Carlos Tavares อดีตซีอีโอ Stellantis รับเงินชดเชยก้อนโตมากกว่า 875 ล้านบาท แม้ถูกบีบออก

Carlos Tavares อดีตซีอีโอ Stellantis รับเงินชดเชยก้อนโตมากกว่า 875 ล้านบาท แม้ถูกบีบออก
Spread the love

Advertisement

Advertisement

อดีตซีอีโอ Stellantis อย่าง Carlos Tavares ได้รับค่าตอบแทนประจำปี 2024 ไปถึง 23.1 ล้านยูโร (ประมาณ 875 ล้านบาท) แม้ว่าผลกำไรของบริษัทจะร่วงลงถึง 70% แต่ผู้ถือหุ้น 67% กลับลงมติเห็นชอบ ให้จ่ายเงินจำนวนนั้น ขณะที่อีกฝ่ายมองว่าเป็น “รางวัลที่รับไม่ได้สำหรับความล้มเหลว”


Tavares ถูกบีบให้ออกจากตำแหน่งเมื่อ เดือนธันวาคม 2024 หลังจากบริษัทเผชิญผลประกอบการตกต่ำหนัก ทั้งยอดขายและมูลค่าหุ้นร่วงลงอย่างต่อเนื่อง

แม้ในปี 2023 เขาจะได้รับค่าตอบแทนสูงถึง 36.5 ล้านยูโร (ประมาณ 1,384 ล้านบาท) ซึ่งดูสมเหตุสมผลในช่วงเวลาที่ Stellantis ยังดูแข็งแรงอยู่ แต่ปีถัดมาบริษัทกลับกำไรหดตัวอย่างรุนแรง

  • ครึ่งปีแรกปี 2024 กำไรลดลง 50%

สรุปผลประกอบการปี 2024 ของ Stellantis

  • รายได้รวม (Net Revenues): 156.9 พันล้านยูโร ลดลง 17% จากปี 2023

  • กำไรสุทธิ (Net Profit): 5.5 พันล้านยูโร ลดลง 70% จากปี 2023

  • กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้ว (Adjusted Operating Income): 8.6 พันล้านยูโร ลดลง 64%

  • กระแสเงินสดอุตสาหกรรม (Industrial Free Cash Flow): ติดลบ 6 พันล้านยูโร

  • ปริมาณการจัดส่งรวม (Consolidated Shipments): ลดลง 12%

  • มูลค่าสินค้าคงคลัง ณ สิ้นปี: ลดลง 18% หรือ 268,000 คัน โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ลดลง 20% เหลือ 304,000 คัน


หนึ่งในผู้ถือหุ้นที่ออกมาคัดค้านอย่างชัดเจนคือ Charles Pinel ซีอีโอของ Proxinvest ที่กล่าวว่า:

“มันไม่เหมาะสมเลยที่จะให้เงินชดเชยกับผู้บริหารที่พาบริษัทไปสู่ความล้มเหลว”

แพ็กเกจค่าตอบแทนของ Tavares ในปี 2024 รวมถึงเงินเดือนปกติ, เงินชดเชยการลาออก และโบนัสตามผลงาน รวมกันกว่า 23.1 ล้านยูโร


ปัจจุบัน Stellantis ยัง ไม่มีซีอีโอคนใหม่ โดยประธานกรรมการ John Elkann ให้คำมั่นว่าจะประกาศแต่งตั้งภายในไตรมาสนี้

ถึงแม้จะปลด Tavares แล้ว แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น:

  • ยอดขายไตรมาสแรกปี 2025 ลดลงอีก 20%

  • ภาษีนำเข้าของทรัมป์ ยิ่งซ้ำเติม เพราะ Stellantis ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนและการผลิตที่ข้ามพรมแดนก่อนมาขายที่สหรัฐฯ

อีกจุดที่น่าจับตาคือ Stellantis ได้ ย้อนกลับบางนโยบายของ Tavares เช่น การยุติขุมพลัง HEMI V8

ล่าสุดมีข่าวว่า Dodge อาจปรับแพลตฟอร์ม Charger รุ่นใหม่ให้สามารถใส่เครื่อง V8 ได้ แทนที่จะใช้แค่ระบบไฟฟ้า (EV) และเครื่อง Hurricane I6 อย่างที่วางไว้ในยุค Tavares

Carlos Tavares ไม่ได้ “ลาออก” ด้วยความสมัครใจทั้งหมด แต่ ถูกบีบให้ออกจากตำแหน่ง ในเดือนธันวาคม 2024 เนื่องจากหลายปัจจัยสำคัญที่สะสมจนเกิดแรงกดดันจากทั้งภายในบริษัทและนักลงทุน โดยสาเหตุหลัก ๆ มีดังนี้:

1. ผลประกอบการปี 2024 ดิ่งหนัก

  • กำไร ลดลง 70% จากปีก่อนหน้า
  • ยอดขายและผลผลิตตกต่ำ
  • หุ้น Stellantis ร่วงหนักในตลาด ทำให้เกิดแรงกดดันจากผู้ถือหุ้นและคณะกรรมการ

 2. นโยบายที่ไม่เป็นที่นิยม

  • ตัดสินใจ ยกเลิกเครื่องยนต์ HEMI V8 ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Dodge และ Jeep
  • เน้นเฉพาะ EV และเครื่อง Hurricane I6 ซึ่งแฟน ๆ กลุ่มใหญ่ไม่ปลื้ม
  • ถูกมองว่าบริหารแบบ “สายแข็งแต่ขาดหัวใจตลาด”

3. ผลกระทบจากนโยบายโลกและการค้าระหว่างประเทศ

  • Stellantis ได้รับผลกระทบจาก ภาษีนำเข้าในยุคทรัมป์
  • โครงสร้างซัพพลายเชนที่ต้องพึ่งพาการผลิตข้ามพรมแดนยิ่งทำให้ต้นทุนพุ่ง
  • ทำให้ยอดขายในตลาดหลักอย่างอเมริกาซบเซาหนัก

 4. เสียงวิจารณ์จากผู้ถือหุ้นและนักลงทุน

  • มีแรงต่อต้านอย่างหนักจากกลุ่มนักลงทุนที่มองว่าเขา “บริหารพลาดซ้ำซ้อน”
  • การพยายามลงมติไม่ให้จ่ายโบนัสก็สะท้อนความไม่พอใจ
  • ชื่อเสียงของ Tavares เริ่มถูกมองว่าไม่เหมาะกับทิศทางใหม่ของ Stellantis

Carscoop

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้