ภาพคันจริง DENZA D9 DM-i ปลั๊กอินไฮบริด รุ่นปรับปรุงใหม่ ก่อนเปิดตัวจีน 26 ธันวาคม 2024
ภาพอย่างเป็นทางการของ Denza D9 ปี 2025 ได้รับการเผยแพร่แล้ว และจะเปิดตัวในวันที่ 26 ธันวาคม 2024 ในประเทศจีน มาพร้อมเทคโนโลยี DM เจเนอเรชันที่ 5
สิ่งที่น่าสนใจ
- การออกแบบภายนอก: Denza D9 รุ่นปี 2025 ยังคงรูปทรงโดยรวมคล้ายกับรุ่นปัจจุบัน แต่เพิ่มเทคโนโลยี LiDAR (Laser Radar) บนหลังคาเพื่อรองรับฟีเจอร์การขับขี่อัจฉริยะ
- ขนาดตัวรถ:
- ยาว: 5250 มม.
- กว้าง: 1960 มม.
- สูง: 1900 มม.
- ระยะฐานล้อ: 3110 มม.
- ใช้ล้ออลูมิเนียมอัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 18 นิ้ว
- มีหน้าจอหลากหลายรูปแบบ เช่น:
- หน้าจอกลาง (สำหรับคนขับ)
- หน้าจอผู้โดยสาร (เพิ่มประสบการณ์ความบันเทิง)
- HUD (แสดงข้อมูลบนกระจกหน้า)
- จอสำหรับเบาะหลัง (สองจอแยกสำหรับแถวที่สอง)
- ระบบควบคุมจอสัมผัส สำหรับฟังก์ชันอื่น ๆ เช่น ระบบแอร์และความบันเทิง
- มีหน้าจอหลากหลายรูปแบบ เช่น:
- ดีไซน์ด้านหน้าแบบเพชรเจียระไน ใช้การออกแบบที่เน้นความหรูหราและสวยงามในทุกมิติ
- เส้นสายของกระจังหน้าแบบสามมิติ ดูเหมือนการเจียระไนเพชรที่เปล่งประกาย ผสมผสานความงามแบบธรรมชาติและความหรูหราเข้ากันได้อย่างลงตัว
- การออกแบบตัวถังที่มีเส้นสายเหมือนดาวตก (Flowing Meteor Line)
- เส้นด้านข้างมีความต่อเนื่องและเชื่อมโยงทั้งคัน สร้างภาพลักษณ์ที่ดูสง่างาม พร้อมทั้งสะท้อนถึงความลื่นไหลและความคล่องตัว
- ประตูด้านข้างใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความปลอดภัย มีดีไซน์ที่ดูไหลลื่นและสวยงามในขณะที่ยังใช้งานได้สะดวก
- ไฟหน้า LED ที่ออกแบบให้เหมือนลูกศรดวงดาว มีความสว่างสูง ช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในเวลากลางคืนหรือในที่มืด เน้นความปลอดภัยในทุกเส้นทาง ด้วยระบบเพิ่มความสว่างอัตโนมัติ
- พื้นที่โดยสารกว้างขวาง 7 ที่นั่ง
- ฐานล้อยาว 3110 มม. ช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร
- มี 3 แถวเบาะนั่งแบบปรับระดับได้ รองรับการใช้งานทั้งครอบครัวและธุรกิจ เน้นความสะดวกสบายและการเข้าถึงได้ง่ายของผู้โดยสารทุกที่นั่ง
- เบาะ AirSPA แบบศูนย์แรงโน้มถ่วง เบาะนั่งที่ออกแบบมาให้เหมือนการโอบกอดด้วยหมอกนุ่ม
- มีระบบปรับโหมด “ศูนย์แรงโน้มถ่วง” เพียงกดปุ่มเดียว ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกผ่อนคลายสูงสุด รองรับทั้งการนั่งและการเอนหลังในตำแหน่งที่สบายที่สุด
- เบาะแถวที่สามที่กว้างขวาง การออกแบบใหม่ของแถวที่สาม ให้ความสบายเหมือนแถวแรกและแถวที่สอง ปรับองศาการเอนพิงหลังด้วย “มุมทองคำ 117 องศา” เพื่อเพิ่มความผ่อนคลาย
- ไฟท้ายแบบปีกดาวตก การออกแบบไฟท้ายที่เป็นเอกลักษณ์ คล้ายกับปีกดาวตก ใช้แถบไฟแบบเส้นที่ต่อเนื่อง พร้อมดีไซน์ที่สมมาตรสองด้าน
- หน้าจอแบบ 10 หน้าจอ
- หน้าจอกลาง (สำหรับคนขับ)
- หน้าจอผู้โดยสาร (เพิ่มประสบการณ์ความบันเทิง)
- HUD (แสดงข้อมูลบนกระจกหน้า)
- จอสำหรับเบาะหลัง (สองจอแยกสำหรับแถวที่สอง)
- ระบบควบคุมจอสัมผัส สำหรับฟังก์ชันอื่น ๆ เช่น ระบบแอร์และความบันเทิง
- รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
- ระบบเสียงโรงละครเคลื่อนที่ Devialet ลำโพงที่ออกแบบโดย Devialet แบรนด์เสียงระดับไฮเอนด์ มอบคุณภาพเสียงที่เปรียบเสมือนอยู่ในโรงละคร
ทุกการเดินทางจะเต็มไปด้วยความบันเทิงและอรรถรสด้านเสียงระดับพรีเมียม
ขุมพลังและสมรรถนะ
- เครื่องยนต์และระบบไฮบริด:
- ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5T พร้อมระบบ Plug-in Hybrid ที่พัฒนาโดยเทคโนโลยี DM เจเนอเรชันที่ 5
- กำลังสูงสุด: 156 แรงม้า
- มอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลัง 268 แรงม้า
- รุ่น 4WD ให้กำลัง 60 แรงม้าเพลาหลัง
- ความเร็วสูงสุด: 190 กม./ชม.
- ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 39.938 kWh
- ระยะทาง 190 – 200 กม. ของ CLTC
- ครอบคลุมการวิ่ง 1,100 กม./ถังน้ำมัน
