Advertisement

Advertisement

ข้อมูล 4 รุ่นใหม่ FORD EVEREST ใหม่ Platinum / Sport / Trend / Ambiente

ข้อมูล 4 รุ่นใหม่ FORD EVEREST ใหม่ Platinum / Sport / Trend / Ambiente
Spread the love

Advertisement

Advertisement
สีเงิน Aluminium
สีขาว Arctic White
สีเทา Meteor Grey
สีส้ม Sedona Orange
สีน้ำตาล Equinox Bronze
สีดำ Absolute Black

Ford Everest ใหม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ บนแพลตฟอร์ม T6 เวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่ ราคาตอนนี้ยังไม่เปิดเผย แต่จะเปิดตัวช่วงไตรมาส 3 ของปี 2022

Ford Everest ใหม่ มีให้เลือก 4 เกรด ได้แก่ Ambiente, Trend, Sport และ Platinum ซึ่งจะมีรายละเอียดปลีกย่อยค่อนข้างมาก

Everest ใหม่ ติดตั้งขุมพลังดีเซล Bi-Turbo EcoBlue TDCi 4 สูบ 2.0 210 แรงม้า แรงบิต 500 นิวตัน-เมตร (ลากจูง 3000 กก.)

ดีเซล Power Stroke V6 3.0 เทอร์โบ 254 แรงม้า แรงบิต 597 นิวตัน-เมตร ตัวเลขอิงจาก F-150 ในสหรัฐอเมริกา (ลากจูง 3500 กก.) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดเท่านั้น

ขับเคลื่อน 4 ล้อ ปรับด้วยไฟฟ้า (Electronic Shift-On-The-Fly) พร้อมเกียร์ทรานสเฟอร์แบบ 2 จังหวะ (On-Demand Two-Speed Electromechanical transfer case – EMTC) ดีเซลเทอร์โบเดี่ยว 2.0 ลิตร และ 2.3 ลิตร EcoBoost 4 สูบ 270 แรงม้า และ 420 นิวตันเมตร จำหน่ายในบางประเทศ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบซีเล็กชิฟท์ 10 สปีด

ระบบเปลี่ยนเกียร์อิเล็กทรอนิกส์แบบ Shift-On-The-Fly และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะแบบเต็มเวลา (set-and-forget mode) ที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์การขับขี่ของลูกค้าได้ในทุกสภาพถนน ทั้งยังมีอุปกรณ์ช่วยเหลือในการขับขี่ออฟโรดที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ด้วยตะขอเกี่ยวคู่หน้าที่กันชนหน้า เฟืองท้ายแบบ Locking Rear Differential ตะขอคู่หน้า ช่องพ่วงออฟโรต Upfitter Switch

โหมดการขับขี่ที่เลือกได้ประกอบด้วย Normal, Eco, Tow Haul และ Slippery ในขณะที่โหมด off-road ที่มีใน 4×4 Trend, Sport และ Platinum รวมถึง Mud/Ruts และ Sand

Ford Everest รักษาความยาวเท่าเดิม แต่ฐานล้อเพิ่มขึ้น 50 มม. จากรุ่นก่อน แทร็กเพิ่มขึ้น 50 มม. สามารถลุยน้ำลึก 800 มม. หลังคาของเอเวอเรสต์สามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกคงที่สูงสุด 350 กก.

การออกแบบโดยรวมโดยเฉพาะด้านหน้าของ Everest คล้ายกับ Ranger ที่เน้นกระจังหน้ากว้างขึ้น พร้อมไฟส่องสว่างแบบ C-clamp ไฟหน้าแบบ LED เมทริกซ์ ตัวถังที่เหลี่ยมขึ้นหลังคาสีดำ ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว

ทุกรุ่นมีระบบอินโฟเทนเมนท์ Sync 4A พร้อม Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย ระบบ Infotainment หน้าจอสัมผัสขนาด 12 นิ้วในแนวตั้ง โดยรุ่นพื้นฐานใช้ขนาด 10.1 นิ้ว รองรับการอัปเดตแบบ over-the-air เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันฟอร์ดพาส (FordPass™)iv,v แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 8 – 12.4 นิ้วตามเกรด ไฟบรรยากาศ Ambiente กล้อง 360 องศา

  • Ford Everest FordPass ™6 Connectivity เจนเนอเรชั่นใหม่ ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลสำคัญ เช่น แรงดันลมยาง , ตำแหน่งของรถ สามารถปลดล็อกรถจากระยะไกล เปิดใช้งาน Zone Lighting (หากติดตั้งไว้) และสตาร์ทรถผ่านแอป FordPass
  • ช่อง USB สำหรับแถวหน้าและแถวที่สอง นอกจากนี้ยังมีปลั๊กไฟ 12V สำหรับแถวที่สามและพื้นที่เก็บสัมภาระ
  • ไฟส่องสว่างโซน สามารถให้แสงสว่างภายนอกรอบคัน เหมาะกับการตั้งแคมป์ หรือท่องเที่ยวอย่างมาก

ในเกรด Platinum ติดตั้งเบาะหนังแบบหนาพิเศษ ระบบแสงโดยรอบ และ ซันรูฟแบบพาโนรามา

เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง รองรับการจดจำการตั้งค่าส่วนตัวของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เบาะนั่งแถวที่สอง เลื่อนได้แบ่ง/พับ 60:40 โดยแถวที่สามมีการแบ่ง 50/50 ทั้งสองแถวได้รับการออกแบบให้พับราบได้

แถวที่สามยังมีพื้นที่วางไหล่และที่เก็บของ ด้านหลังมีพื้นที่เก็บสัมภาระ 537 ลิตร มีพื้นที่เก็บของใต้พื้น ในขณะที่ Ford ได้ติดตั้งลิ้นเล็กๆ สำหรับพื้นที่บรรทุกซึ่งเรียกว่า ‘apple catcher’ เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งของหลุดออกมาเมื่อเปิดประตูท้าย

ระบบความปลอดภัย และ ช่วยเหลือการขับขี่ได้แก่

  • ถุงลมนิรภัย 9 ตำแหน่ง มีถุงลมนิรภัยตรงกลางแบบใหม่ระหว่างผู้โดยสารด้านหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้ชนกันจากการกระแทกด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัยยังคงครอบคลุมทั้งสามแถว / ถุงลมนิรภัยหัวเข่า เฉพาะคู่หน้า
  • ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go (Adaptive Cruise Control with Stop & Go)
  • ระบบควบคุมรถให้อยู่กลางช่องทาง (Lane Centering)
  • ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัจฉริยะ (Intelligent Adaptive Cruise Control)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางผสานระบบตรวจจับขอบถนน (Lane-keeping System with Road-edge Detection)
  • ระบบช่วยหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ (Evasive Steer Assist)
  • ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง (Reverse Brake Assist)
  • ระบบตรวจจับรถในจุดบอดครอบคลุมส่วนต่อพ่วง (Blind Spot Information System with Trailer coverage)
  • ระบบป้องกันการชนเพื่อป้องกันการชนบริเวณทางแยก (Pre-collision Assist with Intersection Functionality)
  • ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ 2.0 ix ช่วยจอดสะดวกสบายมากขึ้นในพื้นที่แคบเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ระบบจะช่วยบังคับพวงมาลัย ปรับเกียร์ เร่งความเร็ว เบรก ให้จอดรถแบบขนาน หรือ เข้าช่องจอดง่ายๆ

หลังจากการเปิดตัวครั้งแรกของโลกในวันนี้ Ford Everest ปี 2023 จะออกสู่ตลาดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เช่น ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ ฟิลิปปินส์ ประเทศไทย และอื่นๆ สำหรับรุ่น ปลั๊กอินไฮบริด PHEV จะตามมาทีหลัง

Carexpert

2023 Ford Everest Australian range

  • Everest Ambiente 2.0-litre 4×2
  • Everest Ambiente 2.0-litre 4×4
  • Everest Trend 2.0-litre 4×2
  • Everest Trend 2.0-litre 4×4
  • Everest Sport 2.0-litre 4×4
  • Everest Sport 3.0-litre V6 4×4
  • Everest Platinum 3.0-litre V6 4×4

Platinum

  • ดีเซลเทอร์โบ V6 3.0 ลิตร
  • ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมาตรฐาน 4X4
  • ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว
  • ภายนอกด้วยโครเมียมพร้อม
  • กระจังหน้าที่เป็นเอกลักษณ์
  • ตัวอักษรที่ฝากระโปรง ‘PLATINUM’
  • ไฟหน้า LED Matrix
  • แผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 12.4 นิ้ว
  • เบาะนั่งหุ้มหนังลายจุดพร้อม สัญลักษณ์ PLATINUM
  • เบาะคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 10 ทิศทางพร้อมหน่วยความจำ
  • ซันรูฟพาโนรามา
  • พวงมาลัยอุ่น
  • เบาะนั่งแถวสองอุ่น
  • กล้อง 360 องศา
  • ไฟส่องสว่างบริเวณภายนอก
  • ระบบช่วยจอด
  • เบาะแถว 3 แยกพับ 50:50
  • ราวหลังคาแบบแยกส่วน

เลือกแพคเกจเพิ่มเติม

  • ล้ออัลลอย 18 นิ้ว
  • กันชนใต้ท้องรถ
  • ชุดลากจูงทำให้สามารถลากสูงสุด 3500 กก. รวมตัวควบคุมเบรกของรถพ่วงไฟฟ้าในตัว

ตัวเลือกอื่นๆ ในบางรุ่น

  • กล้อง 360 องศา (Trend 4×4 และ Sport; มาตรฐานใน Platinum)
  • ไฟส่องสว่างบริเวณภายนอก (Trend 4×4 และ Sport; มาตรฐานบนแพลตตินัม)
  • เบาะนั่งคู่หน้าแบบปรับความร้อนและระบายอากาศได้ (Trend; มาตรฐานสำหรับรุ่น Sport และ Platinum)

Sport

  • ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตรทวินเทอร์โบ และ เทอร์โบดีเซล 3.0 ลิตร V6
  • 4×4 เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
  • ล้ออัลลอยสีดำขนาด 20 นิ้ว
  • กระจังหน้า กระจก มือจับประตู สีดำ
  • ตัวอักษรสีดำ ‘EVEREST’
  • เบาะนั่งคู่หน้าแบบปรับความร้อน และ ระบายอากาศได้
  • ป้ายที่นั่ง ‘Sport’
  • ภายในตกแต่งเสริมด้วยโลหะ

TREN

  • 2.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ดีเซล 4 สูบ
  • ระบบขับเคลื่อน 4X2 และ 4X4
  • ล้อแม็ก 18 นิ้ว
  • กระจังหน้าโครเมียม
  • หน้าจอสัมผัสระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 12 นิ้ว
  • หน้าจอข้อมูลระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (รุ่น 4×4 เท่านั้น)
  • อัพเกรดไฟท้าย LED
  • เบาะภายในที่มีเอกลักษณ์เฉพาะพร้อมการเน้นควิลท์
  • พอร์ต USB แถวที่สาม

AMBIENTE

  • รุ่นเริ่มต้น จะติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ
  • ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือก 4×2 และ ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4X4
  • ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
  • หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว Sync 4A พร้อม Apple CarPlay และ Android Auto
  • หน้าจอแสดงผลแบบดิจิตอลขนาด 8.0 นิ้ว
  • โหมด Normal, Eco, Slippery และ Tow/Haul
  • โหมดโคลน/ร่องและทราย (รุ่น 4×4 เท่านั้น)
  • คันเกียร์ไฟฟ้า (รุ่น 4×4 เท่านั้น)
  • ไฟหน้า LED
  • เบาะผ้า
  • การชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
  • เบรกจอดรถแบบไฟฟ้า
  • เบาะแถวสองพับแยก 60:40
  • การเชื่อมต่อแอพ FordPass Connect

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้