FORD ทุ่มสุดตัว เพิ่มเงินกว่า 990,000 ล้านบาท ลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้า
Ford ต้องจ่ายเงินในการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า EV : Electric Vehicle มากกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป ICE : INTERNAL COMBUSTION ENGINE (รถยนต์ใช้น้ำมัน) ในปี 2023
FORD ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สัญชาติ สหรัฐฯ เมื่อต้นปีนี้ ประกาศแผนลงทุนเพิ่มกว่า 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 990,000 ล้านบาท ในการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า EV จนถึงปี 2025
Lisa Drake หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Ford ประจำอเมริกาเหนือได้เปิดเผยขอบเขตการลงทุนของบริษัท
“ในปี 2023… เราจะใช้จ่ายกับ EV มากกว่าที่เราใช้กับ รถเครื่องยนต์สันดาป ซึ่งพร้อมกับความสำเร็จ Mach-E และ F-150 Lightning เราได้เสนอรถยนต์ไฟฟ้าให้ลูกค้ากว่า 70% เพื่อหันควาสนใจมายังแบรนด์ FORD ตอนนี้เรามีโอกาสไม่เพียงแต่เป็นผู้นำ เครื่องยนต์สันดาป แต่เราจะเป็นผู้นำรถยนต์ไฟฟ้า EV เช่นกัน ”
The Detroit News รายงาน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Jim Farley หัวหน้าผู้บริหารของ Ford กล่าวว่า F-150 Lightning มียอดจองกว่า 120,000 คัน และเผยว่า กว่า 75% เป็นลูกค้าที่มาจากรถยนต์แบรนด์อื่นๆ
Lisa Drake กล่าวเสริมในงานว่า Ford จะต้องได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายบริหารของ ประธานาธิบดี ไบเดน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
ฝ่ายบริหารต้องการผลักดันให้ยอดขายรถยนต์ใหม่ร้อยละ 40 ถึง 50 เป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าภายในปี 2573
“เราจะพึ่งพานโยบายโครงสร้างพื้นฐานบางส่วน และ ความร่วมมือของฝ่ายบริหารของรัฐบาล เพื่อพลักดันให้แผนงานเป็นจริง” Drake กล่าว
ไม่แปลกใจที่ ฟอร์ต กำลังลงทุนมหาศาลในเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า EV เพราะต้องสร้างไลน์การผลิตใหม่ทั้งหมด รวมทั้งมุ่งเน้นการพัฒนาวิจัยเรื่องแบตเตอรี่ไฟฟ้า มอเตอร์ไฟฟ้า แพลตฟอร์มไฟฟ้า ใหม่ๆ ซึ่งทั้งหมดล้วนใช้ต้นทุนมหาศาล การก้าวผ่าน จากรถยนต์สันดาป ไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับแบรนด์รถยนต์ทุกยี่ห้อ เพราะมันคือการเดิมพันที่สูงมาก แต่หากสำเร็จมันก็คุ้มค่ามากเช่นกัน