BYD ขายรถ 1 คันมีกำไร 40,000 บาทในไตรมาสแรกปี 2025 ยอดขาย 1.05 ล้านคัน

BYD ขายรถ 1 คันมีกำไร 40,000 บาทในไตรมาสแรกปี 2025 ยอดขาย 1.05 ล้านคัน
Spread the love

Advertisement

Advertisement

สรุปไฮไลต์ผลประกอบการ BYD ไตรมาส 1 ปี 2025

  • รายได้: 170,360 ล้านหยวน (≈ 784,971 ล้านบาท) โต 36.35% จากปีก่อน
  • กำไรสุทธิ: 9,155 ล้านหยวน (≈ 42,183 ล้านบาท) โต 100.38%
  • ยอดผลิต NEV: 1.0571 ล้านคัน โต 72.64%
  • ยอดขาย NEV: 1.0008 ล้านคัน โต 59.81%
  • ยอดขายรถนั่งส่วนบุคคล: 986,100 คัน โต 57.93%
  • ตลาดต่างประเทศ:

    • ขายทะลุ 200,000 คัน โต 110%
    • Denza บุกอินโดนีเซีย, มาเลเซีย, และจ่อเปิดตัวยุโรป เม.ย.
    • เรือโร-โร “BYD HEFEI”
  • ต้นทุนการดำเนินงาน: 162,850 ล้านหยวน โต 35%
  • งบวิจัยและพัฒนา (R&D): 14,220 ล้านหยวน (≈ 65,521 ล้านบาท) โต 34%
  • นวัตกรรมเทคโนโลยี:

    • เปิดตัว Super e Platform
    • แบตเตอรี่ชาร์จเร็วระดับ “แฟลช”
    • มอเตอร์ไฟฟ้า 30,000 รอบ/นาที
    • ชิป SiC (ซิลิกอนคาร์ไบด์)
    • ระบบไฟฟ้าใหม่ รองรับชาร์จเมกะวัตต์ (1,000 kW)

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท BYD Co., Ltd. ออกประกาศบนตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ในไตรมาสแรกของปี 2568 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน 170,360 ล้านหยวน หรือประมาณ 784,971 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.35% จากปีก่อน กำไรสุทธิที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทจดทะเบียนอยู่ที่ 9.155 พันล้านหยวน หรือประมาณ 42,183 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100.38% จากปีก่อน

จากการประกาศตัวเลขการผลิตและการขาย พบว่าในไตรมาสแรกของปี 2568 BYD ผลิตยานยนต์พลังงานใหม่ได้ทั้งหมด 1.0571 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 72.64% เมื่อเทียบเป็นรายปี ยอดขายสะสมอยู่ที่ 1.0008 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 59.81% โดยยอดผลิตสะสมของยานยนต์นั่งส่วนบุคคลอยู่ที่ 1.0419 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 70.68% จากปีก่อน ยอดขายสะสมอยู่ที่ 986,100 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 57.93%

BYD มีผลงานแข็งแกร่งในตลาดต่างประเทศ โดยมียอดขายในต่างประเทศเกิน 200,000 คันในไตรมาสแรก ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 110% ปัจจุบัน BYD กำลังขยายตลาดต่างประเทศอย่างแข็งขัน แบรนด์ Denza เข้าสู่ตลาดประเทศต่างๆ เช่น อินโดนีเซียและมาเลเซีย และมีกำหนดเปิดตัวในยุโรปในเดือนเมษายน เพื่อให้แน่ใจว่าตลาดต่างประเทศจะขยายตัวและมีการจัดหาสินค้าเพียงพอ เรือขนส่งสินค้าแบบโร-โรลำที่ 3 ของ BYD ชื่อ “BYD HEFEI” จึงออกเดินทางได้อย่างราบรื่นในเดือนมกราคม

รายงานทางการเงินยังแสดงให้เห็นอีกว่าต้นทุนการดำเนินงานของ BYD ในไตรมาสแรกอยู่ที่ 162.85 พันล้านหยวน หรือ 749,964 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% จากปีก่อน ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาอยู่ที่ 14,220 ล้านหยวนหรือประมาณ 65,521 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากปีก่อน ในด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี BYD ได้เปิดตัว “Super e Platform” แนะนำแบตเตอรี่ชาร์จแบบแฟลช มอเตอร์ 30,000 รอบต่อนาที และชิปพลังงานซิลิกอนคาร์ไบด์เกรดยานยนต์รุ่นใหม่ และอัปเกรดระบบไฟฟ้าสามระบบหลักอย่างสมบูรณ์เพื่อให้ได้พลังงานในการชาร์จระดับเมกะวัตต์ (1,000 กิโลวัตต์)

Autohome

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้