BMW iX Facelift รุ่นปี 2026 ใหม่ ปรับปรุงพร้อมระยะการวิ่ง 602 – 710 กม./ชาร์จ WLTP
BMW iX กำลังได้รับการปรับโฉม Life Cycle Impulse (LCI) ที่สมควรได้รับ หลังจากเปิดตัวมาได้ประมาณ 4 ปี โดยในรุ่นปี 2026 นี้ นอกจากจะมีการปรับปรุงหลายอย่างแล้ว ยังตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวอเมริกันที่รอคอยมาอย่างยาวนาน ด้วยการเพิ่มตัวเลือกที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นในตลาดสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ รุ่นพื้นฐานอย่าง xDrive40 มีจำหน่ายเฉพาะในยุโรปเท่านั้น แต่ตอนนี้ BMW ได้นำรุ่นนี้เข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ภายใต้ชื่อใหม่ xDrive45 ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนชื่อเพื่อให้เข้ากับกลยุทธ์การตั้งชื่อใหม่ของแบรนด์ นอกจากนี้ รุ่น xDrive50 เดิมก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น xDrive60 ในขณะที่รุ่นสมรรถนะสูง M60 ก็ถูกรีแบรนด์เป็น M70 เช่นกัน
การมาของ BMW iX xDrive45 ถือเป็นข่าวสำคัญ เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าชาวอเมริกันสามารถเข้าถึงรถ SUV ไฟฟ้ารุ่นเรือธงของ BMW ได้ในราคาที่เป็นมิตรมากขึ้น โดยรุ่นพื้นฐานนี้คาดว่าจะมีสเปกคล้ายกับรุ่นที่จำหน่ายในยุโรป ซึ่งเน้นความสมดุลระหว่างสมรรถนะและราคา ทำให้ BMW iX ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม
ข้อมูล BMW iX รุ่นปรับโฉมปี 2026
- xDrive45:
75,100 ดอลลาร์ × 33.88 = 2,544,388 บาท
(+ค่าปลายทางและค่าธรรมเนียม 1,175 ดอลลาร์ = 39,812 บาท)
รวมทั้งหมด: 2,584,200 บาท - xDrive60:
88,500 ดอลลาร์ × 33.88 = 2,999,580 บาท
(+ค่าปลายทางและค่าธรรมเนียม 1,175 ดอลลาร์ = 39,812 บาท)
รวมทั้งหมด: 3,039,400 บาท - M70:
111,500 ดอลลาร์ × 33.88 = 3,778,420 บาท
(+ค่าปลายทางและค่าธรรมเนียม 1,175 ดอลลาร์ = 39,812 บาท)
รวมทั้งหมด: 3,818,200 บาท
ระยะทางขับขี่ (WLTP)
- xDrive45: วิ่งได้สูงสุด 602 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
- xDrive60: วิ่งได้สูงสุด 710 กม.
- M70 (M Performance): วิ่งได้สูงสุด 600 กม.
วิธีที่ BMW เพิ่มประสิทธิภาพ
BMW เพิ่มประสิทธิภาพของ iX ได้อย่างไร?
หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือการใช้ ซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) อินเวอร์เตอร์ ในมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมได้ 4% การใช้อุปกรณ์ SiC นี้ทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าสูญเสียพลังงานน้อยลงในระหว่างการถ่ายโอนพลังงานจากแบตเตอรี่ไปยังมอเตอร์ อีกทั้งยังช่วยลดความร้อนและเพิ่มอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้า
แม้แต่ไฟหน้าใหม่ของ iX ก็มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมถึง 10% โดยไฟกลางวัน (daytime running lights) ถูกออกแบบให้เอียงเล็กน้อยในแนวตั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับรถรุ่นใหม่ ๆ ของ BMW
การออกแบบที่ปรับปรุงใหม่
- กระจังหน้าแบบใหม่: มีแถบไฟเรืองแสงรอบขอบกระจังไตคู่ ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น M70 และมีให้เลือกเป็นอุปกรณ์เสริมในรุ่น xDrive45 และ xDrive60
- แพ็กเกจ M Sport: เพิ่มความดุดันในการออกแบบ พร้อมล้อขนาดยักษ์ 23 นิ้ว ซึ่งมีให้เลือกในรุ่น M70 และรุ่นที่ติดตั้งแพ็กเกจ M Sport
ตัวเลือกสีใหม่
- Dune Grey
- Arctic Race Blue
- Carbon Black
- Individual Frozen Deep Grey
- Space Silver Metallic (วางจำหน่ายเฉพาะในยุโรปช่วงฤดูร้อนปี 2025)
- Tanzanite Blue (วางจำหน่ายหลังมีนาคม 2025)
ตัวเลือกตกแต่งใหม่: Titanium Bronze Trim สำหรับรุ่น xDrive45 และ xDrive60
เบาะนั่งที่ได้รับการปรับปรุง
หนึ่งในจุดเด่นของ iX รุ่นปรับโฉมคือ เบาะนั่งแบบใหม่ ที่ให้การรองรับดีขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีรูปร่างสูง ซึ่งก่อนหน้านี้รู้สึกว่าเบาะรองนั่งสั้นเกินไป เบาะใหม่มีตัวเลือกการปรับแต่งมากมาย เช่น:
- ปรับความกว้างของพนักพิง
- รองรับส่วนเอว
- การออกแบบโครงเบาะเพื่อเพิ่มความสบาย
M Multi-Function Seats:
- มีในรุ่น M70 (มาตรฐาน) และเป็นอุปกรณ์เสริมในรุ่นอื่น ๆ
- มีตัวเลือกเบาะระบายอากาศและเบาะนวด (มาตรฐานใน M70)
- วัสดุหุ้มเบาะ:
- Microfibre/Sensatec
- หนัง Amido หรือ Castanea
- หรือ Sensatec ผสมผ้าขนสัตว์ (บางตลาดเท่านั้น)
การผลิตและการส่งมอบ
BMW iX รุ่นปี 2026 จะเริ่มผลิตที่โรงงาน Dingolfing ในเยอรมนี ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2025 โดยจะเริ่มส่งมอบในสหรัฐอเมริกาในช่วง ไตรมาสที่สองของปี 2025
อนาคตของ iX
BMW iX จะถูกแทนที่อย่างไม่เป็นทางการในอนาคตโดย BMW iX5 ซึ่งเป็นรุ่นไฟฟ้าของ X5 (G65) เจเนอเรชันถัดไปภายในไม่กี่ปีข้างหน้า BMW ยังคงผลักดันนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ iX รุ่นปรับโฉมเป็นรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านประสิทธิภาพ เทคโนโลยี และการออกแบบ
iX 45, iX 60 and iX M70
BMW iX รุ่นเริ่มต้น (xDrive45) มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 100.1 kWh ในขณะที่รุ่นอื่น ๆ ใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุใหญ่กว่า โดยรุ่น xDrive60 มีความจุ 113.4 kWh และรุ่นสมรรถนะสูง M70 (M Performance) ใช้แบตเตอรี่ขนาด 112.8 kWh สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน ระบบ heat pump เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทั้งสามรุ่น
อีกหนึ่งนวัตกรรมที่โดดเด่นใน BMW iX รุ่นปี 2026 คือ การเป็นรถยนต์รุ่นแรกของ BMW ที่ใช้ ซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) semiconductor components ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งพลังงานจากแบตเตอรี่ไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าผ่านอินเวอร์เตอร์ SiC
ในแง่ระยะทาง BMW ประเมินว่า iX xDrive45 สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 502 กม. (EPA) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลยสำหรับ SUV ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักถึง 2,525 กก.
สำหรับสมรรถนะ รถรุ่นนี้ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวม 402 แรงม้า และแรงบิด 700 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-60 ไมล์/ชั่วโมง ได้ในเวลา 4.9 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดจำกัดที่ 200 กม./ชั่วโมง
ถือเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัย สมรรถนะที่ดี และความคุ้มค่าที่น่าสนใจสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหญ่ในตลาดปัจจุบัน
New Entry-Level iX Coming to the U.S.
ราคาที่สูงขึ้นของ BMW iX xDrive60 เมื่อเทียบกับรุ่น xDrive50 ที่เลิกผลิตไปแล้ว ถือว่าเหมาะสมเมื่อพิจารณาถึงการเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ขึ้นอีก 20 แรงม้า โดยในรุ่นใหม่นี้ มีกำลังสูงสุด 536 แรงม้า และแรงบิด 769 นิวตัน-เมตร ส่งผลให้สามารถเร่งจาก 0-60 ไมล์/ชั่วโมง ได้ในเวลาเพียง 4.4 วินาที และมีความเร็วสูงสุดจำกัดที่ 200 กม./ชั่วโมง เช่นเดียวกับรุ่นอื่น ๆ
ในส่วนของระยะทาง BMW ระบุว่าจากการทดสอบภายใน รุ่น iX xDrive60 สามารถวิ่งได้ไกลขึ้นราว 10% ทำให้มีระยะทางสูงสุดประมาณ 547 กม./ชาร์จ (EPA) เมื่อเลือกอุปกรณ์เสริมที่เหมาะสม ซึ่งอาจหมายถึงการเลือกใช้ล้อที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ในยุโรป BMW ระบุว่ารุ่นนี้สามารถทำระยะทางได้สูงถึง 710 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP
การปรับปรุงนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มสมรรถนะและระยะทาง แต่ยังทำให้ iX xDrive60 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมที่สามารถตอบสนองทั้งการขับขี่ที่ทรงพลังและการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว
BMW iX M70: 650 hp, 482 KM
ในเวอร์ชันยุโรป xDrive45 มีระยะทางขับขี่สูงสุด 602 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ส่วน xDrive60 สามารถวิ่งได้ไกลถึง 710 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นที่มีระยะทางขับขี่ไกลที่สุดในไลน์อัพ ขณะที่ M70 รุ่นสมรรถนะสูงแบบ M Performance มีระยะทางขับขี่ที่น่าประทับใจถึง 600 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) ซึ่งผสานระหว่างพลังและความคุ้มค่าได้อย่างลงตัว