เปิดราคา 1.51 ล้านบาท FORD RANGER PHEV ปลั๊กอินไฮบริด วิ่งไฟฟ้า 48 กม. แบต 11.8kWh ในออสเตรเลีย

เปิดราคา 1.51 ล้านบาท FORD RANGER PHEV ปลั๊กอินไฮบริด วิ่งไฟฟ้า 48 กม. แบต 11.8kWh ในออสเตรเลีย
Spread the love

Advertisement

Advertisement

Ford เผยราคาพร้อมสเปค Ranger PHEV เริ่มต้นที่ 71,990 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เปิดตัวกลางปี 2025

Ford ได้ประกาศราคาและสเปครถกระบะไฮบริดเสียบปลั๊ก (PHEV) รุ่น Ranger PHEV โดยจะเริ่มต้นที่ 71,990 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เมื่อเปิดตัวในออสเตรเลียช่วงกลางปี 2025

คู่แข่งสำคัญอย่าง BYD Shark อาจสร้างแรงกดดันให้กับ Ranger PHEV ซึ่งจะมีให้เลือก 4 รุ่น ได้แก่

  • รุ่น XLT (เริ่มต้นที่ 71,990 ดอลลาร์) หรือ 1.51 ล้านบาท
  • รุ่น Sport (75,990 ดอลลาร์) หรือ 1.60 ล้านบาท
  • รุ่น Wildtrak (79,990 ดอลลาร์) หรือ 1.68 ล้านบาท
  • รุ่นพิเศษเปิดตัว Stormtrak (86,990 ดอลลาร์) หรือ 1.83 ล้านบาท

เมื่อเทียบกับรุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายในของ Ranger รุ่น PHEV มีราคาสูงกว่ามาก
ตัวอย่างเช่น รุ่น XLT เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 63,640 ดอลลาร์ หรือ 1.34 ล้านบาท
ส่วนรุ่น XLT เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร อยู่ที่ 68,840 ดอลลาร์ หรือ 1.45 ล้านบาท 
ในขณะที่รุ่น Sport 2.0 ลิตร ราคา 66,140 ดอลลาร์ หรือ 1.39 ล้านบาท และ 3.0 ลิตร อยู่ที่ 71,340 ดอลลาร์ หรือ 1.50 ล้านบาท
รุ่น Wildtrak 2.0 ลิตร ราคา 69,640 ดอลลาร์ หรือ 1.46 ล้านบาท และ 3.0 ลิตร อยู่ที่ 74,840 ดอลลาร์ หรือ 1.57 ล้านบาท

เมื่อเปรียบเทียบกับ BYD Shark ที่มีราคาเริ่มต้นเพียง 57,900 ดอลลาร์ หรือ 1.22 ล้านบาท ทำให้ Ford อาจต้องใช้ ความแข็งแกร่งของแบรนด์ Ranger เป็นจุดขายสำคัญเพื่อดึงดูดลูกค้า

Ford ออสเตรเลียมั่นใจ Ranger PHEV ตอบโจทย์ลูกค้า

แอนดรูว์ เบอร์กิค (Andrew Birkic) ประธานและซีอีโอของ Ford ออสเตรเลียกล่าวว่า

“การเพิ่มรุ่น PHEV ในตระกูล Ranger ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่รถกระบะขายดีที่สุดของออสเตรเลียมีตัวเลือกขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริด”

“ทีมวิศวกรรมและออกแบบของออสเตรเลียได้พัฒนารถกระบะไฮบริดที่ช่วยให้ลูกค้ากลุ่มที่ใช้ดีเซลสามารถเริ่มต้นเส้นทางสู่ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าได้ โดยไม่ต้องเสียสละสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับการใช้งานทั้งงานและการเดินทาง”

ข้อมูลทางเทคนิคของ Ford Ranger PHEV

Ranger PHEV มาพร้อมเครื่องยนต์ เบนซิน EcoBoost 2.3 ลิตร เทอร์โบ 4 สูบ

  • กำลัง 187 แรงม้า
  • แรงบิด 411 นิวตันเมตร
  • เสริมด้วย มอเตอร์ไฟฟ้า 101 แรงม้า
  • ให้กำลังรวมทั้งหมด 281 แรงม้า แรงบิด 697 นิวตัน-เมตร
  • แบตเตอรี่ 11.8kWh วิ่งไฟฟ้า 48 กม.
  • เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดแบบ Modular Hybrid Transmission (MHT)
  • โหมดขับเคลื่อน EV และเบรกแบบรีเจนเนอเรทีฟ
  • Ranger PHEV ใช้ระบบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) แบบเต็มเวลา และมี ดิฟล็อกหลัง เช่นเดียวกับ Ranger รุ่นปกติ

ข้อมูลการใช้น้ำมันและพลังงาน

  • อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวม: 2.7 ลิตร / 100 กม. หรือ 37 กม./ลิตร
  • การใช้พลังงานไฟฟ้า: 187Wh / กม.
  • การปล่อย CO2: 66 กรัม / กม.
  • ความจุถังน้ำมัน: 70 ลิตร

โหมดการขับขี่ไฟฟ้า 4 แบบ

  1. Auto EV – สลับการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และแบตเตอรี่โดยอัตโนมัติ
  2. EV Now – ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว
  3. EV Later – ใช้เครื่องยนต์เป็นหลักเพื่อประหยัดพลังงานแบตเตอรี่
  4. EV Charge – ใช้เครื่องยนต์เพื่อปั่นไฟชาร์จแบตเตอรี่

ข้อเสียเปรียบสำคัญ คือระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนของ Ranger PHEV ทำได้เพียง 48 กม.
ขณะที่ BYD Shark สามารถวิ่งได้สูงสุดถึง 100 กม.

สมรรถนะการบรรทุกและลากจูง

แม้ระยะทางไฟฟ้าจะด้อยกว่า แต่ Ranger PHEV มาพร้อม พละกำลังและความสามารถในการลากจูงที่เหนือกว่า

  • Ranger PHEV รองรับ น้ำหนักลากจูง 3,500 กก.
  • BYD Shark รองรับเพียง 2,500 กก.
  • ความสามารถในการบรรทุก:
    • XLT973 กก.
    • Sport934 กก.
    • Wildtrak885 กก.
    • Stormtrak808 กก.

ขนาดของกระบะ มากกว่า 1,600 มม. และสามารถบรรทุกพาเลทยุโรปได้ 2 พาเลท

ฟีเจอร์ใหม่ของ Ranger PHEV

  • ระบบปลดล็อกฝาถังน้ำมันแบบอิเล็กทรอนิกส์
  • ประตูฝั่งผู้โดยสารแบบผลัก/ดึง
  • ล้อและยางดีไซน์ใหม่
  • ระบบเตือนเสียงรถยนต์ไฟฟ้า (Acoustic Vehicle Alert)
  • ระบบปรับอากาศและทำความร้อนแบบไฟฟ้าแรงสูง

สเปคอุปกรณ์ในแต่ละรุ่น

Ranger PHEV XLT

  • ไฟหน้าและไฟส่องสว่างกลางวันแบบฮาโลเจน
  • ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control)
  • ระบบเบรกอัตโนมัติ (AEB)
  • กล้องมองหลัง
  • หน้าจอสัมผัสแนวตั้งขนาด 12 นิ้ว
  • รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย

Ranger PHEV Sport (เพิ่มเติมจาก XLT)

  • ไฟหน้า LED
  • ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
  • ที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย
  • เบาะหุ้มหนัง (ยกเว้นเบาะกลางแถวหลัง)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ

Ranger PHEV Wildtrak (เพิ่มเติมจาก Sport)

  • ไฟหน้า Matrix LED พร้อมระบบปรับระดับอัตโนมัติ
  • ล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษขนาด 18 นิ้ว
  • เบาะคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • ระบบเสียง B&O 10 ลำโพง

Ranger PHEV Stormtrak (เพิ่มเติมจาก Wildtrak)

  • สีตัวถังพิเศษ Chill Grey และ Agate Black
  • ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางอะไหล่ขนาดเต็ม
  • ระบบ Flexible Rack
  • สวิตช์ AUX ภายในห้องโดยสาร

 

 

 

Carexpert/ whichcar

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้