ปล่อยภาพ HAVAL H7 ใหม่ ปลั๊กอินไฮบริด ก่อนการเปิดตัวในจีน

 

การกลับมาของ Haval H7: การพัฒนากลยุทธ์ใหม่ของ GWM ในตลาด SUV

เมื่อไม่นานมานี้ นายจ้าว หย่งโป (Zhao Yongpo) ผู้จัดการทั่วไปของแบรนด์ Haval ในเครือ Great Wall Motor (GWM) ได้เผยภาพอย่างเป็นทางการของ Haval H7 รุ่นใหม่ ซึ่งเป็น SUV ขนาดกลางที่ได้รับการพัฒนาใหม่ (ไม่ใช่รุ่นเดียวกับ Haval H7 ที่วางจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ ซึ่งในตลาดจีนรู้จักกันในชื่อ Haval Second-Generation Big Dog)

รถรุ่นนี้ได้รับการรับรองจากกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) ในเดือนตุลาคม 2024 และมีแนวโน้มว่าอาจเป็นรุ่นปรับปรุงของ Haval Xiaolong Max โดยมีการยืนยันจากนายจ้าวว่ารุ่นนี้จะเป็น “การอัปเกรดครั้งใหญ่” ของ Haval Xiaolong Max ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในปี 2025

ขนาดตัวถัง HAVAL H7

• ความยาว 4,780 มม.
• ความกว้าง 1,895 มม.
• ความสูง 1,725 มม.
• ฐานล้อ 2,810 มม.

ซึ่งใหญ่กว่ารุ่น Haval Xiaolong Max ที่มีความยาว 4,758 มม. และฐานล้อ 2,800 มม. รถรุ่นใหม่นี้มาพร้อมการออกแบบภายในแบบ 5 ที่นั่ง ที่เน้นความกว้างขวางและความสะดวกสบาย

สำหรับ Haval Xiaolong Max ซึ่งเป็นรุ่นที่กำลังวางจำหน่ายในปัจจุบัน มีราคาตั้งแต่ 159,800 ถึง 179,800 หยวน  ขณะที่ราคาของ Haval H7 รุ่นใหม่นั้นยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่ด้วยคุณสมบัติที่ได้รับการปรับปรุง มีความเป็นไปได้ว่าราคาจะสูงขึ้นเล็กน้อย

Haval H7 รุ่นใหม่นี้มาพร้อมเทคโนโลยี Hi4 Plug-in Hybrid ของ GWM ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 1.5L แบบดูดอากาศธรรมดา (รหัสเครื่อง GW4B15H) ให้กำลัง 114 แรงม้า และทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟตขนาด 27.54 kWh ที่สามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน (CLTC) ได้ถึง 126 กม.

เมื่อเปรียบเทียบกับ Haval Xiaolong Max ที่ใช้เครื่องยนต์รุ่นเดียวกัน แต่มีแบตเตอรี่ขนาด 19.27 kWh ซึ่งให้ระยะทางไฟฟ้าล้วน (WLTC) เพียง 83 กม. Haval H7 จึงเป็นตัวเลือกที่มีศักยภาพมากขึ้นในด้านประสิทธิภาพและระยะทาง

Haval H7 เปิดตัวครั้งแรกในเดือน เมษายน 2016 โดยได้รับการวางตำแหน่งให้เป็น SUV แนวออฟโรดที่ดุดัน ซึ่งได้รับความสนใจจากตลาดอย่างมากในช่วงแรก โดยมียอดขายเกือบ 50,000 คันใน 8 เดือนแรกของปี 2016 อย่างไรก็ตาม ยอดขายลดลงอย่างรวดเร็วในปีถัดมาเมื่อ GWM เปิดตัวแบรนด์หรูอย่าง Wey ส่งผลให้ Haval H7 ต้องถอนตัวจากตลาดในปี 2021

การกลับมาของ Haval H7 ครั้งนี้สะท้อนถึงการปรับตัวของ GWM เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับพลังงานทางเลือกและเทคโนโลยีล้ำสมัย