เปิดตัวแบรนด์ BYD ในประเทศไทย พร้อมรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพ ATTO 3 เปิดตัว ก.ย.นี้
Rêver Automotive ลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท นำ BYD แบรนด์ระดับโลกรุกตลาดยานยนต์พลังงานใหม่ในไทย ประกาศความพร้อมร่วมขับเคลื่อน NEV Nation เต็มรูปแบบ
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ นำโดย ประธานวงศ์ – ประธานพร พรประภา เปิดตัวบริษัท Rêver Automotive จำกัด
- ประกาศความพร้อมก้าวสู่การเป็น Solutions Provider ด้านพลังงานใหม่ (New Dream Energy)
ของประเทศ - เริ่มต้นจากการนำเข้า BYD รถยนต์ EV อันดับต้นของโลก มาสร้างประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าให้ดียิ่งขึ้นและปลอดภัยกว่าเดิม
- เผยกลยุทธ์ปั้น BYD ติดท็อป 5 ภายใน 5 ปี
รับชม Live สด ได้ที่ Facebook: https://www.facebook.com/BYDReverThailandOfficial
พร้อมเปิดตัว BYD ATTO 3 ใหม่ในเดือนกันยายน 2022 เบื้องต้น เตรียมเปิดตัวโชว์รูม 20 แห่ง และ ส่งมอบรถยนต์ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไป
BYD Auto เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมียอดขาย 641,000 EV ในครึ่งแรกของปี 2022 นอกจากนี้ยังเป็นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอิน (BEV และ PHEV) ที่ใหญ่เป็นอันดับสี่และบริษัท BEV ใหญ่เป็นอันดับสี่ โดยมีส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลก 9.1% และ 7% ตามลำดับในปี 2021
BYD มียอดขายรถยนต์ในเมืองจีนเป็นหลัก โดยมียอดขายทะลุ 100,000 ต่อเดือนในเดือนมีนาคม 2022 และคาดว่าจะขายได้ระหว่าง 1.5 ล้านถึง 2 ล้าน EV ปลั๊กอินในปี 2022 ประมาณ 3 ถึง 4 เท่าของปริมาณในปี 2021
ในเดือนมิถุนายน 2565 BYD Auto ประกาศว่าขายได้ประมาณ 641,000 EVs ในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 แซงเทสลาเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก
(กรุงเทพมหานคร) 8 สิงหาคม 2565 – Rêver Automotive (เรเว่ ออโตโมทีฟ) จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวบริษัท ในฐานะผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายสำหรับกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ (Thailand Authorized Distributor) พร้อมนำเสนอ BYD แบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่อันดับต้นของโลก ประกาศขับเคลื่อนประเทศสู่ NEV Nation ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม
ความมุ่งมั่นที่จะสร้างประเทศไทยให้ดีขึ้นกับพันธกิจในการผลักดัน Net Zero Emission ให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริงของกลุ่มนักธุรกิจเลือดใหม่ นำทีมโดย ประธานวงศ์ – ประธานพร พรประภา ด้วยเป้าหมายสร้าง NEV Ecosystem ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีและยานยนต์พลังงานรูปแบบใหม่ ทำให้ บริษัท Rêver Automotive จำกัด ได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด ให้เป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์ BYD ในตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการ (Thailand Authorized Distributor)
Rêver Automotive จุดประกายความเป็นไปได้ใหม่ๆ เพื่อไปได้ไกลกว่าสิ่งที่ฝัน
Rêver Automotive คือการรวมตัวกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่พร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศ สู่ NEV Nation ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม มาพร้อมกับแนวคิดและความมุ่งมั่นที่จะสร้างประเทศไทยให้ดีขึ้นด้วยการผลักดัน Net Zero Emission หรือ การลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ มีเป้าหมายปลายทางคือการสร้าง NEV Ecosystem ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้เกิดขึ้นในประเทศ ด้วยเทคโนโลยีและยานยนต์พลังงานรูปแบบใหม่ (New Energy Vehicle – NEV)
ประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Rêver Automotive จำกัด กล่าวว่า “Rêver Automotive เชื่อว่าอนาคตของประเทศไทยสร้างได้ตั้งแต่วันนี้ เราจึงมุ่งมั่นที่จะส่งมอบโซลูชั่นด้านพลังงานในฝันรูปแบบใหม่ หรือ NEW DREAM ENERGY โดยนำเสนอเทคโนโลยีที่ช่วยสนับสนุนและรองรับระบบนิเวศของนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ และสร้างประเทศในฝันสำหรับทุกคน เริ่มต้นจากการนำเข้า BYD รถยนต์ EV อันดับต้นของโลก เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ”
ความยิ่งใหญ่ของ BYD ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
BYD เป็นองค์กรไฮเทคชั้นนำของโลก ที่มีขอบเขตธุรกิจครอบคลุมด้านอิเล็กทรอนิกส์, พลังงานใหม่, การขนส่งระบบราง และรถยนต์พลังงานใหม่ ในฐานะ “บริษัทที่เน้นด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม” (Technology-based, Innovation-oriented) BYD ภายใต้การนำของ Mr. Wang Chuanfu, President BYD มีพนักงานกว่า 290,000 คนทั่วโลก โดยมีวิศวกร R&D มากกว่า 40,000 คน และสถาบันวิจัย 11 แห่งทั่วโลก ทีมออกแบบ in-house ประกอบด้วยนักออกแบบกว่า 400 คน จาก 10 ประเทศ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา BYD มุ่งมั่นทุ่มเท คิดค้น พัฒนานวัตกรรม สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบรับวิสัยทัศน์เพียงหนึ่งเดียวคือ การทำให้โลกเย็นลง 1 องศาเซลเซียส ในปี 2565 BYD ประกาศยกเลิกการผลิตรถยนต์สันดาป และผลิตยานยนต์ไฟฟ้า 100% เป็น “รายแรกของโลก” ล่าสุด BYD มียอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ทะลุ 1 ล้านคัน และกลายเป็นแบรนด์จีน รายแรกที่เข้าสู่ “One Million Club” ของยานยนต์พลังงานใหม่ ซึ่งปัจจุบัน BYD ขยายธุรกิจ ไปกว่า 400 เมือง ในกว่า 70 ประเทศและภูมิภาค ครอบคลุม 6 ทวีป
จุดเริ่มต้นของการผลักดัน NEV Ecosystem ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย
BYD มีที่มาจากคำว่า Build Your Dreams ซึ่งสอดคล้องกับ Rêver จากภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่าความฝันเช่นเดียวกัน จุดเชื่อมโยงของ 2 บริษัทคือการสร้างสิ่งแวดล้อมในฝัน มอบอากาศสะอาดให้กับมวลมนุษยชาติ โดย Rêver Automotive มีพันธกิจหลักที่จะเป็น Solutions Provider ด้านพลังงานในฝันรูปแบบใหม่ (New Dream Energy) ซึ่งเริ่มต้นจากการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์พลังงานใหม่จาก BYD แบรนด์รถยนต์อันดับต้นของโลกที่ขึ้นแท่นยอดขาย New Energy Vehicle อันดับ 1 ในจีน ถึง 9 ปีซ้อน และได้รับการยอมรับจากทั่วโลก การันตีด้วยยอดขาย ตั้งแต่ปี 2562 -2565 (มิถุนายน) รวมทั้งหมด 2,150,859 คัน มาให้คนไทยได้สัมผัสในอนาคตอันใกล้นี้ นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญสำหรับคนไทย ที่ Rêver Automotive ได้จุดประกายความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น เพราะไม่เพียงแต่นำเสนอยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานใหม่ (NEV) จาก BYD เท่านั้น แต่ Rêver Automotive ยังมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน NEV Nation พร้อมกับสร้างระบบนิเวศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน
ปั้นแบรนด์ให้แข็งแรง จากรากฐานที่มั่นคง
Rêver Automotive ทุ่มงบลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมปั้น BYD ให้เป็น Top 5 ในตลาดยานยนต์ไทยภายใน 5 ปี ด้วยกลยุทธ์ที่ผนึกกำลังจากทั้งความรู้ความชำนาญในธุรกิจรถยนต์ของทีมงานกับผลิตภัณฑ์จาก BYD ที่มีความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น Blade Battery ที่ขึ้นแท่นเป็นแบตเตอรี่ EV ที่ดีและปลอดภัยที่สุดในตลาด ผ่านการทดสอบชนิดเอ็กซ์ตรีมที่เรียกว่า “Nail Penetration Test” ด้วยอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ระยะการขับขี่ที่ดีขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือมีความปลอดภัยสูงสุด ช่วยแก้ปัญหา และลดความกังวลด้านความปลอดภัยให้กับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และ e-platform 3.0 แพลตฟอร์มแห่งอนาคตที่ยกระดับการขับขี่รถยนต์ EV ไปอีกขั้น ทั้งอัตราการเร่ง ระยะทางขับขี่ และความเร็วในการชาร์จ การควบคุมอุณหภูมิให้ต่ำอย่างเสถียร ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้อัจฉริยะยิ่งขึ้น โดยภายในปีนี้ Rêver Automotive จะเปิดตัวและนำรถยนต์พลังงานใหม่จาก BYD มาให้คนไทยได้สัมผัสนวัตกรรมที่ดียิ่งกว่าอย่างแน่นอน
สำหรับกลยุทธ์การตลาด Rêver Automotive ในฐานะผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์ BYD ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตั้งเป้าหมายที่จะเป็น Top 5 ในตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ของไทยภายใน 5 ปี ผนึกพลังการบริการการขาย และบริการหลังการขายทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์อย่างเท่าเทียมกัน มุ่งเน้นประสานเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อความพึงพอใจของลูกค้า ผ่าน Rêver Super Application ที่จะเปิดตัวพร้อมรถรุ่นแรก และขยายโครงข่ายพันธมิตร โดยจะมีตัวแทนจำหน่ายที่มีทั้งโชว์รูมและศูนย์บริการหลังการขายเต็มรูปแบบ 31 แห่งภายในปีนี้ นอกจากนี้ยังร่วมมือกับ SHARGE เพื่อเปิดสถานีชาร์จเพิ่มขึ้นจากเดิมในไทยให้ถึง 1,000 สถานี ครอบคลุมทั้งประเทศ ในขณะเดียวกันก็สร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องการใช้รถ EV และการชาร์จไฟภายในบ้านที่สะดวกง่ายดายเหมือนชาร์จดีไวซ์ทั่วๆ ไป ทั้งง่าย รวดเร็ว และคุ้มค่า ตอกย้ำความมั่นใจว่าผู้บริโภคจะได้รับประสบการณ์ใหม่ในการขับขี่อย่างครบวงจร พร้อมร่วมขับเคลื่อนประเทศด้วยพลังงานใหม่
“ในฐานะนักลงทุนที่มองเห็นเทรนด์โลกอนาคต พลังงานใหม่ คือเทคโนโลยีที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงและขับเคลื่อนไปสู่อนาคตที่ดีกว่าได้อย่างแท้จริง การลงทุนที่ถูกทางจะสร้างคุณค่าอย่างมหาศาลให้กับผู้ลงทุนในอนาคต พร้อมจุดประกายและขับเคลื่อนความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้กับมนุษยชาติ นักลงทุนระดับโลกหลายรายที่เข้ามาลงทุนใน BYD ล้วนแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในอนาคตที่เติบโตของแบรนด์ ที่พร้อมจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้คน” ประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Rêver Automotive จำกัด กล่าว
เทคโนโลยีแบตเตอรี่ CTB คือความลับที่ทำให้แบรนด์ BYD ลดต้นทุนในการผลิต รีดประสิทธิภาพสูงสุดของรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ BYD
CTB คือ Cell to Body แบตเตอรี่จะถูกรวมเข้ากับโครงสร้างด้านล่างของตัวรถโดยตรง ซึ่งช่วยลดพื้นที่ในการใช้งาน และ ปลอดภัยมากขึ้น
- เทคโนโลยี CTB ได้ผ่านการทดสอบ ค่อนข้างหนัก เช่น นำรถบรรทุกหนัก 50 ตันเหยียบแบตเตอรี่ แต่ก็ไม่มีความเสียหาย รวมทั้งการทดสอบความร้อนอื่นๆ ที่เกินมาตรฐาน
- การออกแบบนี้ทำให้มีความแข็งแกร่งในการบิดตัวของตัวเครื่องเพิ่มขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับการออกแบบทั่วไปและมากกว่า 40,000 นิวตันเมตร/°
- BYD Seal สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม e-platform 3.0 และ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ CTB
อาจกล่าวได้ว่า BYD Seal เป็นคู่แข่งโดยตรงของ Tesla Model 3 ในแง่ของราคา ช่วง ประสิทธิภาพ และขนาด พร้อมเทคโนโลยีการรวมตัวของแบตเตอรี่ CTB BYD ตัวใจจะผลิตรถยนต์ Seal EV ซีรีย์จำนวนมากในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน EV รายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศเปิดตัวระบบแบตเตอรี่ CATL cell-to-pack (CTP) ที่ไม่ใช้โมดูลแบบเดิม แต่ติดตั้งเซลล์ในแบตเตอรี่โดยตรง พวกเขาจะใช้ชื่อแบตเตอรี่นี้ว่า Kirin หรือ Qilin จะเปิดตัวในจีนไตรมาส 2 ปี 2022
ในทางตรงกันข้าม เทคโนโลยี CTB หรือ Cell to Body ของ BYD ได้เปลี่ยนจากโครงสร้าง ของแบตเตอรี่เป็นโครงสร้างส่วนหนึ่งของรถยนต์ ซึ่งรวมพื้นตัวถังและฝาครอบด้านบนของแบตเตอรี่เข้าด้วยกัน
เทคโนโลยีแบตเตอรี่ CTB ไม่เพียงช่วยลดน้ำหนัก แต่ยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของชิ้นส่วนโครงสร้างในส่วนล่าง ให้สามารถมีความยืดหยุ่นมากขึ้น รวมทั้งปรับปรุงโครงสร้างเพื่อป้องกันการชนด้านหน้า ด้านข้าง
สำหรับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ CTB จะถอดแบตเตอรี่ยาก และ แตกต่างจาก เทคโนโลยีสลับแบตเตอรี่ของ NIO เนื่องจากการสลับแบตเตอรี่ต้องมีชุดแบตเตอรี่ที่อิสระ และ สามารถเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว
CTB ใช้ปริมาณแบตเตอรี่ขนาดกะทัดรัด ทำให้เกิดพื้นที่ใช้งานภายในรถเพิ่มขึ้น น้ำหนักรถที่เบากว่า ค่าสัมประสิทธิ์การลากที่ต่ำกว่า และแรงต้านการหมุนที่น้อยลง
ดังนั้นจะเห็นว่า CTB มีจุดประสงค์ในการใช้งาน และ ช่วยเพิ่มระยะต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ได้ดีกว่า ตรงกันข้ามกับเทคโนโลยีสลับแบตเตอรี่อย่างรวดเร็ว ต้องใช้ชุดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และตัวเชื่อมที่ซับซ้อน ยุ่งยาก และ ทำให้น้ำหนักมาก
ความยากในการพัฒนาเทคโนโลยี CTB ซับซ้อนเพื่อให้บรรลุการผลิตจำนวนมาก จำเป็นต้องมีส่วน R&D หลักสองส่วน ได้แก่ ระบบแบตเตอรี่ไฟฟ้า และ การพัฒนาโครงสร้าง
ในอดีต บริษัทรถยนต์ในประเทศ มีความสามารถในการวิจัย และ พัฒนาในขีดจำกัด รวมทั้งพวกเขาต้องใช้ซัพพลายเออร์แบตเตอรี่ ดังนั้นชุดแบตเตอรี่จึงมีจำกัด แต่ BYD นั้นแตกต่าง พวกเขาวิจัย และ พัฒนาชุดแบตเตอรี่เอง (BYD คือผู้ผลิตแบตเตอรี่อันดับ 3 ของโลกรองจาก LG และ CATL ข้อมูลจากไตรมาสแรก Q1 2022)
และมีความเป็นไปได้อย่างสูงที่พันธมิตร BYD อย่าง Mercedes-Benz หรือ Volkswagen อาจมาใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ CTB และ CTP แม้ปัจจุบันพวกเขายังไม่ใช้โครงสร้างเหล่านี้
ปัจจุบันชุดแบตเตอรี่ในจีน แบ่งออกเป็น 3 แบบ ได้แก่ CTP , CTC และ CTB
แบตเตอรี่ CTP (cell-to-pack) ที่ไม่ใช้โมดูลแบบเดิม แต่ติดตั้งเซลล์ในแบตเตอรี่โดยตรง
- เทคโนโลยีแบตเตอรี่ CTP มีความโด่ดเด่นอย่างมากในแง่ ประสิทธิภาพสูง ด้วยการนำเซลล์แบตเตอรี่มาประกอบกันเป็นแพ็กโดยตรงโดยไม่ต้องใช้โมดูล ทำให้แบตเตอรีสำรองมีความหนาแน่นของพลังงานมากขึ้น ลดความซับซ้อนในการผลิต น้ำหนักเบา และ ต้นทุนที่ต่ำกว่า มีความปลอดภัยสูงกว่า
แบตเตอรี่ CTC (Cell To Chassis) ไม่เพียงการรวมเซลล์แบตเตอรี่เข้ากับโครงสร้างแชสซี แต่ช่วยปรับปรุงการใช้พื้นที่ตัวถังให้ดีขึ้น
- ทางเทคนิค CTC จะช่วยลดชิ้นส่วนแบตเตอรี่ลง 20% ลดต้นทุนในโครงสร้าง 15% เพิ่มพื้นที่เค้าโครงแบตเตอรี่ 14.5% และ เพิ่มพื้นที่แนวตั้งของตัวถัง 10 มม. ไม่เพียงแต่ลดต้นทุน แต่ยังปรับปรุงพื้นที่และประสิทธิภาพความทนทานของรถ
- แม้ว่าเทคโนโลยี CTC จะมีข้อดีในการลดน้ำหนักของรถทั้งคันและปรับปรุงความจุของแบตเตอรี่โดยรวม แต่โซลูชันนี้จะทำให้ผู้ขับขี่นั่งบนก้อนแบตเตอรี่โดยตรง ทำให้เกิดข้อกำหนดในความปลอดภัยของโครงสร้าง และ การจัดการความร้อนของแบตเตอรี่
เทคโนโลยีแบตเตอรี่ CTB หรือ Cell to Body ของ BYD
- แบตเตอรี่จะถูกรวมเข้ากับโครงสร้างด้านล่างของตัวรถโดยตรง ซึ่งช่วยลดพื้นที่ในการใช้งาน และ ปลอดภัยมากขึ้น
- วิธีการออกแบบใหม่นี้ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้โมดูลแบตเตอรี่ และทำให้ผู้ผลิตสามารถใส่เซลล์แบตเตอรี่ลงในชุดแบตเตอรี่ได้โดยตรง จะช่วยลดน้ำหนักของก้อนแบตเตอรี่และยังช่วยเพิ่มความหนาแน่นของพลังงาน
Blade Battery เทคโนโลยีแบตเตอรี่คุณภาพ
Blade Battery ที่ผลิตโดยบริษัทรถยนต์สัญชาติจีนอย่าง BYD หลังจากมีข่าวลือหนาหูว่า Elon Musk เจ้าของ Tesla มีความสนใจที่จะนำแบตเตอรี่ชนิดนี้มาใช้บ้าง (ปัจจุบัน Tesla ใช้แบตเตอรี่ของ LG และ CATL)
- BYD Blade เป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ชนิด หนึ่ง สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบ และ ผลิตโดย FinDreams Battery ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ของ BYD
Blade Battery ของ BYD พวกเขาได้ให้คำมั่นว่า จะกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยของแบตเตอรี่ใหม่ ปัจจุบันแบตเตอรี่ชนิดนี้ติดตั้งในรถยนต์รุ่นใหม่ๆของแบรนด์อย่าง Qin Plus, Song Plus, BYD Tang EV, BYD Yuan Plus (BYD Atto 3) และ Dolphin
เทคโนโลยีแบตเตอรี่ BYD Blade ได้รับการพัฒนามาหลายปี พร้อมกับเคมิลิเธียมไออน ฟอสเฟต (LFP) แทนการผสมนิกเกิลแมงกานีสโคบอลต์ (NMC) แทนที่จะมีหลายโมดูล BYD Blade Battery จะจัดเรียงเซลล์ทั้งหมดเข้าด้วยกัน ทำให้ประหยัดพื้นที่มากกว่า 50% เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ชนิดอื่นๆ
- Blade Battery ของ BYD ถูกออกแบบในลักษณะ cell-to-pack technology (CTP) ซึ่งทำให้มีความหนาแน่นของพลังงานที่ค่อนข้างสูง ด้วยการแพ็คโดยตรงไม่คต้องแพ็คเซลล์ลงโมดูลก่อน ทำให้ไม่เสียพื้นที่ในการใช้งาน
- เทคโนโลยี CTP ชุดแบตเตอรี่จะถูกประกอบโดยตรงจากเซลล์โดยไม่ต้องใช้โมดูล ปัจจุบันมีผู้ผลิตแบตเตอรี่หลายรายกำลัผลิตแบบนี้ เช่น BYD Auto, CATL, LG Chem และ SVOLT
He Long รองประธาน BYD และ ประธาน FinDreams Battery Co กล่าวว่าแบตเตอรี่ Blade มีข้อดี 4 ประการ ได้แก่
- ปล่อยความร้อนช้า
- สร้างความร้อนต่ำ
- อุณหภูมิเริ่มต้นสูง สำหรับการคายความร้อน
- ไม่ปล่อยออกซิเจนในระหว่างการสลาย
การทดสอบแบตเตอรี่ BYD Blade
BYD ได้ทำการทดสอบแบตเตอรี่อย่างเข้มงวด วิศวกรของบริษัทนำแบตเตอรี่ไปเจาะให้ความร้อน 300 เซลเซียส ด้วยการชาร์จเกิน 260%
รวมทั้ง มีการทดสอบความแข็งแกร่งของโครงสร้าง พบว่า แบตเตอรี่ไม่ปล่อยควัน หรือ ไฟในระหว่างการเจาะ แม้จะอยู่ในอุณหภูมิพื้นผิว 30 – 60 องศา
เป็นชัดเจนว่า แบตเตอรี่ Blade สามารถทนความร้อนได้สูงมาก (ปกติแบตเตอรี่ลิเธียมแบบไตรภาค เมื่อผ่านความร้อนระดับ 260-270 เซลเซียส)
แบตเตอรี่แบบบล็อก LFP ทั่วไปมีอุณหภูมิ 93 เซลเซียส ถึง 210 เซลเซียส แต่ไม่ปล่อยไฟ หรือ ควัน
แบตเตอรี่สามประเภท ผ่านการทดสอบการเจาะ ในห้องปฏิบัติการ ประการแรก การทดสอบนี้ใช้แบตเตอรี่ NMC เกิดระเบิดทันทีเมื่อตะปูทะลุ
ในการทดสอบครั้งที่สอง แบตเตอรี่ LFP ปกติถูกเจาะเข้าไปอีกครั้งเพื่อตรวจสอบความร้อนสูง เมื่อการทดสอบดำเนินไป ได้เกิดการเผาไหม้ในอุณหภูมิ 210 เซลเซียส
BYD ใส่แบตเตอรี่ Blade ลงในเตาเผา 148.8 เซลเซียส แม้จะชาร์จเกิน 260% แต่ตัวเครื่องไม่ได้รับการเผาไหม้รวมทั้งไม่มีไฟไหม้ หรือการระเบิด
BYD ได้ทำการทดสอบโครงสร้างที่ใหญ่กว่า ด้วยการใช้รถบรรทุกขนาด 46 ตัน ขับทับแบตเตอรี่ Blade แต่ไม่ก่อให้เกิดการรั่วซึม ผิดรูป หรือมีควัน
BYD กล่าวว่าแบตเตอรี่ไม่เสียหาย หลังจากการทดสอบการกดทับดังกล่าว ซึ่งมันมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง หากเป็นอย่างการทดสอบ แน่นอนสามารถใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าได้
Aspect | BYD Blade ข้อมูล |
ชนิดเคมี | LiFePO4 (LFP) |
ความจุ | 202 Ah |
แรงดันไฟฟ้า | 3.2 V |
แรงดันไฟชาร์จสูงสุด | 3.65 V |
พลังงาน | 646.4 Wh |
ความยาว | 905 มม. |
ความกว้าง | 118 มม. |
ความสูง | 13.5 มม. |
ขนาด | 1.4 L |
ความหนาแน่นพลังงาน Volumetric | 448 Wh/L |
น้ำหนัก | 3.9 kg (est.) |
ความหนาแน่นพลังงาน Gravimetric | 166 Wh/kg |
การคายประจุ | 3,000+ cycles |
แบตเตอรี่ BYD Blade มาพร้อมขนาดความยาว 37.7 นิ้ว กว้าง 3.5 นิ้ว และ สูง 0.5 นิ้ว เซลล์แบตเตอรี่เดียวถูกจัดวางแบบเบลดลงในแพ็ค ลดพื้นที่การงานกว่า 50%
ความสามารถของแบตเตอรี่ BYD Blade ใช้งานได้นานกว่า 1.2 ล้านกิโลเมตร หลังจากการชาร์จ/การคายประจุ 3,000 รอบ
แบตเตอรี่เบลดของ BYD ไม่เพียงได้รับความสนใจจาก Tesla แต่ยังรวมถึง TOYOTA , SUZUKI รวมถึงค่ายอื่นๆที่ยังไม่เปิดเผย สำหรับแบตเตอรี่เบลดตอนนี้ใช้งานจริง ไม่ใช่แค่โมเดล
BYD กำลังวางแผนสร้างโรงงานผลิตใหม่สำหรับแบตเตอรี่เบลดในไถโจว ในจังหวัดเจ้อเจียงของจีน กำลังการผลิต 22 GWh ต่อปีจะถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ประมาณหนึ่งล้านตารางเมตร โรงงานแห่งใหม่ มีกำหนดเดินสารการผลิตครึ่งแรกของปี 2023 การก่อสร้างทั้งโครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นทั้งหมด ในเดือนมิถุนายน 2024
เทคโนโลยี BYD Blade ไม่ได้ลดทอนประสิทธิภาพยานยนต์ไฟฟ้า แต่ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพยานยนต์ไฟฟ้าของรถยนต์จีน และ ทั่วโลก BYD ตั้งใจนำเทคโนโลยีนี้มาใส่ในแพลตฟอร์มอย่าง e-platform 3.0 ที่ติดตั้งแบตเตอรี่ BYD Blade เป็นมาตรฐาน
BYD พร้อมจัดแสดงขบวนรถยนต์ไฟฟ้าภายในงาน MOTOR EXPO 2022 ในประเทศไทย
BYD จองบูธในงาน Motor EXPO 2022 อย่างเป็นทางการ พร้อมยึดพื้นที่ใหญ่กว่า 1,849 ตารางเมคตร เทียบเท่าของ GWM และ ใหญ่กว่า Mercedes-Benz ในขณะที่ TOYOTA 1720 ตารางเมตร ISUZU 1250 ตารางเมตร
Motor Expo 2022 วันที่ 1 – 12 ธันวาคม 2565 ณ IMPACT Challenger 1 – 3 งานแสดงรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องยิ่งใหญ่ส่งท้ายปลายปี เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ขยายตัว เวลา 12:00 – 22:00 (UTC+7) IMPACT เมืองทองธานี
- 30 พฤศจิกายน 2565 : วันสื่อมวลชน บุคคลสำคัญและพิธีเปิดงาน เวลา 12.00 – 22.00 น.
- 1 ธันวาคม 2565 : วันมหากุศล สำหรับบุคคลทั่วไปที่ต้องการเข้าชมงานในวันนี้ สามารถซื้อบัตรเข้าชมงานราคา 100 บาท เพื่อร่วมทำกุศลกับผู้จัดงาน เวลา 12.00 – 22.00 น.
- 2 – 12 ธันวาคม 2565 : วันสำหรับบุคคลทั่วไป
หลังจากที่มีข่าวบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในจีนอย่าง BYD เตรียมตั้งโรงงานประกอบในประเทศไทย พร้อมจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ BYD ประเทศไทยภายในปี 2022 และ จะมีการแนะนำแบรนด์ BYD ในช่วงเดือนมิถุนายน ก่อนจำหน่ายรถยนต์ในช่วงถัดไป โดยจะเปิดตัวแบรนด์ในประเทศไทย ด้วยการแนะนำ BYD Dolphin
รถยนต์ BYD ในประเทศจีน มีรุ่นไหนบ้าง ?