Advertisement

Advertisement

Haval First Love คู่แข่งสำคัญของ MG ZS

Haval First Love คู่แข่งสำคัญของ MG ZS
Spread the love

Advertisement

Advertisement

Haval First Love อีกหนึ่งคู่แข่งสำคัญของ MG ZS ซึ่งหากเปิดตัวในไทย ซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างมาก จะสามารถแย่งยอดขายได้อย่างไม่ต้องสงสัย และ ทั้งหมดจะอยู่ที่ราคาหาก HAVAL First LOVE มีราคาไล่เลี่ยกับ ZS รับรองว่าตลาดนี้คงต้องเป็นของ HAVAL

ขนาดตัวถังMG ZSHaval First Love
ยาว (มม.)4,3234,472
กว้าง (มม.)1,8091,841
สูง (มม.)1,6531,619
ฐานล้อ (มม.)2,5852,700

เครื่องยนต์ HAVAL First LOVE เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ 7 จังหวะ หรือเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ

เครื่องยนต์ MG ZS เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว รหัส 15S4C ขนาด 1.5 ลิตร 1,498 cc. DOHC VTi-TECH หัวฉีด Multi point กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อหน้า ความจุถังน้ำมัน 48 ลิตร รองรับน้ำมันสูงสุด E85 ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 Speeds

Haval First Love

การเปิดตัวของ Haval First Love คงต้องรอกันยาวๆ เพราะ รอให้มีการเปิดตัว Haval H6 และ ORA Good Cat  ทั้ง 2 รุ่นจะเปิดตัวพร้อมกันคาดการณ์ไม่น่าเกินเดือนหน้า เพราะมี Motor Show 2021 สุดยิ่งใหญ่รออยู่ แต่สำหรับ Haval First Love ทีมงานคาดว่า น่าจะเปิดตัวช่วงท้ายปี ตุลาคม ถึง พฤศจิกายน มากกว่า

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดตัวแบรนด์ในไทยอย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด
“SAWASDEE THAILAND – Experience Your New xEV World”

ประกาศกลยุทธ์รุกตลาดด้วยแบรนด์ HAVAL และ ORA

พร้อมภารกิจนำเสนอรถยนต์ 9 รุ่นให้คนไทยได้สัมผัสภายใน 3 ปี

  • จัดเต็มนวัตกรรมสุดล้ำในการเปิดตัวแบบไลฟ์สตรีมมิ่ง สวัสดีคนไทยทั้งประเทศ ตอกย้ำ
    ความเป็น “บริษัทที่ให้บริการการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก (Global Mobility Technology Company)”
  • ประกาศ 3 กลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจในเมืองไทย 1) xEV Leader การเป็นผู้นำ
    ด้านรถพลังงานไฟฟ้า 2) Consumer Voice Focus การรับฟังเสียงของผู้บริโภค และ 3) New User Experience การสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า
  • ยืนยันปีนี้มาแน่ 4 รุ่นจาก 2 แบรนด์ ได้แก่  HAVAL และ ORA ส่งทัพหน้ารุ่นยอดนิยมจากเสียง
    คนไทยอย่าง All New HAVAL H6 และ ORA Good Cat รุกตลาดไทย
  • ยกระดับสู่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ด้วย Smart Factory ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย
    กับกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ในงาน Guangzhou Auto Show 2020 ที่เพิ่งเปิดตัว Haval First Love เปิดราคาอย่างเป็นทางการ 89,000 – 115,000 หยวน หรีือประมาณ 410,000 – 530,000 บาท ราคายังไม่รวมภาษีบ้านเรา มีทั้งหมด 5 รุ่นย่อย

Haval First Love SUV ที่พัฒนาบนแพล็ตฟอร์ม “Lemon Platform”

การออกแบบมีความโด่ดเด่นมาก ตัวถังที่สร้างความประทับใจเมื่อมองเห็น ความรู้สึกของ H6 ตะแกรงหน้าออกแบบพิเศษพร้อมโลโก้ HAVAL การออกแบบไฟท้ายของรถควรมีความเฉพาะตัวมากกว่ารูปทรงตัว L

Haval First Love พร้อมการออกแบบระดับพรีเมี่ยม หน้าจอแสดงผลเหนือศีรษะอัจฉริยะ HUD หน้าจอควบคุมส่วนกลางขนาด 12.3 นิ้ว ระบบทำความร้อนเบาะ มาตรวัดดิจิตอล พวงมาลัย 3 ก้านมัลติฟังก์ชั่นทูโทน ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ L2

ขนาดตัวถัง

  • ยาว 4472 มม.
  • กว้าง 1841 มม.
  • สูง 1619 มม.
  • ฐานล้อ 2700 มม.

ในแง่ของกำลังรถใหม่จะติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.5T ของ Great Wall รุ่นที่พัฒนาเอง GW4G15K ที่มีกำลังสูงสุด 150 แรงม้าคาดว่าระบบส่งกำลังจะตรงกับระบบเกียร์คลัตช์คู่ และเป็นที่ยืนยันว่า Haval First Love SUV PHEV จะมาพร้อมขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด 2.0T มอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งยังไม่ได้ระบุกำลังที่ชัดเจน

เกรท วอลล์ มอเตอร์ส เริ่มต้นความตื่นตาตื่นใจด้วยการเผยโฉม Haval  First Love  เป็นครั้งแรกของโลก ซึ่ง Haval First Love คันที่นำมาจัดแสดงในงานมาพร้อมดีไซน์อันโดดเด่น สะดุดตาด้วยสีน้ำเงิน สะท้อนความพรีเมียมที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ซึ่งในครั้งนี้เป็นการเผยโฉม Haval First Love  ให้เห็นดีไซน์ภายนอกของรถ โดยจะมีการจัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการในภายหลัง

Autohome.com.cn

mydrivers.com / Autohome.com.cn / autohome.com.cn/

MG ZS

ภายนอก

ภายใน

MG ZSราคา
รุ่น 1.5 C+689,000 บาท
รุ่น 1.5 D+739,000 บาท
รุ่น 1.5 X+799,000 บาท

สนใจติดต่อ กมลลักษณ์ MG ZS (ออม)เบอร์ 064-2362828​ ID  Line  0804294848

  • ออกรถวันนี้ผ่อนอีก 3 เดือนข้างหน้า
  • ผ่อนดอกเบี้ย 1.89 %
  • ระบบอัจฉริยะ i-SMART เป็นระยะเวลา 5 ปี รับประกันตัวรถ Warranty นาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร, บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) และ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (MG Call Centre) ตลอด 24 ชั่วโมง

เครื่องยนต์เดิมเกียร์ใหม่

  • เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว รหัส 15S4C ขนาด 1.5 ลิตร 1,498 cc. DOHC VTi-TECH หัวฉีด Multi point กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อหน้า ความจุถังน้ำมัน 48 ลิตร รองรับน้ำมันสูงสุด E85 ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 Speeds
  • อัตราทดเกียร์ 2.453 – 0.396
  • อัตราทดเกียร์ถอยหลัง 2.580
  • อัตราทดเฟืองท้าย 5.730
  • ความยาว / กว้าง / สูง (มม.) 4323 * 1809 * 1653
  • ระยะฐานล้อ 2585 มม.
  • ระยะต่ำสุดจากพื้น 170 มม.
  • ความจุถังน้ำมัน 48 ลิตร
  • น้ำหนักตัวถัง 1290 กก.

สิ่งที่น่าสนใจ

  • ปรับปรุงการออกแบบภายนอก – ภายใน
  • ไฟหน้า Projector Lens แบบ LED ดีไซน์ใหม่
  • ไฟท้าย LED ใหม่
  • กันชนหลัง – หน้าใหม่
  • ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ 17 นิ้ว
  • แดชบอร์ดดีไซน์ใหม่ โอบล้อมปรับองศาเข้าหาคนขับ
  • ที่วางแขนตรงกลาง ระหว่างเบาะนั่งคู่หน้า
  • เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง
  • ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 Speeds
  • กล้องมองภาพรอบทิศทาง
  • ชุดมาตรวัด Full Digital 7 นิ้ว
  • หน้าจอสัมผัส 10 นิ้ว
  • Auto Brake Hold
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB
  • ปรับราคาเพิ่มจากรุ่นเดิมรุ่นละ 10,000 บาท

รุ่น C+ 689,000 บาท

ภายนอก

  • ไฟหน้าแบบ LED
  • ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)ไฟตัดหมอกหลัง
  • ไฟท้ายแบบ LED
  • ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
  • กระจกมองข้างพับ และปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว แบบพับอัตโนมัติ
  • ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้า แบบตั้งเวลาหน่วง
  • ระบบปัดน้ำฝนด้านหลัง
  • ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
  • สปอยเลอร์หลัง
  • ที่เปิดฝากระโปรงท้ายสไตล์สปอร์ต
  • ล้ออัลลอยด์ 16 นิ้ว ยาง 215 / 60 R16

ภายใน

  • สีภายใน ดำ
  • วัสดุหุ้มเบาะผ้า
  • ตกแต่งภายในด้วยวัสดุ Soft Touch
  • พวงมาลัยหุ้มหนัง ปรับสูง – ต่ำได้
  • เบาะนั่งคนขับปรับ 6 ทิศทาง
  • เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง
  • ที่พักแขนด้านหน้า
  • เบาะนั่งด้านหลัง พนักพิงพับได้ 60:40
  • พื้นที่เก็บสัมภาระปรับได้ 2 ระดับ
  • กระจกไฟฟ้า One Touch Up – Down ด้านคนขับ
  • กระจกมองหลังตัดแสง
  • ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล
  • ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อม Push Start
  • กรองอากาศ PM2.5
  • ช่องจ่ายไฟ 12V / ระบบกุญแจรีโมท / ไฟส่องแผนที่

เครื่องเสียง

  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์
  • จำนวนลำโพง 4 ตำแหน่ง
  • หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว
  • จำนวนช่องเชื่อมต่อ USB 4 ตำแหน่ง
  • ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ
  • ระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay
  • ระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย สมาร์ทโฟนระบบ Android

ความปลอดภัย

  • ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame)
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
  • ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
  • ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
  • ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
  • ระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control System)
  • ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
  • ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)
  • จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ
  • เข็มขัดนิรภัยแถวหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
  • สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
  • ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
  • ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน

รุ่น 1.5D+ 739,000 บาท เพิ่มเติมจากรุ่น 1.5 C+

ภายนอก

  • ไฟตัดหมอกหน้า
  • ราวหลังคา

ภายใน

  • วัสดุหุ้มเบาะ น้ำตาล และดำ
  • วัสดุหุ้มเบาะ หนังสังเคราะห์
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
  • ช่องเก็บเอกสารด้านหลังเบาะด้านหน้า
  • หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi – Function Display)

ระบบเสียง

  • จำนวนลำโพง 6 ตำแหน่ง
  • จำนวนช่องเชื่อมต่อ USB 5 จุด

SMART CHECK

  • ระบบตรวจสอบสถานะรถยนต์
  • ระบบสั่งการ และระบบค้นหารถ Find My Car
  • ระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์
  • ระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์
  • ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ

SMART COMMAND

  • ระบบสั่งการผ่านเสียงภาษาไทย
  • ระบบการควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน
  • ระบบวางแผนการเดินทาง Travel Plan
  • ระบบโทรออก – รับสายจากจอทัชสกรีน
  • ระบบเลขาส่วนตัว MG Call Centre
  • ระบบโทรอัตโนมัติกรณีฉุกเฉิน Emergency Call

SMART CONNECT

  • ระบบเล่นเพลงออนไลน์แบบสตรีมมิ่ง
  • ระบบนำทาง Navigation พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time
  • ระบบช่วยค้นหาร้านอาหาร และที่พักบนแผนที่นำทาง
  • อัพเกรดระบบผ่านออนไลน์
  • ระบบเรียกดูข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน
  • อัพเดตข้อมูลพยากรณ์อากาศ

ระบบความปลอดภัย

  • ระบบจำกัดความเร็ว ASL (Active Speed Limit)
  • ถุงลมนิรภัยด้านข้าง
  • กล้องมองหลัง

รุ่น 1.5X+ 799,000 บาท เพิ่มเติมจากรุ่น 1.5D+

ภายนอก

  • ระบบควบคุมการ เปิด – ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
  • หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)
  • ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้า แบบอัตโนมัติ
  • ล้ออัลลอยด์ 17 นิ้ววยาง 215 / 55 R17

ภายใน

  • เบาะนั่งคนขับปรับ 6 ทิศทาง ปรับไฟฟ้า

ความปลอดภัย

  • ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
  • ม่านถุงลมนิรภัย
  • กล้องมองภาพรอบทิศทาง

ขอบคุณภาพจาก MG ประเทศไทย

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้