ฟอร์ด กำลังให้ความสนใจแบตเตอรี่ LFP ในรถยนต์ สมรรถนะสูงอย่าง Ford Mustang Mach-E และ Ford F-150 Lightning
ฟอร์ดอาจแนะนำรถยนต์ไฟฟ้าที่ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) นอกเหนือจากแบตเตอรี่ NCM ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ข้อความดังกล่าวบอกใบ้โดย CEO ของฟอร์ด Jim Farley ระหว่างช่วงถาม & ตอบ ผ่าน Electrek
- Lithium Iron Phosphate Battery: LiFePO4 Battery หรือแบตเตอรี่ LFP เป็นแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออน Lithium-Ion Battery รูปแบบ Solid State Battery ชนิดหนึ่งที่ใช้ลิเธี่ยมเหล็กฟอสเฟต LiFePO4 เป็นวัสดุแคโทด Cathode Material และอิเล็กโทรดคาร์บอนกราไฟท์ที่ใช้โลหะหนุน Graphitic Carbon Electrode with a Metallic Backing เป็นแอโนด Anode .
- ความหนาแน่นของพลังงาน Energy Density ของ LFP Battery นั้นต่ำกว่าแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนทั่วไปประเภทอื่น ๆ
- มีแรงดันไฟฟ้าในการทำงานที่ต่ำกว่า Lower Operating Voltage
- แต่มีต้นทุนในการผลิตที่ต่ำ อายุการใช้งานนาน และไปราศจากแร่โคบอลต์ Cobalt-Free และ นิกเกิล Nickel
- ต้นทุนต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงของแบตเตอรี่ LFP นั้นน้อยกว่า NMC อยู่ประมาณ 6%
- คาดการณ์ว่า เซลล์ Lithium Ferrophosphate : LFP จะมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นประมาณ 67% ด้วยรอบการชาร์จ และคายประจุที่มากขึ้น
“ใช่ เราได้ทำงานเกี่ยวกับแบตเตอรี่ LFP มาระยะหนึ่งแล้ว สิ่งที่ฉันหมายถึงคือ โซลูชันด้านวิศวกรรม LFP ที่ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้ารุ่นแรกของเรา มีโอกาศจะได้ติดตั้งแบตเตอรี่นี้ “
Farley ดูเหมือนจะพูดว่า Ford วางแผนที่จะสร้างรถ Mustang Mach-E และ F-150 Lightning ที่มีเซลล์แบตเตอรี่ LFP ฟอร์ดมีแผนสำคัญที่จะเพิ่มการผลิต EV โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ F-150 Lightning ซึ่งมีแผนจะเพิ่มเป็น 150,000 คัน ในปีหน้า
ดูเหมือนว่า Ford จะคุ้นเคยกับแบตเตอรี่ LFP อยู่แล้ว และอาจดำเนินการติดตั้งแบตเตอรี่ LFP คุณภาพสูงในรถยนต์ สมรรถนะสูงอย่าง Ford Mustang Mach-E, Ford E-Transit และ Ford F-150 Lightning
เนื่องจากความหนาแน่นของพลังงานที่ต่ำกว่า ของเซลล์ LFP จะถูกนำมาใช้ในรุ่นเริ่มต้น ที่มีระยะการขับขี่ต่ำ แต่ใครจะไปรู้บางทีเราอาจเห็นแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง LFP ของฟอร์ด ในรถยนต์สมรรถนะสูง
ประโยชน์ที่สำคัญของแบตเตอรี่ LFP มันราคาไม่แพง และ อาจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า เพราะ ไม่มีโคบอลต์และนิกเกิล และ การใช้งานค่อนข้างนานกว่า
ปัจจุบัน บทบาทของ LFP กำลังเปลี่ยนไป เทสลาได้ย้ายไปใช้ LFP เป็นจำนวนมากแล้ว และเกือบครึ่งหนึ่งของรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในไตรมาส 1 ปี 2565 ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ LFP
ผู้ผลิต EV หลายรายยังเพิ่มตัวเลือก LFP รวมถึง Rivian (ซึ่ง Ford เป็นเจ้าของบางส่วน) ประกาศติดตั้งชุดแบตเตอรี่ LFP สำหรับกระบะไฟฟ้า R1T และ SUV ไฟฟ้า R1S SUV รวมถึงรถตู้ EDV
CATL กำลังลงทุนสร้างโรงงานในเม็กซิโก (CATL เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ LFP รายใหญ่ที่สุดในโลก แม้ว่าจะผลิตแบตเตอรี่ประเภทอื่นด้วย) ซึ่ง Ford ผลิตรถยนต์รุ่น Mach-E ในเม็กซิโก อีกโครงการหนึ่งคือโครงการ Gotion High-Tech ในสหรัฐอเมริกา (ข้อตกลงกับผู้ผลิตซึ่งยังไม่เปิดเผย เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่ LFP อย่างน้อย 200 GWh ระหว่างปี 2566-2571)