จีน ออกมาตรการ หากโฆษณารถยนต์ไร้คนขับแบบไม่จริง โดนโทษปรับหนัก 10 เท่า หรือต้องติดคุก

เอกสาร ที่เผยแพร่โดยศูนย์วิจัยความปลอดภัยจราจรของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะจีน ผ่านบทความใน WeChat ชื่อ ขับขี่อัจฉริยะ ต้องมีสติ – การใช้ระบบช่วยขับต้องระมัดระวัง
สรุปได้ดังนี้
สถานะของระบบช่วยขับในรถยนต์ปัจจุบัน
- รถยนต์ที่ขายทั่วไปยังอยู่ที่ ระดับ 0-2 (ระบบช่วยขับ)
- ยัง ไม่ใช่ระบบขับอัตโนมัติ (ระดับ 3-5)
- ผู้ขับขี่ยังต้อง ควบคุมรถตลอดเวลา
พฤติกรรมเสี่ยงที่พบจากผู้ใช้
- เข้าใจผิดว่า “ช่วยขับ = ขับอัตโนมัติ”
- มีการ เล่นมือถือ, หลับ, คุย, กิน ระหว่างขับ
- ส่งผลให้เกิด อุบัติเหตุและผิดกฎหมาย
ความรับผิดทางกฎหมาย
ผู้ขับขี่
- ใช้ระบบช่วยขับแล้ว ละเลยหน้าที่ เช่น ปล่อยมือ/มองทางอื่น = ผิด
- มีโทษ ปรับ, ตัดแต้ม
- หากเกิดอุบัติเหตุ = ต้องรับผิดชอบทั้งแพ่งและอาญา
บริษัทผู้ผลิตรถยนต์
- หาก โฆษณาเกินจริง เช่น บอกว่า “ขับอัตโนมัติ” ทั้งที่เป็นแค่ช่วยขับ
- มีโทษ ปรับ 5-10 เท่าของค่าโฆษณา
- ถ้าเกิดเหตุร้ายแรง เช่น มีผู้เสียชีวิต = อาจโดน ดำเนินคดีอาญา
ผู้ผลิต/ขายอุปกรณ์โกงระบบ
- เช่น อุปกรณ์ที่ทำให้ผู้ขับไม่ต้องจับพวงมาลัย
- ถ้าอุปกรณ์นี้ทำให้เกิดอุบัติเหตุ = ผู้ขายอาจติดคุก 5 ปีขึ้นไป
- ถ้าทำให้มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก = อาจถึง โทษประหาร
เมาแล้วใช้ระบบช่วยขับ = ผิดแน่นอน
- แม้ไม่ได้จับพวงมาลัย แต่ถ้า เมาแล้วยังใช้ระบบช่วยขับ = ผิดกฎหมาย
- เข้าข่าย ขับรถในขณะมึนเมา
- คนอื่นที่ ช่วยตั้งเส้นทาง/ปลดล็อกระบบให้คนเมา ก็ มีความผิดร่วม
ข้อเสนอแนะ
- ผู้ขับขี่ต้อง มีสติ ควบคุมรถตลอดเวลา แม้เปิดระบบช่วยขับ
- บริษัทผู้ผลิตควรมี การอบรมลูกค้าใหม่ให้เข้าใจระบบอย่างถูกต้อง
สาระสำคัญจากบทความ:
สาเหตุของอุบัติเหตุจากระบบช่วยขับ
มีการเข้าใจผิดในหมู่ผู้ขับขี่ที่คิดว่า “ระบบช่วยขับ = ขับอัตโนมัติ” ส่งผลให้มีพฤติกรรมอันตราย เช่น เล่นมือถือ หลับ กินอาหาร หรือพูดคุยระหว่างขับ ทั้งที่ยังต้องรับผิดชอบการควบคุมรถอย่างเต็มที่แม้เปิดระบบช่วยขับแล้วก็ตาม
⚠️ ระดับเทคโนโลยีช่วยขับในปัจจุบัน
รถยนต์ที่จำหน่ายในจีนยังอยู่ในระดับ 0-2 ตามมาตรฐาน GB/T 40429-2021 ซึ่งจัดเป็น “ระบบช่วยขับ” ที่ยังต้องพึ่งพาคนขับเป็นหลัก
ในขณะที่ระดับ 3-5 คือระบบขับอัตโนมัติ ที่ยังไม่มีรถทั่วไปได้รับการรับรองในจีน
⚖️ ความรับผิดชอบของผู้ผลิตและผู้ขับขี่
ความผิดจากการ โฆษณาเกินจริง
หากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์โฆษณาระบบช่วยขับระดับ 2 ว่าเป็น “ขับอัตโนมัติ” ถือเป็น การโฆษณาเท็จ
-
ปรับ 5-10 เท่าของค่าโฆษณา
-
หากร้ายแรง อาจถูก เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจ
-
หากมีผู้เสียชีวิต อาจเข้าข่าย ความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 222 (จำคุกไม่เกิน 2 ปี)
ผู้ขับขี่ที่ใช้ระบบช่วยขับแบบ “ปล่อยมือ-ปล่อยตา”
-
เข้าข่าย ฝ่าฝืนกฎหมายจราจร
-
หากเกิดอุบัติเหตุ ต้องรับผิดชอบทั้งทางแพ่ง และอาจถึงขั้น ผิดอาญาในข้อหา “ขับรถโดยประมาทจนมีผู้เสียชีวิต”
อุปกรณ์ “ปลดล็อคมือ” หรือ “ปลดล็อคสายตา” (เช่น ‘อุปกรณ์โกงระบบ DMS’)
- หากผู้ผลิตหรือขายอุปกรณ์เหล่านี้ และเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
- มีโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือ สูงสุดจำคุกตลอดชีวิต/โทษประหาร หากมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
- หากผู้ขับใช้และเกิดอุบัติเหตุ ต้องรับผิดชอบเช่นเดียวกัน
ดื่มแอลกอฮอล์ + ระบบช่วยขับ = ความผิด
แม้ไม่ได้จับพวงมาลัย แต่หากใช้ระบบช่วยขับโดยอยู่ใน สภาพเมา = ถือว่าขับรถในขณะมึนเมา
และอาจเข้าข่าย ความผิดอาญาฐานขับขี่อันตราย
หากบุคคลอื่นช่วยตั้งปลายทาง ปลดล็อกระบบ DMS แทนผู้เมา = ต้องรับผิดด้วยฐาน “สนับสนุนการฝ่าฝืนกฎหมายจราจร”