BYD ท้าชนตลาด! ระบบสมาร์ทไดรฟ์ในรถราคาเริ่ม 324,000 บาท ในจีน ติดตั้งใน 21 รุ่นย่อยพิ้นฐาน

BYD ท้าชนตลาด! ระบบสมาร์ทไดรฟ์ในรถราคาเริ่ม 324,000 บาท ในจีน ติดตั้งใน 21 รุ่นย่อยพิ้นฐาน
Spread the love

Advertisement

Advertisement

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา BYD ได้เปิดตัวรถยนต์ใหม่จำนวน 21 รุ่นที่มาพร้อมกับระบบขับขี่อัจฉริยะ “Eye of God” (ตานเซินจือเยี่ยน) โดยราคารถอยู่ในช่วง 69,800 – 249,800 หยวน (ประมาณ 324,000 – 1,161,000 บาท) จุดเด่นสำคัญของการเปิดตัวครั้งนี้คือ รถรุ่นใหม่เหล่านี้จะสามารถใช้งานระบบขับขี่อัตโนมัติบนทางหลวงและถนนความเร็วสูงได้ นอกจากนี้ BYD ยังขยายขอบเขตของระบบขับขี่อัจฉริยะให้ครอบคลุมรถหลายรุ่น รวมถึงรถระดับเริ่มต้นก็สามารถใช้งานระบบขับขี่อัตโนมัติได้เช่นกัน

รุ่นที่ได้รับการอัปเกรดระบบขับขี่อัจฉริยะ

Eye of God  C (DiPilot 100) มีในรุ่น:
Qin PLUS DM-i, Qin PLUS EV, Qin L DM-i, Han EV, Han DM-i, Yuan UP, Song L DM-i, Song L EV, Song Pro DM-i, Tang DM-i, Tang EV, Seagull, Dolphin, Seal 05 DM-i, Seal 06 DM-i, Seal 06 GT, Sea Lion 07 EV, Seal 07 DM-i, Song PLUS DM-i, Song PLUS EV

Eye of God B (DiPilot 300) มีในรุ่น:
Song L EV, Han DM-i, Han EV, Tang DM-i, Sea Lion 07 EV, Seal และรุ่นที่มีสเปกสูงกว่าของ BYD

ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ระบบขับขี่อัจฉริยะขั้นสูงจะกลายเป็นฟีเจอร์พื้นฐานที่จำเป็นเช่นเดียวกับเข็มขัดนิรภัยและถุงลมนิรภัย นายหวัง ฉวนฟู่ ประธานและซีอีโอของ BYD กล่าวในงานดังกล่าว

BYD เปลี่ยนกลยุทธ์ – จาก “สงครามราคา” สู่ “การแข่งขันด้านมูลค่า”

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา BYD ใช้กลยุทธ์ “สงครามราคา” (Price War) เพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาด อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าทางการจีนได้แนะนำให้ BYD ลดความรุนแรงของสงครามราคาลง เนื่องจากอาจทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในภาคอุตสาหกรรม

ปี 2025 BYD เปลี่ยนแนวทางสู่ “การแข่งขันด้านมูลค่า” (Value Competition) โดย เพิ่มเทคโนโลยีระบบขับขี่อัจฉริยะให้กับรถยนต์ในกลุ่มราคากลาง-ล่าง โดยไม่มีการปรับขึ้นราคา

“Eye of God” พลิกเกม – ขยายเทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะสู่ตลาดรถราคาประหยัด

เดิมที ระบบขับขี่อัจฉริยะระดับสูงมักถูกจำกัดไว้เฉพาะรถยนต์ระดับไฮเอนด์ (ราคา 250,000 หยวนขึ้นไป) แต่แนวโน้มอุตสาหกรรมเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เช่น

  • Tesla เร่งขยายการใช้งาน FSD (Full Self-Driving)
  • แบรนด์จีนอย่าง Xpeng ปรับใช้ระบบ XNGP ในรุ่น MONA M03 ที่มีราคาไม่ถึง 150,000 หยวน
  • Changan ประกาศติดตั้ง LiDAR ในรถยนต์ราคาประมาณ 100,000 หยวน

BYD ตระหนักดีว่า การแข่งขันด้านเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนไป หากแบรนด์อื่นสามารถติดตั้งระบบขับขี่อัจฉริยะในรถยนต์ระดับราคากลาง-ล่าง BYD อาจเสียเปรียบในระยะยาว

BYD ยกระดับระบบขับขี่อัจฉริยะ – จาก “ตามหลัง” สู่ “ผู้นำ”

ก่อนหน้านี้ BYD ถูกมองว่าล้าหลังด้านเทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะ เนื่องจาก ระบบช่วยขับขั้นพื้นฐาน (ACC, LKA, Auto Parking) เท่านั้นที่มีอยู่ในรุ่นมาตรฐาน

แต่ในปี 2025 หวัง ฉวนฝู ได้ เปลี่ยนแนวทางการเล่าเรื่องของ BYD จาก “การเน้นพัฒนา EV” เป็น “การมุ่งสู่ยุคอัจฉริยะ” พร้อมกับ ยืนยันว่าบริษัทพัฒนาระบบขับขี่อัจฉริยะมานาน แต่ไม่ได้เปิดเผยก่อนหน้านี้เนื่องจากต้องการให้เทคโนโลยีมีความพร้อมที่สุดก่อนเปิดตัว

ระบบขับขี่อัจฉริยะของ BYD

BYD ใช้ทั้ง ระบบขับขี่อัจฉริยะ Eye of God (พัฒนาโดย BYD เอง) และ Huawei QianKun ADS 3.0 (พัฒนาโดย Huawei) ซึ่งระบบ Huawei QianKun ได้เปิดตัวครั้งแรกใน Fang Cheng Bao Bao 8 โดยสามารถรองรับฟังก์ชันขับขี่อัจฉริยะหลายรูปแบบ เช่น
✅ ระบบช่วยควบคุมรถอัตโนมัติบนทางหลวง
✅ ระบบขับขี่อัจฉริยะในเขตเมือง (สามารถเปลี่ยนเลน, เลี่ยงสิ่งกีดขวาง, เลี้ยวเข้าหรือออกจากทางแยกอัตโนมัติ)
✅ ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ
✅ ระบบจอดรถระยะไกล (Valet Parking)

ระบบขับขี่อัจฉริยะ “God’s Eye”

BYD ตั้งชื่อระบบขับขี่อัจฉริยะของตนว่า “God’s Eye” ซึ่งมีโครงสร้างคล้ายกับระบบควบคุมตัวถัง DiSus และแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่

  • God’s Eye A – DiPilot 600

    • ใช้ LiDAR 3 ตัว
    • ติดตั้งในแบรนด์หรูระดับสูง Yangwang
  • God’s Eye B – DiPilot 300

    • ใช้ LiDAR 1 ตัว
    • ใช้กับแบรนด์ Denza และรถยนต์ BYD ระดับพรีเมียม
  • God’s Eye C – DiPilot 100

    • ไม่มี LiDAR แต่ใช้ระบบกล้องแทน
    • ใช้ในรุ่นราคาประหยัดของ BYD
    • เทียบเท่ากับ DiPilot 100
    • ใช้ชิป NVIDIA Orin N (84 TOPS)
    • กล้อง 12 ตัว (รวมกล้องหน้าความละเอียด 8MP)
    • เรดาร์ 5 ตัว + เซ็นเซอร์อัลตราโซนิก 12 ตัว
    • รองรับระบบขับขี่อัตโนมัติบนทางหลวง (ช่วยเปลี่ยนเลน, หลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง, เข้าทางออกทางด่วนอัตโนมัติ)
    • ฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น จอดรถอัตโนมัติ, ระบบจอดรถระยะไกล (Valet Parking), ระบบจำจดเส้นทางขับขี่ในเมือง (MNOA) และการอัปเกรด OTA ภายในปีนี้
    • ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม เช่น เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) ที่รองรับสูงสุด 100 กม./ชม. (และอาจเพิ่มเป็น 120-140 กม./ชม.ในอนาคต), ระบบเตือนการชน, ระบบเตือนจุดบอด และเตือนการเปิดประตู

21 รุ่นที่ได้รับอัปเดต Smart Driving Edition (ไม่มีการเพิ่มราคา)

BYD ได้อัปเกรดรถยนต์ 21 รุ่นให้เป็น Smart Driving Edition โดยไม่มีการปรับขึ้นราคา

ซีรีส์ Ocean (11 รุ่น)

รุ่น ราคา (หยวน) ราคา (บาท)
Seagull Smart Driving Edition 69,800 – 85,800 337,000 – 414,000
Dolphin Smart Driving Edition 99,800 – 125,800 482,000 – 608,000
Seal 05 DM-i Smart Driving Edition 79,800 – 103,800 386,000 – 502,000
Seal 06 DM-i Smart Driving Edition 99,800 – 139,800 482,000 – 675,000
Seal 06 GT Smart Driving Edition 136,800 – 186,800 660,000 – 900,000
Seal 07 DM-i Smart Driving Edition 139,800 – 195,800 675,000 – 945,000
Seal Smart Driving Edition 175,800 – 239,800 848,000 – 1,156,000
Sealion 05 DM-i Smart Driving Edition 102,800 – 132,800 496,000 – 640,000
Song Plus DM-i Smart Driving Edition 135,800 – 175,800 655,000 – 848,000
Song Plus EV Smart Driving Edition 149,800 – 175,800 722,000 – 848,000
Sealion 07 EV Smart Driving Edition 189,800 – 239,800 916,000 – 1,156,000

ซีรีส์ Dynasty (10 รุ่น)

รุ่น ราคา (หยวน) ราคา (บาท)
Qin Plus DM-i (เจเนอเรชัน 2) 79,800 – 103,800 386,000 – 502,000
Qin Plus EV (เจเนอเรชัน 2) 109,800 – 129,800 531,000 – 628,000
Qin L DM-i Smart Driving Edition 99,800 – 139,800 482,000 – 675,000
Song L DM-i Smart Driving Edition 135,800 – 175,800 655,000 – 848,000
Song L EV Smart Driving Edition 189,800 – 249,800 916,000 – 1,206,000
Song Pro DM-i Smart Driving Edition 102,800 – 132,800 496,000 – 640,000
Yuan Up Smart Driving Edition 99,800 – 119,800 482,000 – 578,000
Han DM-i Smart Driving Edition 168,800 – 225,800 814,000 – 1,089,000
Han EV Smart Driving Edition 179,800 – 235,800 868,000 – 1,136,000
Tang DM-i Smart Driving Edition 179,800 – 219,800 868,000 – 1,072,000

BYD ทุ่ม 100,000 ล้านหยวน (ประมาณ 468,000 ล้านบาท) ในการพัฒนาระบบอัจฉริยะ

BYD ลงทุนอย่างหนักในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะ โดยนายหยาง ตงเซิง รองประธานอาวุโสของกลุ่ม BYD เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มเทวิศวกรกว่า 5,000 คน และใช้เวลากว่า 7 ปี ในการพัฒนา

ปัจจุบัน รถยนต์ BYD กว่า 4.4 ล้านคัน ได้รับการติดตั้งระบบขับขี่อัจฉริยะระดับ L2 ขึ้นไป และมีการขับขี่สะสมมากกว่า 3.7 พันล้านกิโลเมตร ด้วยระบบช่วยขับ

ล่าสุด BYD ได้อัปเกรดแพลตฟอร์มไฮบริด DM และแพลตฟอร์มไฟฟ้า e เป็น Xuanji Architecture เพื่อรองรับระบบ God’s Eye C ซึ่งเป็นหัวใจหลักของกลยุทธ์ยานยนต์อัจฉริยะของบริษัท

การเปลี่ยนแปลงของตัวรถ

  • รถยนต์ที่อัปเกรดระบบขับขี่อัจฉริยะในครั้งนี้ ส่วนใหญ่ ยังคงดีไซน์เดิม
  • มีการเพิ่ม กล้องและเซ็นเซอร์สำหรับระบบขับขี่อัจฉริยะ
  • ติดตั้ง ไฟ LED สีฟ้าที่กระจกมองข้าง เพื่อให้คันอื่นรู้ว่ารถใช้ระบบขับขี่อัจฉริยะ
  • มี ปุ่มควบคุมระบบขับขี่อัจฉริยะบนพวงมาลัย

รถยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวเพิ่มเติม

นอกจากการอัปเกรดระบบขับขี่อัจฉริยะ BYD ยังเปิดตัว รถยนต์ใหม่บางรุ่น ได้แก่:

  • Qin PLUS DM-i รุ่นใหม่ และ Seal 05 DM-i รุ่นใหม่ – ใช้เทคโนโลยี DM รุ่นที่ 5
  • Sea Lion 05 DM-i – เปลี่ยนดีไซน์ด้านหน้าใหม่ ใช้กระจังหน้าแนวปิดแทนแบบเดิม
  • Seagull – อัปเกรดกันชนหน้า, เพิ่มขนาดจอแสดงผล และเปลี่ยนเป็นเกียร์แบบหมุน
  • Dolphin รุ่นใหม่ – อัปเกรดดีไซน์ภายนอกและขยายตัวถัง ยาวขึ้น 130 มม.

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้