ขาดทุนกว่า 3.66 ล้านบาทต่อการขายรถยนต์ไฟฟ้า 1 คัน FORD เริ่มไม่ไหว ลดการซื้อแบตเตอรี่ไฟฟ้า
ล่าสุดมีรายงานของ FORD เผยว่าพวกเขา ได้ลดคำสั่งซื้อแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เนื่องจากบริษัทเผชิญกับความสูญเสียอย่างมากในเทคโนโลยีนี้ และปรับแผนการใช้ไฟฟ้าน้อยลง
หลังจากที่แบรนด์ FORD เผยรานงานเดือนที่แล้วระบุว่า ธุรกิจ Model e EV หรือ ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์ สูญเสียเงินกว่า 100,000$ หรือประมาณ 3.66 ล้านบาทต่อการขายรถยนต์ไฟฟ้าหนึ่งคัน ขณะนี้ผู้ผลิตรถยนต์กำลังลดคำสั่งซื้อแบตเตอรี่ EV ตามแหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้ในรายงานของ Bloomberg เมื่อวันศุกร์ แหล่งข่าวที่ขอไม่เปิดเผยชื่อกล่าวว่า Ford ยังคงเป็นพันธมิตรกับซัพพลายเออร์แบตเตอรี่ รวมถึง SK On, LG Energy Solution และ Contemporary Amperex Technology Co. Ltd. (CATL)
ฟอร์ดคาดการณ์การสูญเสียเงินไปกับธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้ามากถึง 5.5 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ หรือประมาณ 201,300 ล้านบาท ดังรายละเอียดในการรายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2024 ของบริษัท Jim Farley ซีอีโอยังกล่าวอีกว่า Model e “เป็นตัวถ่วงหลักของทั้งบริษัทในขณะนี้”
ในขณะที่เขียน ยังไม่ชัดเจนว่า Ford ลดขนาดคำสั่งซื้อแบตเตอรี่ EV ลงเท่าใด และผู้ผลิตรถยนต์ยังไม่ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นของ Teslarati ตามรายงาน
การลดขนาดคำสั่งซื้อแบตเตอรี่ของ FORD เกิดขึ้นจากความพยายามที่มากขึ้นของบริษัทในการลดขนาดโครงการ EV หันมาสนับสนุนรถยนต์ที่ใช้แก๊สและไฮบริด โดยเริ่มจากบริษัทประกาศในเดือนตุลาคมว่าจะ เลื่อนการลงทุน EV ประมาณ 12,000 ล้านดอลลาร์ในเดือนเมษาย Ford ได้ประกาศแผนการที่จะชะลอการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 3 แถวและรถกระบะไฟฟ้าเจเนอเรชันหน้าแม้ว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทจะสูงเป็นประวัติการณ์ก็ตาม
ปัจจุบันบริษัท FORD สหรัฐอเมริกาหยุดการจัดส่ง F-150 Lightning ทั้งหมดในเดือนกุมภาพันธ์โดยมุ่งเน้นไปที่การนำรถบรรทุกรุ่นที่ใช้แก๊สไปยังตัวแทนจำหน่ายแทน
ผู้ผลิตรถยนต์ยังลดจำนวนของพนักงานที่ผลิต FORD F-150 Lightning กระบะไฟฟ้า ลงประมาณสองในสามโดยเสนอทางเลือกให้คนงานที่ได้รับผลกระทบได้รับการมอบหมายใหม่ไปยังสถานที่อื่นหรือยอมรับแพ็คเกจการเกษียณอายุโดยสมัครใจต่อมาฟอร์ดกลับมาส่งมอบรถกระบะไฟฟ้าในเดือนเมษายนพร้อมกับเสนอลดราคา 2,000 ดอลลาร์ขึ้นไปสำหรับโครงร่างของรถบรรทุกหลายรุ่น