FORD Explorer SUV ไฟฟ้าใหม่ ดำเนินการผลิตอย่างเป็นทางการ ในยุโรป
วันนี้ ฟอร์ดเริ่มการผลิต Ford Explorer SUV ไฟฟ้าใหม่ ที่จำหน่ายในจำนวนมาก ในโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) แห่งแรกในยุโรป ภายหลังจากการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเปลี่ยนโรงงานแห่งประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งให้กลายเป็นโรงงานแห่งอนาคต
Ford Explorer เป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกที่เปิดตัวที่ศูนย์ยานยนต์ไฟฟ้า Ford Cologne ซึ่งเป็นก้าวสำคัญบนเส้นทางสู่การผลิตรถยนต์โดยสารไฟฟ้าคุณภาพสูงรุ่นใหม่สำหรับภูมิภาค EV ตัวที่สองซึ่งเป็นรถครอสโอเวอร์แบบสปอร์ตใหม่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ โดยจะเริ่มการผลิตในเมืองโคโลญจน์ในปลายปีนี้
Explorer ที่เป็นไฟฟ้าทั้งหมดใหม่ผสมผสานวิศวกรรมเยอรมัน ทัศนคติแบบอเมริกัน และข้อกำหนดมาตรฐานที่เหนือกว่า ซึ่งรวมถึงระบบส่งกำลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่สำหรับการปล่อยมลพิษจากท่อไอเสียเป็นศูนย์ขณะขับขี่ และระยะการขับขี่มากกว่า 600 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
“การที่โรงงานในเมืองโคโลญจน์ซึ่งก่อตั้งโดยฟอร์ดในปี 1930 ถูกเปลี่ยนให้เป็นโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ล้ำสมัยนั้นไม่ใช่เรื่องน่าอัศจรรย์เลย การเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมากด้วย Explorer รุ่นไฟฟ้าทั้งหมด ถือเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของ Ford ในยุโรป” Kieran Cahill รองประธานฝ่ายการผลิต Ford ในยุโรปและ International Markets Group กล่าว
โคโลญจน์ เยอรมนี 21 มีนาคม 2023 Ford และ Volkswagen ร่วมกันเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โฉมใหม่ล่าสุดนามว่า Ford Explorer EV พัฒนาบนสถาปัตยกรรม Modular electric drive matrix (MEB) ของ VW โดยทำตลาดในยุโรป
- มีให้เลือกสองรุ่น – Explorer และ Explorer Premium – Explorer ใหม่ที่ใช้ไฟฟ้าล้วนสามารถสั่งซื้อได้ภายในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีราคาต่ำกว่า €45,000 หรือประมาณ 1.66 ล้านบาท พร้อมระบบส่งกำลัง RWD และ AWD เปิดจองแล้วที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของฟอร์ดทั่วยุโรป
Ford Explorer EV ใหม่ได้รับการออกแบบที่โด่ดเด่น ด้วยกระจังหน้าแบบปิด ภายนอกมีกลิ่นอายของ VW ID.4 ค่อนข้างมาก ไฟหน้าแบบ LED รูปตัว L โลโก้แบรนด์ Ford มีการเพิ่มขอบสีเงินรูปตัวยูที่ส่วนล่างของรถ กาบข้างสีดำ กรอบหน้าต่างสีดำ ความแตกต่างคือเสา C เพิ่มองค์ประกอบตกแต่งเฉพาะตัว ไฟท้ายรูปตัว C แบบ LED ล้ออัลลอยลายพิเศษขนาด 19 / 20 / 21 นิ้วตามเกรดรุ่น
- ความยาวที่ต่ำกว่า 177.1 นิ้ว (4.5 เมตร) Explorer EV จึงสั้นกว่า Volkswagen ID.4 เล็กน้อย
- มีสีตัวถังใหม่ ได้แก่ Arctic Blue และ Vibrant Blue My Mind พร้อม 3 สีเก่าอย่าง Frozen White, Magnetic grey, Agate Black และ Lucid Red
ภายในห้องโดยสาร สัมผัสถึงเทคโนโลยีมากมาย หน้าจอสัมผัสแนวตั้งปรับมุมได้ 3 มุม ขนาด 14.6 นิ้ว SYNC Move รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย หน้าจอหน้าปัดดิจิตอลแบบลอยตัวขนาด 5 นิ้ว คอนโซลหน้าฝัง Sound Bar แบบแนบเนียน พวงมาลัย 3 ก้านท้ายตัดทรงสปอร์ต
- ภายในห้องโดยสารจุได้ 5 คน 2 แถว
- เบาะนั่งคู่หน้าพร้อมระบบอุ่น
- พื้นที่เก็บของประมาณ 470 ลิตร พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถสามารถขยายได้ถึง 1,400 ลิตร
- คอนโซลขนาด 17 ลิตรระหว่างคนขับและผู้โดยสารเบาะหน้าสามารถใส่แล็ปท็อปขนาด 15 นิ้วได้
- ระบบควบคุมสภาพอากาศแบบดูอัลโซน
- ระบบควบคุมสภาพอากาศที่ให้ผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้าสามารถเลือกอุณหภูมิได้เอง
- ไฟบรรยากาศภายในห้องโดยสารเปลี่ยนได้ 10 สี
- แท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย
- ด้านหลังมีที่วางแก้วน้ำและที่วางแขน
- ประตูท้ายไฟฟ้า
ข้อมูลข่าวของ Ford มีรายละเอียดทางเทคนิคค่อนข้างน้อยอย่างน่าผิดหวัง และไม่ได้ระบุว่าระบบส่งกำลังและแบตเตอรี่ขนาดเท่าไหร่ แต่คาดเดาว่า จะหยิบมาจาก ID.4 เริ่มต้นที่แบตเตอรี่ 52kWh มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว 146 แรงม้า วิ่งได้ 359 กม./ชาร์จ WLTP ในรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลัง 262 แรงม้า ถึง 299 แรงม้า แบตเตอรี่ 77kWh สามารถวิ่งได้ 496 กม./ชาร์จ WLTP เป็นต้น
- Ford ไม่ได้กล่าวถึงอัตราการชาร์จ แต่ระบุว่า Explorer สามารถชาร์จได้ตั้งแต่ 10 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ใน 25 นาทีรองรับการชาร์จขนาด 17kW
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง ได้แก่ เป็นครั้งแรกในฟอร์ดในยุโรป ADAS ได้แก่ ระบบควบคุมความเร็วคงที่อัจฉริยะพร้อมฟังก์ชัน Stop & Go, ระบบช่วยก่อนการชน, ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเข้าโค้งพร้อมระบบเบรกแบบแอ็คทีฟ, ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ 2.0 และอื่นๆ
Assisted Lane Change สำหรับการเปลี่ยนเลนอย่างราบรื่นและปลอดภัยเพียงแค่กดก้านไฟเลี้ยว และ Clear Exit Assist ที่ช่วยเตือนเมื่อเข้าใกล้นักปั่นจักรยานก่อนที่จะเปิดประตูในที่ที่มีคนพลุกพล่าน ใจกลางเมือง
ครอสโอเวอร์ไฟฟ้ายังติดตั้งเซ็นเซอร์อัลตราโซนิก 12 ตัว กล้อง 5 ตัว เรดาร์ 3 ตัว ที่ร่วมกันตรวจสอบได้ 360 องศารอบตัวรถ เพื่อเปิดใช้งานระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่หลากหลาย
