Advertisement

Advertisement

ลดราคา 143,000 บาท FORD EVEREST รุ่น Trend เหลือ 1,249,000 บาท

ลดราคา 143,000 บาท FORD EVEREST รุ่น Trend เหลือ 1,249,000 บาท
Spread the love

Advertisement

Advertisement

 

 

FORD EVEREST ในประเทศไทย

  • 2.0L Turbo Trend 4×2 6AT 1,392,000 บาท ลดเหลือ 1,249,000 บาท (ส่วนลด 143,000 บาท)
  • 2.0L Turbo Sport 4×2 6AT  1,580,000 บาท 
  • 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4×2 10AT 1,772,000 บาท  
  • 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4×4 10AT 1,922,000 บาท  
  • 2.0L Bi-Turbo Wildtrak 4×4 10AT  1,937,000 บาท 

ซื้อ Everest Trend วันนี้ ราคาพิเศษเพียง 1,249,000 บาท (จากราคาปกติ 1,392,000 บาท) พร้อมโปรแกรม Ford Care รับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่จากโรงงาน นาน 5 ปี หรือ 150,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)*​ พิเศษ! รับฟรี กระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้ว มูลค่า 3,900 บาท เมื่อจองระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567 ด่วน! ของมีจำนวนจำกัด

ดีเซล 2.0 Turbo 6AT 2WD

  • เครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ กำลังสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง

ดีเซล 2.0 Bi-Turbo 10AT 4WD

  • เครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี. พ่วงเทอร์โบคู่ (ทำงานร่วมกันระหว่าง High-Pressure (HP Turbo) เทอร์โบแรงดันสูง และ Low-Pressure (LP Turbo) เทอร์โบแรงดันต่ำ ควบคุมด้วยวาล์ว Bypass) กำลังสูงสุด 210 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-time 4WD ที่ปรับเป็นขับเคลื่อน 2 ล้อ

ระบบเปลี่ยนเกียร์อิเล็กทรอนิกส์แบบ Shift-On-The-Fly และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะแบบเต็มเวลา (set-and-forget mode) ที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์การขับขี่ของลูกค้าได้ในทุกสภาพถนน ทั้งยังมีอุปกรณ์ช่วยเหลือในการขับขี่ออฟโรดที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ด้วยตะขอเกี่ยวคู่หน้าที่กันชนหน้า เฟืองท้ายแบบ Locking Rear Differential ตะขอคู่หน้า ช่องพ่วงออฟโรต Upfitter Switch

โหมดการขับขี่ที่เลือกได้ประกอบด้วย Normal, Eco, Tow Haul และ Slippery ในขณะที่โหมด off-road ที่มีใน 4×4 Platinum รวมถึง Mud/Ruts และ Sand

Ford Everest รักษาความยาวเท่าเดิม แต่ฐานล้อเพิ่มขึ้น 50 มม. จากรุ่นก่อน แทร็กเพิ่มขึ้น 50 มม. สามารถลุยน้ำลึก 800 มม. หลังคาของเอเวอเรสต์สามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกคงที่สูงสุด 350 กก.

การออกแบบโดยรวมโดยเฉพาะด้านหน้าของ Everest คล้ายกับ Ranger ที่เน้นกระจังหน้ากว้างขึ้น พร้อมไฟส่องสว่างแบบ C-clamp ไฟหน้าแบบ LED เมทริกซ์ ตัวถังที่เหลี่ยมขึ้นหลังคาสีดำ ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว

ขนาดตัวถัง

  • ความยาว : 4,914 มม.
  • ความกว้าง : 1,923 มม.
  • ความสูง : 1,842 มม.
  • ความยาวฐานล้อ : 2,900 มม.
  • ความกว้างล้อหน้า/หลัง : 1,620/1,620 มม.
  • ระยะต่ำสุดใต้ท้องรถ : 227 มม.
  • ความจุถังนำ้มัน : 80 ลิตร

ทุกรุ่นมีระบบอินโฟเทนเมนท์ Sync 4A พร้อม Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย ระบบ Infotainment หน้าจอสัมผัสขนาด 12 นิ้วในแนวตั้ง โดยรุ่นพื้นฐานใช้ขนาด 10.1 นิ้ว รองรับการอัปเดตแบบ over-the-air เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันฟอร์ดพาส (FordPass™)iv,v แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 8 – 12.4 นิ้วตามเกรด ไฟบรรยากาศ Ambiente กล้อง 360 องศา

  • Ford Everest FordPass ™6 Connectivity เจนเนอเรชั่นใหม่ ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลสำคัญ เช่น แรงดันลมยาง , ตำแหน่งของรถ สามารถปลดล็อกรถจากระยะไกล เปิดใช้งาน Zone Lighting (หากติดตั้งไว้) และสตาร์ทรถผ่านแอป FordPass
  • ช่อง USB สำหรับแถวหน้าและแถวที่สอง นอกจากนี้ยังมีปลั๊กไฟ 12V สำหรับแถวที่สามและพื้นที่เก็บสัมภาระ
  • ไฟส่องสว่างโซน สามารถให้แสงสว่างภายนอกรอบคัน เหมาะกับการตั้งแคมป์ หรือท่องเที่ยวอย่างมาก
  • ในเกรด Platinum ติดตั้งเบาะหนังแบบหนาพิเศษ ระบบแสงโดยรอบ และ ซันรูฟแบบพาโนรามา

เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง รองรับการจดจำการตั้งค่าส่วนตัวของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เบาะนั่งแถวที่สอง เลื่อนได้แบ่ง/พับ 60:40 โดยแถวที่สามมีการแบ่ง 50/50 ทั้งสองแถวได้รับการออกแบบให้พับราบได้

แถวที่สามยังมีพื้นที่วางไหล่และที่เก็บของ ด้านหลังมีพื้นที่เก็บสัมภาระ 537 ลิตร มีพื้นที่เก็บของใต้พื้น ในขณะที่ Ford ได้ติดตั้งลิ้นเล็กๆ สำหรับพื้นที่บรรทุกซึ่งเรียกว่า ‘apple catcher’ เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งของหลุดออกมาเมื่อเปิดประตูท้าย

ระบบความปลอดภัย และ ช่วยเหลือการขับขี่ได้แก่

  • ถุงลมนิรภัย 9 ตำแหน่ง มีถุงลมนิรภัยตรงกลางแบบใหม่ระหว่างผู้โดยสารด้านหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้ชนกันจากการกระแทกด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัยยังคงครอบคลุมทั้งสามแถว / ถุงลมนิรภัยหัวเข่า เฉพาะคู่หน้า
  • ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go (Adaptive Cruise Control with Stop & Go)
  • ระบบควบคุมรถให้อยู่กลางช่องทาง (Lane Centering)
  • ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัจฉริยะ (Intelligent Adaptive Cruise Control)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางผสานระบบตรวจจับขอบถนน (Lane-keeping System with Road-edge Detection)
  • ระบบช่วยหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ (Evasive Steer Assist)
  • ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง (Reverse Brake Assist)
  • ระบบตรวจจับรถในจุดบอดครอบคลุมส่วนต่อพ่วง (Blind Spot Information System with Trailer coverage)
  • ระบบป้องกันการชนเพื่อป้องกันการชนบริเวณทางแยก (Pre-collision Assist with Intersection Functionality)
  • ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ 2.0 ix ช่วยจอดสะดวกสบายมากขึ้นในพื้นที่แคบเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ระบบจะช่วยบังคับพวงมาลัย ปรับเกียร์ เร่งความเร็ว เบรก ให้จอดรถแบบขนาน หรือ เข้าช่องจอดง่ายๆ

 

สีเทา Meteror Grey

 

สีเงิน Alumium metallic

 

สีดำ Absolute Black

 

สีบรอนซ์ Equinox Bronze

 

สีขาวมุก Snow Flake White Pearl + 10,000 บาท

 

สีแดงส้ม Sedona Orange + 10,000 บาท

สีฟ้า Blue Lightning

 

สีเทา Meteror Grey

 

สีเงิน Alumium metallic

 

สีดำ Absolute Black

 

สีบรอนซ์ Equinox Bronze

 

สีขาวมุก Snow Flake White Pearl + 10,000 บาท

 

สีแดงส้ม Sedona Orange + 10,000 บาท

เปิดราคาไทย 1,922,000 บาท Ford Everest Wildtrak 2023 ใหม่ พร้อมแต่งพิเศษ ดุดันมากกว่า

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้