือยกระดับ”
- ส่งสัญญาณไปทั่วโลกว่า “ความปลอดภัยจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ ไม่ใช่แค่จุดขาย”
2. ยกระดับเทคโนโลยี “ไม่ใช่แค่ขายรถให้ได้ แต่ต้องรอดจากอุบัติเหตุด้วย”
การทดสอบที่เพิ่มเข้ามา เช่น:
- การกระจายความร้อน
- การทดสอบการกระแทกใต้ท้อง
- การจำลองเหตุการณ์หลังชาร์จเร็วหลายรอบ
แสดงว่า จีนกำลังมองไกลกว่าการใช้งานปกติ และพุ่งเป้าไปที่ Worst-case Scenario → ไม่ใช่แค่ต้องใช้งานได้ดี แต่ต้อง เอาตัวรอดได้ในอุบัติเหตุด้วย