รวมข้อมูลล่าสุด FORD RANGER Raptor ใหม่

Spread the love

เครดิต Carexpert

FORD RANGER RAPTOR ซึ่งพัฒนาโดย Ford Performance เป็นรุ่นเรือธงของปิ๊กอัพขนาดกลาง ผสานสมรรถนะ การขับขี่แบบออฟโรตอย่างลงตัว ความสามารถในการลากจูง 2,500 กก. ลุยน่ำลึก 800 มม. (ในความเร็ว 7 กม./ชม.)

การออกแบบภายนอก

อักษระ ‘F-O-R-D’ ขนาดใหญ่บริเวณกระจังหน้า
ไฟหน้า Matrix LED พร้อม LED DTRLs
บังโคลนหน้า (เหล็กหนา 2.3 มม.)
ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED
ตะขอลากจูงคู่
กันชนหลังพร้อมแป้นเหยียบ และ แถบพ่วงในตัว
ไฟท้าย LED
ตะขอเกี่ยวหลัง
ซุ้มล้อสีเทาขยายเพิ่มขึ้น
ช่องระบายอากาศบังโคลนสีเทา
อักษร FORD ฝาครอบดุมล้อ
บันไดข้างอะลูมิเนียม
ล้ออัลลอยใหม่ขนาด 17 นิ้ว มาพร้อมยางออลเทอร์เรน BFGoodrich® KO2®

ภายในห้องโดยสาร

หน้าจอสัมผัสแนวตั้งแนวตั้งขนาด 12 นิ้ว พร้อม SYNC®4A6 Wireless Apple CarPlay™ และ Android Auto™7
แผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 12.4 นิ้ว
ระบบเสียงรอบทิศทาง Bang & Olufsen ลำโพง 8 ตำแหน่ง
พวงมาลัย แบบ Magnesium แป้น Paddle Shift เคลือบแมกนีเซีย
แป้นเปลี่ยนเกียร์
เบาะนั่งแบบสปอร์ต Bolster Seat ปักโลโก้ “Raptor” เดินด้ายสีส้มสปอร์ต
กล้อง 360 องศา
เกียร์แบบ Electronic Shifter (e-Shifter)
แท่นชาร์จไร้สาย

2 ขุมพลัง ให้เลือกได้แก่

เบนซินเทอร์โบ V6 397 แรงม้า EcoBoost

ติดตั้งเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร Twin Turbo Ecoboost 397 แรงม้า 583 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ SelectShift ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD Full-Time ระบบ Differential Lock 4 ล้อ

ดีเซล 2.0 EcoBlue Bi-Turbo

เครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue TDCi 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี. พ่วงเทอร์โบคู่ (ทำงานร่วมกันระหว่าง High-Pressure (HP Turbo) เทอร์โบแรงดันสูง และ Low-Pressure (LP Turbo) เทอร์โบแรงดันต่ำ ควบคุมด้วยวาล์ว Bypass) กำลังสูงสุด 213 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-Time 4WD

โฆษกของ Ford กล่าวกับ Carscoops ว่า FORD RANGER RAPTOR ใหม่ พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน V6 EcoBoost มีประสิทธิภาพมากกว่าดีเซลปัจจุบันประมาณ 30%
ระบบเกียร์ไฟฟ้าใหม่ที่ปรับได้ 2 ระดับ และยังมาพร้อมระบบควบคุมเฟืองท้ายคู่หน้าและหลัง แบบ locking differentials

ปรับเสียงได้ 4 โหมด

Quiet Mode โหมดเงียบ
Normal Mode โหมดปกติ
Sport Mode โหมดสปอร์ต
Baja Mode เสมือนระบบต่อตรง

7 โหมดการขับขี่

Normal โหมดการขับขี่แบบปกติ
Sport ขับขี่แบบสปอร์ต
Slippery โหมดทางลื่น
Mud/Ruts โหมดขับขี่ในโคลน/ร่อง
Sand ขับขี่ในทราย
Baja2 โหมดขับขี่ออฟโรตด้วยความเร็วสูง (มีไว้สำหรับการใช้งานแบบออฟโรดเท่านั้น)
Rock Crawl โหมดขับขี่บนหิน

ภายนอก มาพร้อมการออกแบบกระจังหน้าใหม่ ไฟหน้า LED matrix เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ไฟท้ายแบบ LED ไฟเลี้ยวแบบ Dynamic Light ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว ยาง All-Terrain BF Goodrich KO2 ขนาด 32 นิ้ว บันไดข้างทำจากอะลูมิเนียม ปรับปรุงด้วยแผ่นกันกระแทกด้านหน้าที่ใหญ่ขึ้นซึ่งทำจากเหล็กความแข็งแรงสูงหนา 2.3 นิ้ว พร้อมแผงป้องกันพิเศษสำหรับเครื่องยนต์

ช็อคอัพ FOX แบบ Live Valve Internal Bypass ขนาด 2.5 นิ้ว ปรับได้แบบ Real-time ซึ่งลดแรงเสียดทานลง 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า พัฒนาโดย Ford Performance

ระบบป้องกันการหดตัวค้าง (Bottom-Out Control) ของ FOX ช่วยสร้างแรงหน่วงสูงสุด 25% สุดท้ายของการหดตัว ป้องกันไม่ให้โช้คค้าง และช่วยชะลอการหดตัวของโช้คหลัง เพื่อไม่ให้โช้คกระแทกแรงเกินไปขณะเร่งความเร็ว

นอกจากนี้ยังได้รับระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบ Trail Control ซึ่งทำงานด้วยความเร็วสูงสุด 32 กม./ชม.

Ford จะเริ่มส่งมอบ Ranger Raptor ใหม่ ให้กับลูกค้าในยุโรปช่วงปลายฤดูร้อน โดยจะเริ่มส่งมอบดีเซลในปีหน้า สำหรับโมเดลอเมริกาเหนือ Jim Farley ซีอีโอของ Ford เปิดเผยใน Twitter ว่า Raptor จะเปิดตัวพร้อมกับ Ranger รุ่นใหม่ในปี 2023

รายงานล่าสุดระบุว่าการผลิตรถบรรทุกมาตรฐานที่โรงงานมิชิแกนจะเริ่มในเดือนพฤษภาคม 2566 สำหรับบ้านเราคงต้องรอยาวๆปีหน้า

8 สีตัวถัง RANGER RAPTOR

8 สีตัวถัง FORD RANGER Raptor

Absolute Black
Arctic White
Aluminium Metallic
Meteor Grey
Conquer Grey
Sedona Orange
Blue Lightning
Code Orange

Carexpert

The #NextGenRangerRaptor is here. Developed by @FordPerformance for pickup enthusiasts around the world. https://t.co/rEq3plBngf
Ranger is a truly global vehicle.
It’s sold in 180+ countries around the world and will be coming to two more starting next year: 🇺🇸 & 🇨🇦 pic.twitter.com/AUjTq7eqA2
— Jim Farley (@jimfarley98) February 22, 2022