BYD ลงทุนเตรียมสร้างโรงงานพวงมาลัยขวาในอินโดฯ 46,000 ล้านบาท กำลังการผลิต 150,000 คันต่อปี
สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงาน BYD บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศจีน กำลังลงทุนสร้างโรงงานมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 46,616 ล้านบาท ในประเทศอินโดนีเซีย และเข้าสู่ตลาดอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการ
บีวายดีก้าวไปอีกขั้นในการขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากการส่งมอบรถโดยสารเชิงพาณิชย์ในอินโดนีเซีย BYD ได้เปิดตัวโมเดลพลังงานไฟฟ้าบริสุทธิ์สามรุ่นในประเทศเมื่อวันที่ 18 มกราคม ได้แก่ Dolphin, Seal และ ATTO 3
BYD เน้นเข้าสู่ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ซึ่งหมายความว่าการขยายธุรกิจในต่างประเทศของ BYD ได้ก้าวไปอีกขั้นแล้ว และจะทยอยเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ภายใต้เครือบริษัท BYD ในอนาคต
Airlangga Hartarto รัฐมนตรีกระทรวงประสานงานเศรษฐกิจของอินโดนีเซียกล่าวในงานแถลงข่าวว่า BYD จะลงทุน 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พื่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ในอินโดนีเซียโดยคาดว่าจะมีกำลังการผลิต 150,000 คันต่อปี
Zhao Ying ประธาน BYD อินโดนีเซียกล่าวในงานแถลงข่าวว่า BYD ได้จัดทำแผนและคาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างโรงงานในปลายปีนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด BYD ยังวางแผนที่จะจัดตั้งโรงงานมากถึง 50 แห่งทั่วประเทศอินโดนีเซีย ภายในสิ้นปี 2024
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในอินโดนีเซียยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ยอดขายไม่สูง และส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอาเซียน ข้อมูลล่าสุดจาก Statista แสดงให้เห็นว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2023 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของอินโดนีเซียอยู่ที่ 8,209 คัน ปัจจุบัน SAIC-GM-Wuling, BYD, Chery Automobile, Great Wall Motors, Nezha Automobile และอื่นๆ ได้เข้าสู่ตลาดอินโดนีเซียแล้ว
ณ เดือนมกราคม 2024 BYD ได้สร้างโรงงานพวงมาลัยขวาแล้ว 2 แห่ง
- โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36 จังหวัดระยอง ประเทศไทย มีพื้นที่ 600 ไร่ กำลังการผลิตรถยนต์นั่งไฟฟ้าพวงมาลัยขวา 150,000 คันต่อปี เริ่มผลิตในปี 2024
- โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมเสฉวน เมืองเฉิงตู ประเทศจีน มีพื้นที่ 100 ไร่ กำลังการผลิตรถยนต์นั่งไฟฟ้าพวงมาลัยขวา 100,000 คันต่อปี เริ่มผลิตในปี 2024
และ โรงงานในประเทศอินโดนีเซีย จะเป็นโรงงานพวงมาลัยขวาแห่งที่สามของแบรนด์ BYD และเป็นแหล่งที่ 2 รองจากประเทศไทย BYD มีแผนที่จะสร้างโรงงานพวงมาลัยขวาเพิ่มเติมในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก เพื่อรองรับความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น