FORD Expedition MY2025 Full Size SUV 8 ที่นั่ง เปิดตัวในสหรัฐฯ พร้อมปรับปรุงใหม่

 

วันที่ 4 ตุลาคม 2024 Ford Expedition ปี 2025 ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมปรับปรุง และคุณสมบัติใหม่ทั้งหมด ภายในรองรับ 8 ที่นั่งนับเป็น Full SIZE SUV ที่น่าสนใจอีกรุ่นของ FORD มีให้เลือกทั้งรุ่น Expedition Active, King Ranch ®และ Platinum

• สำหรับปี 2025 เราจะขยายการให้บริการระบบขับขี่บนทางหลวงแบบแฮนด์ฟรีของ Ford BlueCruise ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Expedition โดยระบบดังกล่าวจะเปิดใช้งานได้ในรถยนต์รุ่น Expedition เกือบ 90% ทุกรุ่น ปัจจุบัน รุ่น Platinum, King Ranch, Tremor และ Active มาพร้อมฮาร์ดแวร์ BlueCruise เป้าหมายของเราคือการให้ลูกค้า Expedition เข้าถึงระบบขับขี่บนทางหลวงแบบแฮนด์ฟรีได้มากขึ้น
• รถยนต์รุ่นที่ติดตั้ง BlueCruise ทั้งหมดมาพร้อม BlueCruise รุ่นปรับปรุงใหม่ ซึ่งมอบการขับขี่ที่นุ่มนวลและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น และเพิ่มระยะเวลาเฉลี่ยที่เจ้าของรถต้องใช้ในโหมดแฮนด์ฟรี เจ้าของรถรุ่น Expedition จะได้รับประสบการณ์การใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ เช่น Lane Change Assist ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนเลนได้โดยไม่ต้องใช้มือเพียงแค่แตะสัญญาณไฟเลี้ยวเมื่อเส้นทางโล่ง และ In-Lane Repositioning ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่โดยเปลี่ยนเลนอย่างนุ่มนวลจากรถยนต์ในเลนข้างเคียง
• ลูกค้าใหม่ของ Expedition ที่ใช้รถยนต์ที่ติดตั้ง BlueCruise จะมีตัวเลือกในการเข้าถึง BlueCruise มากขึ้นด้วยตัวเลือกการซื้อแบบ 1 ปีและครั้งเดียว7 ^โดยขึ้นอยู่กับรุ่นรถยนต์ เจ้าของรถจะมีสิทธิ์เข้าถึง 1 ปีเป็นมาตรฐานหรือเป็นตัวเลือกเมื่อสั่งซื้อรถยนต์ เมื่อสั่งซื้อรถยนต์ ลูกค้าสามารถเลือกอัปเกรดเป็นการซื้อครั้งเดียวได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเปิดใช้งาน BlueCruise อีกครั้งในรถยนต์ของตน
• หากลูกค้าเลือกที่จะไม่เปิดใช้งาน BlueCruise ลูกค้าจะได้สัมผัสประสบการณ์ขับขี่บนทางหลวงแบบแฮนด์ฟรีพร้อมทดลองใช้ฟรี 90 วัน เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาทดลองใช้ ลูกค้าจะมีความยืดหยุ่นในการเปิดใช้งานเป็นรายปีหรือรายเดือน ตามความต้องการของตนเอง ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่ทราบว่าจะต้องอยู่บนท้องถนน เช่น ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวกีฬา เพื่อให้พวกเขาสามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ได้เมื่อจำเป็นที่สุด

Ford Expedition Tremor ใหม่ล่าสุดเป็น Expedition ที่มีความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดสูงสุดพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ แผงป้องกันใต้ท้องรถ ยางทุกสภาพพื้นผิวขนาด 33 นิ้ว ระยะห่างจากพื้นที่ดีที่สุดในกลุ่ม เฟืองท้ายแบบล็อกอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีออฟโรดขั้นสูง

• ประตูท้ายรถกระบะ ประตูสามในสี่ส่วนยกขึ้นเหมือนประตูท้ายรถทั่วไป ในขณะที่ส่วนล่างพับลงได้เหมือนประตูท้ายรถบรรทุก
• ฝาท้ายรถมีกำลังพอที่จะรับน้ำหนักได้ถึง 226 กก. และยังมีพนักพิงเบาะจาก Cargo Tailgate Manager อีกด้วย พนักพิงเบาะยังสามารถปรับเปลี่ยนฝาท้ายรถให้เป็นโต๊ะเสิร์ฟอาหารได้อีกด้วย และปลั๊กไฟในพื้นที่เก็บสัมภาระก็อยู่ห่างออกไปแค่เอื้อม

2 เครื่องยนต์ให้เลือก

• เครื่องยนต์ EcoBoost ® V6 ขนาด 3.5 ลิตร ให้กำลัง 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตัน-เมตร
• เครื่องยนต์ EcoBoost ขนาด 3.5 ลิตรกำลังสูงที่ให้กำลัง 440 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 691 นิวตัน-เมตร
• พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นพื้นฐาน
• เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีต

Expedition รุ่น Tremor มาพร้อมความสะดวกสบายเช่นเดียวกับรุ่นอื่นๆ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยเพิ่มเกียร์ออฟโรด 8 สปีด เพื่อออกผจญภัยที่สมบุกสมบันยิ่งขึ้น ระยะห่างจากพื้นถึงตัวรถ 10.6 นิ้วนั้นดีกว่ารถรุ่นอื่นๆ ในคลาส Large Traditional Utility และยังมาพร้อมกับยางออลเทอร์เรน General Grabber ขนาด 33 นิ้วอีกด้วย

• ระบบกันสะเทือนที่ปรับแต่งใหม่และระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า บันไดข้างและแผ่นกันกระแทกด้านหน้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Raptor ไฟเสริมสำหรับการขับขี่แบบออฟโรดฝังไว้ด้านหลังกระจังหน้า แผ่นป้องกันใต้ท้องรถสำหรับเพลาหน้า กล่องโอนกำลัง และถังเชื้อเพลิง
• รวมถึงโหมด Rock Crawl และระบบควบคุมเส้นทางที่รวมถึง Trail Turn Assist และ Trail 1-Pedal
• Adrian Aguirre หัวหน้าวิศวกรของ Expedition กล่าวว่า “Tremor ถือเป็นสุดยอดของความสามารถในการพร้อมผจญภัยของ Expedition” “Expedition Tremor มอบความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดและฮาร์ดแวร์ที่ใช้ร่วมกับ F-150 Tremor ร่วมกับครอบครัวใหญ่ของ Expedition และความคล่องตัวในการบรรทุกสัมภาระ”

ความสามารถและเทคโนโลยีการลากจูงรถพ่วง

• Ford Expedition รุ่นใหม่ล่าสุดมาพร้อมกับเทคโนโลยีการลากจูงและการเชื่อมต่อที่ครอบคลุม
• ระบบช่วยต่อพ่วงรถพ่วง Pro Trailer Hitch Assist ^™ช่วยขจัดความหงุดหงิดในการต่อพ่วงรถพ่วง โดยระบบนี้จะใช้กล้องด้านหลังและเรดาร์ที่มุมเพื่อปรับตำแหน่งตัวต่อพ่วงให้ตรงกับตัวต่อพ่วงรถพ่วง ขณะเดียวกันก็ควบคุมความเร็ว การบังคับเลี้ยว และการเบรกของรถบรรทุกเพื่อให้หยุดในตำแหน่งที่เหมาะสม เพียงแค่กดปุ่ม
• หลังจากตั้งค่าสั้นๆ ฟีเจอร์ Pro Trailer Backup Assist ^™จะช่วยให้กล้องติดตามตำแหน่งของรถพ่วงได้ในขณะที่คนขับถอยหลังและนำทางรถพ่วง ซึ่งทำได้โดยหมุนปุ่มไปทางซ้ายหรือขวาตามทิศทางที่รถพ่วงต้องการไป และระบบจะควบคุมพวงมาลัย
• เมื่อติดตั้งอุปกรณ์อย่างเหมาะสม Expedition จะสามารถมอบความสามารถ ใน  การลากจูงสูงสุด 3,175 กก.โดยไม่ต้องใช้แถบปรับระดับน้ำหนัก⁹และความสามารถในการลากจูงสูงสุด 4,354 กก. ด้วยตัวเชื่อมต่อแบบกระจายน้ำหนัก

ภายในห้องโดยสารรองรับ 8 ที่นั่ง จอแสดงผลแบบดิจิทัลพาโนรามาขนาด 24 นิ้วใหม่ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ง่ายดาย และ Apple CarPlay ®และ Android Auto™ แบบไร้สาย  Wi-Fi ®แอป Google Play และ Google Maps จนถึงฟีเจอร์ต่างๆ เช่น Flex Powered Console และเบาะนั่งแถวที่สามแบบพับได้ 40/20/40 ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษ

• ประตูแยกใหม่ของ Ford สร้างพื้นที่พักผ่อนพร้อมระบบจัดการสัมภาระที่ปรับเปลี่ยนได้ ซึ่งเปลี่ยนพื้นที่ด้านหลังให้กลายเป็นโต๊ะหรือที่นั่งแบบสนามกีฬา คอนโซลกลางด้านหน้าแบบเลื่อนได้ช่วยให้เข้าถึงพื้นที่เก็บของได้ง่ายสำหรับแถวหน้าและแถวที่สอง

ขนาดตัวถัง Ford Expedition 

• ยาว 5,197 มม.
• กว้าง 1,996 มม.
• สูง 1,941 มม.
• ระยะฐานล้อ 3,025 มม.