BYD ขึ้นเป็นแบรนด์ไฟฟ้าอันดับ 2 ในออสเตรเลีย รองจาก Tesla คาดว่าอีกไม่นานอันดับ 1
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2022 Drive สื่อรถยนต์ออสเตรเลีย รายงานว่า BYD เป็นแบรนด์รถยนต์สัญชาติจีนรายใหญ่อันดับสองในออสเตรเลีย รองจาก Tesla หลังจากจำหน่ายเพียง 2 เดือน แม้จะมีประกาศหยุดส่งมอบในเดือนที่แล้วเนื่องจากข้อกังวลด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
BYD แบรนด์รถยนต์สัญชาติจีน จำหน่ายเพียง 2 เดือนในออสเตรเลีย จากข้อมูลที่เผยแพร่โดย Drive ระบุว่า มียอดจดทะเบียน BYD 889 คันในช่วง 2 เดือนระหว่าง กันยายน – ตุลาคม 2022 ปัจจุบันจำหน่ายเพียง BYD ATTO 3 เพียงรุ่นเดียว B
YD ซึ่งจัดจำหน่ายในออสเตรเลียโดย EVDirect เป็นแบรนด์ รถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 2 ในเดือนนั้นๆ ตามหลังเทสล่าอย่างมาก โดย Tesla ส่งมอบ 7,078 คันในช่วงเวลาเดียวกัน หากนับแยกรุ่น BYD Atto 3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ขายดีเป็นอันดับสามในออสเตรเลียในช่วงเวลาเดียวกัน รองจาก Tesla Model Y ยอดขาย 5435 คัน และ Model 3 ยอดขาย 1643 คัน แซงหน้า MG ZS ยอดขาย 300 – 400 คัน , Polestar 2 ยอดขาย 331 คัน และ Hyundai Kona Electric ยอดขาย 184 คัน ในช่วงเวลาเดียวกัน
ทำให้จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่จำหน่ายได้ในเดือนกันยายนและตุลาคม 2022 รวมกว่า 10,000 คันในการส่งมอบในออสเตรเลีย แสดงให้เห็นการเติบโตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างมากในออสเตรเลีย และ คาดว่าจะมีการเติบโตไปได้อีกมาก ยอดขายที่แข็งแกร่งสำหรับ BYD แม้ว่าจะต้องเผชิญกับการแจ้งหยุดการส่งมอบเป็นเวลาเกือบสี่สัปดาห์ เนื่องจากผู้จัดจำหน่ายได้ดำเนินการผ่านข้อกังวลเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับยานยนต์ของออสเตรเลีย Atto 3
BYD จะทะเบียนในออสเตรเลีย สิงหาคม – ตุลาคม 2022 ตามรัฐฯ
- ACT 9คัน
- NSW 234 คัน
- NT 0 คัน
- Queensland 235 คัน
- SA 73 คัน
- Tasmania 40 คัน
- Victoria 175 คัน
- WA 123 คัน
- รวม 889 คัน
BYD Australia อ้างว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้รับคำสั่งซื้อ Atto 3 มากกว่า 3,000 คัน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022
- อย่างไรก็ตาม โฆษกของ EV Direct บอกกับ The Driven ในหมายเหตุว่ายังไม่มีแผนสำหรับ EV ที่ผลิตในไทยที่จะมาถึงออสเตรเลีย สำหรับการผลิตรถยนต์ปัจจุบัน จะอยู่ที่โรงงาน BYD เมืองจีน
- สำหรับการผลิตหลักๆ ในเวอร์ชั่นพวงมาลัยขวา BYD จะตั้งโรงงานในประเทศไทย ส่งออกไปยังออสเตรเลีย อังกฤษ พร้อมกำลังการผลิต 70,000 – 100,000 คันต่อปี ในส่วนนี้ BYD ถือหุ้น 85% กลุ่มไทย 15% รวมทุนจดทะเบียนกว่า 17,000 ล้านบาท
Atto 3 เปิดตัวในออสเตรเลียเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2022 หรือที่รู้จักในชื่อ Yuan Plus ในประเทศจีน โดยมีราคาตั้งแต่ 44,381 ดอลลาร์ (หรือประมาณ 1.10 ล้านบาท) ในรุ่น Superior และมีราคาสูงสุด 47,381 ดอลลาร์ (หรือประมาณ 1.18 ล้านบาท) สำหรับรุ่น Superior Extended Range
BYD และจะมีให้เลือก 2 รูปแบบในออสเตรเลีย
รุ่น Standard Range
- ติดตั้งชุดแบตเตอรี่ขนาด 52.5 kWh
- ที่ขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบติดตั้งด้านหน้าที่มีกำลัง 201 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.3 วินาที
- สามารถวิ่งได้ 400 กม./ชาร์จ NEDC
- ราคาจำหน่าย 44,381 ดอลลาร์ (หรือประมาณ 1.10 ล้านบาท)
รุ่นท๊อป
- ชุดแบตเตอรี่ขนาด 63.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง
- ให้กำลัง 201 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.3 วินาที
- สามารถวิ่งได้ 480 กม./ชาร์จ NEDC
- ราคาจำหน่าย 47,381 ดอลลาร์ (หรือประมาณ 1.18 ล้านบาท)
BYD Atto 3 Super Charger DC MAX (80kw) และสามารถชาร์จใหม่ได้ในเวลาประมาณ 45 นาที พร้อม รับประกันแบตเตอรี่ 7 ปี
ระบบช่วงล่าง
- ช่วงล่างหน้า MacPherson Strut
- ช่วงล่างหลัง Suspension Multi-Link
- เบรกหน้า Ventilated Discs
- เบรกหลัง Discs
BYD Yuan PLUS ออกแบบโดย Chief Interior Design Director Michele Paganetti (อดีตนักออกแบบของ Mercedes-Benz) นั้นแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันอื่นๆ ภายใต้แนวคิด “Rhythmic Space” ใหม่ ทำให้รถยนต์เต็มไปด้วยเส้นโค้งอย่างมีสไตล์ แสดงให้เห็นแรงบันดาลใจใหม่ๆของ BYD
BYD Yuan PLUS พัฒนาภายใต้แพลตฟอร์มใหม่ e-platform 3.0 และใช้ภาษาการออกแบบรูปลักษณ์ล่าสุด “Long Yan Aesthetics” 3.0 เพื่อสร้าง SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด
- BYD e-platform 3.0 แพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ไฟฟ้าใหม่ ซึ่งรองรับระบบการขับขี่อัตโนมัติชั้นสูงได้
BYD Yuan Pro EV ภายนอกออกแบบ Dragon Face 3.0 ล่าสุดของตระกูล BYD พร้อมการอัปเดตใหม่หน้าใหม่ โดยเฉพาะบริเวณส่วนหน้ากระจังหน้าแบบปิด ปลายฝากระโปรงโครเมี่ยม อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ BYD พร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ขนาดยาง 215/55 R18 เปิด-ปิดประตูท้ายด้วยระบบสัมผัส
ขนาดตัวถัง
- ยาว 4455 มม.
- กว้าง 1875 มม.
- สูง 1615 มม.
- ฐานล้อ 2720 มม.
การออกแบบภายในค่อนข้างจะออกแฟนตาชี บนสีทูโทน ลวดลายบริเวณคอนโซลหน้าคล้ายมังกร พร้อมเครื่องปรับอากาศทรงแปลกตา พวงมาลัย 3 ก้านใหม่ ติดตั้ง ปุ่มควบคุมที่พวงมาลัย – เครื่องเสียง, โทรศัพท์, ACC และ Multi-Function Display พร้อมหน้าปัดดิจิตอล 5 นิ้ว คันเกียร์อิเล็กทรอนิกส์ Keyless Entry & Keyless Start
คอนโซลกลางและที่พักแขนขนาดใหญ่ เบาะหนังระดับพรีเมียม เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และผู้โดยสารด้านหน้า 4 ทิศทาง เบาะหลังแยกพับแบบ 60/40 พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุด 1,330 ลิตร โดยที่เบาะหลังปรับลง
หน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาดใหญ่ 12.8 นิ้วที่สามารถหมุนได้ระหว่างแนวนอนและแนวตั้ง นอกจากนี้ยังมีร ระบบเสียง Dirac ลำโพง 8 ตัว ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย หลังคาซันรูฟไฟฟ้า