รวมภาพ Foxconn เปิดตัวรถใหม่ 3 โมเดล ภายใต้แบรนด์ Foxtron
วันที่ 18 ตุลาคม 2021 ในงาน Hon Hai Technology Day 2021 Foxconn ได้เปิดตัวแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า ภายใต้ชื่อ Foxtron อย่างเป็นทางการ แบรนด์ใหม่นี้สร้างขึ้นโดยบริษัทร่วมทุนที่ก่อตั้งโดย Hon Hai Group และ Yulon Motor
- Foxconn มีชื่อบริษัทว่า Hon Hai Precision Industry Co., Ltd. ใช้ชื่อในตลาดหลักทรัพย์ว่า Foxconn เป็นบริษัทข้ามชาติ ผู้ผลิตและรับผลิตอุปกรณ์อิเลคโทรนิกส์ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Tucheng, New Taipei, ในประเทศไต้หวัน (Taiwan) จัดเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเลคโทรนิกส์ และรวมถึง Circuit boards ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
นอกจากนี้ยังรวมโมเดลต่างๆ เช่น C SUV EV ขนาดกลาง , Model E หรือ ซีดานไฟฟ้าขนาดกลาง – ใหญ่ และ Model T รถโดยสารไฟฟ้า
Model C อยู่ในตำแหน่งที่เป็น SUV ขนาดกลางที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นรุ่นบุกเบิกแรกของแบรนด์ Foxtron เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2023 ตัวถังยาว 4640 มม. ฐานล้อ 2860 มม. ภายในแบ่งที่นั่งแบบ 2+5 รถใหม่สามารถให้กำลัง 402 แรงม้า แรงบิต 700 นิวตัน-เมตร 4WD ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านของรถอยู่ที่ 0.27Cd อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.8 วินาที สามารถวิ่ง 700 กม. /ชาร์จ คาดว่ามีราคาจำหน่าย 1.2 ล้านบาทขึ้นไป
รุ่น E ออกแบบในสไตล์รถสปอร์ต พัฒนาร่วมกับ บริษัทออกแบบอิตาลี Pininfarina เพื่อให้ค่าสัมประสิทธิ์การลากเพียง 0.22Cd ความยาวตัวถัง 5100 มม. ความกว้าง 2000 มม. และระยะฐานล้อ 3100 มม. ภายในของรถใหม่ค่อนข้างหรูหราและใช้การออกแบบหน้าจอคู่ที่ล้ำสมัยมากๆ ภายในจุได้เพียง 3 ที่นั่ง
ติดตั้งมอเตอร์คู่ให้กำลังรวม 737 แรงม้า รุ่นสมรรถนะของรุ่นจะมีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.8 วินาที และจะติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ลิมิเต็ดสลิปและระบบกันสะเทือนแบบแอ็คทีฟ สามารถวิ่งได้ 750 กม./ชาร์จ
Model T เป็นรถบัสไฟฟ้า มีรายงานว่ารถยนต์รุ่นใหม่นี้จะมีซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ช่วยเหลือในการขับขี่ระดับสูง และฟังก์ชันช่วยเหลือการขับขี่ ถูกจำกัดการวิ่ง 120 กม./ชม. สามารถวิ่งได้ 400 กม. /ชาร์จ คาดว่าจะนำไปใช้งานในประเทศในปี 2565
Jack Cheng ซีอีโอของ Foxconn Electric Vehicle unit ได้นำเสนอแพลตฟอร์ม MIH (Made in Hon Hai) โดยมีพันธมิตรกว่า 1,600 รายเข้าร่วม รวมถึงผู้ผลิตยานยนต์ บริษัทซัพพลายเชน และบริษัทซอฟต์แวร์ เช่น Microsoft, Bosh หรือ Nvidia นอกเหนือจากนั้น ผู้ผลิตรถยนต์ที่ร่วมมือกับ Foxconn ได้แก่ Byton, Fisker, Stellantis ก็เข้าร่วมฟังบรรยาย
- MIH Open Platform แพลตฟอร์มแยกส่วน สามารถปรับใช้กับแชสซีส์ของรถยนต์ไฟฟ้าได้หลากหลาย รวมทั้รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ในรูปแบบอื่นๆ
จุดเด่นของ MIH
- มอเตอร์ขนาด 95 kW, 150 kW และ 200 kW สำหรับเพลาหน้า และ 150 kW, 200 kW, 240 kW และ 340 kW สำหรับเพลาหลัง
- ฐานล้อปรับขนาดความยาวระหว่าง 2.75 – 3.10 เมตรได้ แทร็คที่ปรับความกว้างจาก 1.59 เมตร ถึง 1.70 เมตร ส่วนความสูงถึงใต้้ท้องรถ อยู่ที่ 12.6 เซนติเมตร ถึง 21.1 เซนติเมตร
- สามารถเลือกระบบขับเคลื่อนได้หลากหลายทั้ง ล้อหน้า / ล้อหลัง / สี่ล้อ
- รองรับแบตเตอรี่ที่หลากหลายรวมทั้ง Solid State
- ตัวถังใช้ระบบ mega cast ที่ใช้ชิ้นสวนน้อยที่สุด
- รองรับ 5G และ 6G ในอนาคต พร้อมระบบซอฟต์แวร์อัพเดทแบบ OTA และระบบเชื่อมต่อแบบ V2X (vehicle-to-anything)
Jack Cheng อธิบายว่าพวกเขาจะเสนอบริการประเภทต่างๆ ให้กับลูกค้า (B2B) เขาเสนอวิธีแก้ปัญหาสามวิธีและเรียก โดยแบ่งเป็น “100%”, “80%” และ “50%”
ความร่วมมือระดับ 100% หมายความว่า Foxconn จะผลิตรถยนต์ทั้งคัน ซึ่งสตาร์ทอัพ EV สามารถขายภายใต้แบรนด์ของตนได้
ความร่วมมือระดับ 80% หมายความว่า ลูกค้าจะออกแบบเองและให้ Foxconn เป็นผู้ผลิต
ความร่วมมือระดับ 50% หมายถึง Foxconn จะอนุญาต และ ขายแพลตฟอร์ม MIH เพื่อนำไปต่อยอด และพัฒนารถยนต์ของแบรนด์ต้นเอง
Foxconn ยังสัญญาว่าจะเปิดตัวแบตเตอรี่โซลิดสเตตที่ผลิตร่วมกับ CATL (Ningde) และ SES (Massachusetts Solid Energy) ในปี 2567