ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ในยุโรป โปรตุเกส สเปน ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์
ไฟดับครั้งใหญ่ในยุโรป 28 เมษายน 2025: ลามหนักตั้งแต่โปรตุเกสถึงโมร็อกโก
เกิดไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ในยุโรปเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2025 ส่งผลให้โปรตุเกส, สเปน, ฝรั่งเศส, อิตาลี, เยอรมนี, ฟินแลนด์, เนเธอร์แลนด์ และแม้แต่โมร็อกโก ต่างตกอยู่ในภาวะอัมพาต เริ่มตั้งแต่เวลา 11:30 น. ตามเวลาลิสบอน ระบบสาธารณูปโภคสำคัญ เช่น โรงพยาบาล ขนส่งสาธารณะ สนามบิน และระบบโทรคมนาคมล่มสนิท ผู้คนนับล้านได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
- รถไฟใต้ดินอพยพผู้โดยสาร
- เที่ยวบินเลื่อนและยกเลิก
- ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ล่มยกแผง
- ชีวิตในเมืองกลายเป็นความโกลาหล
ต้นเหตุเบื้องต้น: เกิดความผิดพลาดที่สายส่งไฟฟ้าแรงสูง 400,000 โวลต์ในโปรตุเกส ก่อนจะแพร่กระจายทั่วเครือข่ายไฟฟ้ายุโรปที่เชื่อมโยงกันเป็นลูกโซ่ แม้ว่าบางพื้นที่ของฝรั่งเศสเริ่มฟื้นตัวได้แล้ว แต่ศูนย์กลางอย่างลิสบอนและมาดริดยังคงมืดสนิท
เมื่อไหร่ไฟฟ้าจะกลับมา?
- โปรตุเกส: พื้นที่เหนือ-ใต้คาดว่าฟื้นบางส่วนช่วงบ่าย แต่ลิสบอนและตอนกลางอาจต้องรอถึงค่ำ
- สเปน: มาดริดและบาร์เซโลนาอาจมีไฟฟ้ากลับมาบางส่วนช่วงค่ำ
- ฝรั่งเศส: ฟื้นตัวได้บางส่วน แต่ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในโปรตุเกสและสเปนด้วย
การซิงค์ระบบไฟฟ้าในเครือข่ายข้ามประเทศต้องทำอย่างระวัง ไม่งั้นจะเกิดความเสียหายรอบสองได้ง่าย เจ้าหน้าที่เตือนว่าถึงไฟฟ้าจะกลับมา ระบบโทรคมนาคมและขนส่งอาจยังมีปัญหาต่อไปอีกหลายวัน
สาเหตุที่เป็นไปได้
- ความผิดพลาดทางเทคนิค ในสายส่งแรงสูง
- ปรากฏการณ์บรรยากาศหายาก (ยังไม่มีข้อมูลยืนยัน)
- ไซเบอร์แอทแทก: รัฐบาลโปรตุเกสและหน่วยงานไซเบอร์สเปนกำลังสอบสวน แม้ข่าวลือเรื่องรัสเซียถูกปฏิเสธแล้ว
- ภาระโหลดเกิน: ความต้องการใช้ไฟสูงขึ้น พร้อมกับการลดการใช้พลังงานความร้อนและนิวเคลียร์
- เหตุเพลิงไหม้ในฝรั่งเศส: ทำลายสายส่งสำคัญ แต่คาดว่าไม่ใช่สาเหตุหลัก
ผลกระทบทันที
- รถไฟฟ้าใต้ดินในลิสบอนและมาดริดหยุดเดินรถ คนต้องเดินในอุโมงค์
- สนามบินในฟาโร, ปอร์โต และลิสบอน ใช้ไฟฉุกเฉิน ทำให้เที่ยวบินล่าช้า
- โรงพยาบาลใช้ไฟสำรอง ยกเลิกการผ่าตัดไม่เร่งด่วน
- ระบบโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตติดๆ ดับๆ
- ร้านค้าต้องกลับไปรับ “เงินสด” เพราะบัตรรูดไม่ได้
เส้นเวลาไฟดับ (Timeline)
- 11:30 น.: ไฟดับที่โปรตุเกสและสเปน
- 12:00 น.: ลามไปฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ และโมร็อกโก
- 12:25 น.: สเปนรายงานการใช้ไฟฟ้าลดฮวบ
- 13:00 น.: ฝรั่งเศสเริ่มฟื้นฟูบางส่วน
- 14:00 น.: คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มประสานงานช่วยเหลือ
ปฏิกิริยาจากประชาชนและเจ้าหน้าที่
- โซเชียลล้อเลียน-วิจารณ์รัวๆ เรื่องการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน
- นายกรัฐมนตรีโปรตุเกสยันไม่ได้เริ่มที่บ้านเราเอง แย้มปัญหามาจากสเปน
- กองทัพสเปนลงพื้นที่คุมสถานการณ์
- คณะกรรมาธิการยุโรป (EU) เข้ามาดูแลการฟื้นฟูข้ามประเทศ
ช่องโหว่ที่ถูกเปิดโปง
แม้ยุโรปจะมีโครงข่ายไฟฟ้าที่ทันสมัยที่สุดในโลก แต่ก็ยัง “เปราะบาง” สุดๆ
- เครือข่ายไฟฟ้าเชื่อมต่อกันทั่วทวีป พลาดที่เดียว ล่มกันเป็นโดมิโน
- การพึ่งพาพลังงานหมุนเวียน (พลังงานแสงอาทิตย์ ลม) ยังมีปัญหาเรื่องเสถียรภาพ
- การปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และโรงไฟฟ้าความร้อนลดกำลังสำรอง
- ความเสี่ยงไซเบอร์เพิ่มขึ้น
ผลกระทบเศรษฐกิจ-สังคม
- การท่องเที่ยว ค้าปลีก และอุตสาหกรรม สูญเสียรายได้มหาศาล
- การแข่งขันเทนนิส ATP Madrid Masters ต้องหยุดกลางคัน
- สนามบินทำงานได้จำกัด กระทบขนส่งคน-สินค้า
- โรงพยาบาลต้องจ่ายเพิ่มจากการใช้ไฟฉุกเฉิน
- ร้านค้าเสียหายจากสินค้าพังเพราะไม่มีไฟ
- ความกังวลเรื่องอาชญากรรมในพื้นที่มืดทำให้ตำรวจต้องระดมกำลัง
สิ่งที่ยุโรปต้องทำหลังวิกฤต
- อัปเกรดโครงข่ายไฟฟ้าให้ฉลาดขึ้น มีระบบสำรอง (Redundancy)
- กระจายพลังงานและเพิ่มระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage)
- เสริมความแข็งแกร่งทางไซเบอร์
- ซ้อมแผนฉุกเฉินข้ามประเทศบ่อยขึ้น
บทเรียนจากอดีต
ยุโรปเคยมีไฟดับใหญ่ เช่น เยอรมนีในปี 2006 และโครเอเชียในปี 2021 แต่ไฟดับปี 2025 ครั้งนี้ ถือเป็น “อาฟเตอร์ช็อก” ครั้งใหญ่ ที่ตอกย้ำว่าโลกยุคใหม่ ต้องเตรียมพร้อมรับมือทั้งภัยทางเทคนิค ธรรมชาติ และไซเบอร์ให้ดีกว่านี้
อะไรต่อจากนี้?
ชั่วโมงต่อไปเป็นช่วงวิกฤตสำหรับการฟื้นฟูไฟฟ้า กำลังพยายามซิงค์ระบบอย่างระมัดระวัง แต่บางพื้นที่อาจใช้เวลาหลายวันในการกู้คืน
“ไฟอาจกลับมาเร็ว แต่รอยร้าวในระบบ…คงต้องใช้เวลานานกว่านั้น”
