กรุงเทพฯ คือเมืองหลวงที่รถติดอันดับต้นๆของโลก

กรุงเทพฯ คือเมืองหลวงที่รถติดอันดับต้นๆของโลก

เราคงจะคุ้นเคยกับปัญหาจราจรในกรุงเทพมหานครดี ด้วยปริมาณรถและขนาดของพื้นที่จำกัด ทำให้เกิดปัญหารถติดขัดยิ่งใกล้เลิกงานยิ่งรถติด และหากวันไหนฝนตกน้ำท่วมในบางพื้นที่ (เพราะกรุงเทพเป็นที่ราบลุ่มใกล้แม่น้ำทำให้เกิดน้ำท่วมได้ง่ายในบางพื้นที่) ปัญหารถติดยิ่งทวีคูณเข้าไปจนแถบจะบ้าตาย

โดยสถิติจากเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก กลุ่มสถิติการขนส่ง กองแผนงาน กรมการขนส่งทางบก ระบุ จำนวนรถที่จดทะเบียนสะสม ณ วันที่ 31 มกราคม 2561 มีจำนวนรถที่จดทะเบียนสะสมในกรุงเทพฯ กว่า 9.8 ล้านคัน แบ่งเป็น รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ประมาณ 4.2 ล้านคัน, รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (Van & Pick Up) ประมาณ 1.3 ล้านคัน, รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน (Urban Taxi) 77,867 คัน, รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล มีประมาณ 3.5 ล้านคัน และ รถจักรยานยนต์สาธารณะเกือบ 100,000 คัน พบรถโดยสารทั้งประจำทาง ไม่ประจำทาง และส่วนบุคคล ประมาณ 43,000 คัน และรถบรรทุก มีประมาณ 440,000 คัน เพราะเกือบทุกบ้านมีรถบางหลังมี 2-3 คัน

รายงานประเมินสภาพจราจรทั่วโลก หรือ Global Traffic Scorecard ประจำปี 2017 ของ INRIX ระบุว่า ไทยครองแชมป์ประเทศที่มีสภาพการจราจรติดขัดที่สุดในโลกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันจากการจัดอันดับรวม 38 ประเทศ โดยผู้ขับขี่และผู้โดยสารยานพาหนะในไทยจะเสียเวลาติดอยู่บนท้องถนนในช่วงเวลาเร่งด่วนเฉลี่ยถึง 56 ชั่วโมงในปีที่แล้ว ซึ่งแม้จะลดลงจาก 61 ชั่วโมงในปี 2016 แต่ก็ยังมากพอที่จะรั้งอันดับ 1 ต่อไป

ขณะที่อินโดนีเซีย ประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนของเราตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยเวลาเฉลี่ยกับการติดแหง็กบนถนนในช่วงเร่งด่วน 51 ชั่วโมง ส่วนโคลอมเบียและเวเนซุเอลาอยู่ในอันดับ 3 และ 4 ด้วยเวลาเฉลี่ย 49 และ 42 ชั่วโมงตามลำดับ