ปรับราคาใหม่ 977,000 – 1,343,000 บาทในสหรัฐฯ HONDA ACCORD เพิ่มรุ่น SE ใหม่ 1.5T และ 2.0 e:HEV
เครดิตภาพ Cars.com
วันที่ 16 กันยายน 2024 สหรัฐอเมริกา HONDA ได้เพิ่มรุ่น New Accord SE เพิ่มการตกแต่งภายนอกสีดำแบบสปอร์ตและคุณสมบัติที่เป็นที่ต้องการมากกว่ารุ่น LX ที่มีอุปกรณ์ครบครัน Accord ทุกคันมาพร้อมช่องระบายอากาศด้านหลังและพอร์ต USB-C เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนรุ่น Sport เพิ่มเบาะนั่งด้านหน้าแบบปรับอุณหภูมิได้และเครื่องชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
Honda Accord ปี 2025 ใหม่ยังมีการปรับราคาจำหน่าย 400 – 700$ หรือประมาณ 13,000 – 23,000 บาท จากปีที่แล้ว ทำให้ช่วงราคาจำหน่าย 1.5T 29,390 – 31,655$ หรือประมาณ 977,000 – 1,053,000 บาท ส่วนรุ่น e:HEV ราคา 34,750 – 40,395$ หรือประมาณ 1,155,000 – 1,343,000 บาท
Accord LX | $29,390 | $28,990 | +$400 |
Accord SE/EX | $31,655 | $31,005 | +$650 |
Accord Sport Hybrid | $34,750 | $33,990 | +$760 |
Accord EX-L Hybrid | $36,035 | $35,635 | +$400 |
Accord Sport-L Hybrid | $36,470 | $35,970 | +$500 |
Accord Touring Hybrid | $40,395 | $39,985 | +$410 |
Honda Accord ปี 2025 เริ่มมาถึงตัวแทนจำหน่าย Honda แล้วในวันนี้ โดยมาพร้อมคุณสมบัติมาตรฐานเพิ่มเติม และรุ่น SE เทอร์โบชาร์จใหม่พร้อมการตกแต่งภายนอกสีดำสปอร์ต และคุณสมบัติมาตรฐานที่เป็นที่ต้องการมากมาย Honda Accord ซึ่งเป็นรถที่ขายดีที่สุดในอเมริกาในช่วงห้าทศวรรษที่ผ่านมา4มีให้เลือก 6 ระดับการตกแต่ง เริ่มต้นด้วย LX และ SE เทอร์โบชาร์จ และรุ่นท็อปคือ Sport, EX-L, Sport-L และ Touring ที่ขับเคลื่อนด้วยไฮบริดและไฟฟ้า
Honda Accord SE ใหม่
- เบนซิน 1.5T
- อยู่ระหว่าง Honda Accord LX และ Honda Accord Sport รุ่นไฮบริดไฟฟ้า
- ล้ออัลลอยสีดำขนาด 17 นิ้ว
- แผงกระจกสีดำ
- กระจกมองข้างสีดำ
- เสาอากาศครีบฉลามสีดำ
- แผงเสา B สีดำเงา
- วัสดุตกแต่งขอบสีดำเปียโนที่หรูหราและโลหะตาข่ายอันโดดเด่นที่ทอดยาวไปทั่วทั้งแผงหน้าปัด
- เบาะนั่งคู่หน้าปรับอุ่นได้
- มูนรูฟเลื่อนไฟฟ้าแบบสัมผัสเดียว
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซน
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทางพร้อมปุ่มปรับดันหลัง
- ระบบเสียง 8 ลำโพง
- ทั้ง Accord LX และ SE มาพร้อมอินเทอร์เฟซข้อมูลผู้ขับขี่ขนาด 10.2 นิ้ว และระบบเสียงหน้าจอสัมผัสสีขนาด 7 นิ้วที่ใช้งานง่าย รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto™
- ปุ่มควบคุมระดับเสียงและจูนเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
All NEW Honda Accord G11 เน้นการออกแบบเรียบหรูมากขึี้น กระจังหน้าออกแบบใหม่ ไฟหน้าใหม่ “Sleek Styling” โฉบเฉี่ยวมากขึ้น ไฟท้ายแบบ LED ลากเชื่อมกันคล้ายๆของ NEW Crown CROSSOVER กระจกหน้าต่างแบบ Six-wondow ที่ถูกลดทอนความโค้งงอลงไป ล้ออัลลอย 17 นิ้วยาง 225/50R17 ล้ออัลลอย 19 นิ้ว ยางขนาด 235/40R19
- Accord จะวางจำหน่ายในสีภายนอกทั้งหมด 8 สี โดยมี 3 สีใหม่ ได้แก่ Meteorite Grey Metallic, Urban Grey Pearl และ Canyon River Blue Metallic
ขนาดตัวถัง
- ความยาว : 4,970 มม.
- ความกว้าง : 1,862 มม.
- ความสูง : 1,450 มม.
- ฐานล้อ : 2,830 มม.
ภายในห้องโดยสารของ Accord ใหม่ มาพร้อมหน้าปัดดิจิตอล 10.2 นิ้ว หน้าจอสัมผัสส่วนกลางขนาด 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย มาพร้อม Google built-in พร้อมแอพ google Assistant, Google Maps, Google Play capability ฯลฯ ลำโพง Bose Premium Audio 12 ตำแหน่ง
- รองรับการอัพเดทผ่าน Over-the-Air
- จอแสดงผลแบบ Head-Up ขนาด 6 นิ้ว
- ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สายขนาด 15 วัตต์
- มีพอร์ต USB Type-C ขนาด 3 แอมป์สองพอร์ตในแถวแรก รุ่น EX-L และ Touring เพิ่มพอร์ต USB-C 3 แอมป์คู่ที่สองสำหรับเบาะหลัง
- เบาะคนขับไฟฟ้า 8 ทิศทาง EX ยังเพิ่มหลังคามูนรูฟ เบาะนั่งด้านหน้าแบบอุ่น และระบบปรับอากาศแบบดูอัลโซน
- เบาะผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
เบนซิน 1.5T
- เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1.5 ลิตร 1,498 ซีซี Direct-injection Turbocharged ให้กำลัง 192 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 242 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 5,000 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ CVT มีโปรแกรม Step-Shift ที่จำลองการเปลี่ยนเกียร์เมื่อเร่งเครื่องเต็มที่
2.0 HEV ไฮบริด
- เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร 1,993 ซีซี Direct-injection Atkinson Cycle + มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวม 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 371 นิวตันเมตร ที่ 0 – 2,000 รอบ/นาที
ระบบช่วงล่าง
- ช่วงล่างหน้า แบบอิสระ MacPherson Strut
- ช่วงล่างหลัง แบบอิสระ Multi-link
Honda Sensing ที่เพิ่มฟังก์ชั่น Traffic Jam Assist (TJA) ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตาด้านข้าง (Blin Spot Information) ระบบจดจำป้ายจราจร (TSR) และระบบช่วยจราจรติดขัดแบบใหม่ (TJA) ระบบ Adaptive Cruise Control และ Lane Keeping Assist ยังได้รับการปรับปรุงเพื่อให้ตอบสนองดีขึ้น
ระบบ Honda SENSING พร้อมกล้อง 2 ตัวทำมุมกว้าง 90 / 120 องศา
- ระบบเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Information (BSI
- ระบบรายงานสภาพการจราจร Traffic Jam Assist (TJA)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบรักษาระยะห่าง Adaptive Cruise Control with Speed Following ทำงานตั้งแต่ความเร็ว 0 กม./ชม.
- ระบบรักษารถให้อยู่ในช่องจราจร Lane Keeping Assist (LKAS)
- ระบบเตือนป้ายจราจร Traffic Sign Recognition (TSR)
- ระบบเบรกอัตโนมัติ Low-Speed Braking Contro
สเปค – ข้อมูล All-NEW HONDA ACCORD
รุ่นเริ่มต้น 1.5T LX ราคา $29,390หรือประมาณ 977,000 บาท
อุปกรณ์พื้นฐาน
- เบนซิน 1.5T เทอร์โบชาร์จ 192 แรงม้า
- ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ CVT
- ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ แมคเฟอร์สันสตรัท
- ระบบกันสะเทือนหลังแบบ มัลติลิงค์
- ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
- ไฟหน้าแบบ Full LED
- เบาะผ้า
- ระบบเสียง 4 ลำโพง 180 วัตต์
- ระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติ
- เบาะหลังพับลงได้
- หน้าจอสัมผัสสีขนาด 7 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay® และ Android Auto™
- Smart Entry พร้อม Walk Away Auto Lock®
- ระบบเสียงสตรีมมิ่ง Bluetooth®*
- พอร์ต USB ด้านหน้า
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ระยะไกล Remote Engine Start
- ระบบเบรกลดการชน™ Collision Mitigation Braking System™
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Road Departure Mitigation System
- กล้องมองหลังแบบหลายมุม Multi-Angle Rearview Camera
- ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้พร้อมระบบติดตามความเร็วต่ำ Adaptive Cruise Control w/ Low-Speed Follow
- ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถพร้อมระบบช่วยการจราจรติดขัด Lane Keeping Assist System w/Traffic Jam Assist
- ระบบจดจำป้ายจราจร Traffic Sign Recognition
1.5T Honda Accord SE ราคา $31,655 หรือประมาณ 1,052,000 บาท
Honda Accord SE ใหม่
- เบนซิน 1.5T
- อยู่ระหว่าง Honda Accord LX และ Honda Accord Sport รุ่นไฮบริดไฟฟ้า
- ล้ออัลลอยสีดำขนาด 17 นิ้ว
- แผงกระจกสีดำ
- กระจกมองข้างสีดำ
- เสาอากาศครีบฉลามสีดำ
- แผงเสา B สีดำเงา
- วัสดุตกแต่งขอบสีดำเปียโนที่หรูหราและโลหะตาข่ายอันโดดเด่นที่ทอดยาวไปทั่วทั้งแผงหน้าปัด
- เบาะนั่งคู่หน้าปรับอุ่นได้
- มูนรูฟเลื่อนไฟฟ้าแบบสัมผัสเดียว
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซน
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทางพร้อมปุ่มปรับดันหลัง
- ระบบเสียง 8 ลำโพง
- ทั้ง Accord LX และ SE มาพร้อมอินเทอร์เฟซข้อมูลผู้ขับขี่ขนาด 10.2 นิ้ว และระบบเสียงหน้าจอสัมผัสสีขนาด 7 นิ้วที่ใช้งานง่าย รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto™
- ปุ่มควบคุมระดับเสียงและจูนเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
2.0 e:HEV Sport HYBIRD ราคา $34,750 หรือประมาณ 1,044,000 บาท
อุปกรณ์พื้นฐาน
- เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ไฮบริด 204 แรงม้า
- ส่งกำลังเกียร์แปรผันต่อเนื่องแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-CVT) พร้อมตัวเลือกการชะลอความเร็ว Deceleration Selectors
- 4 โหมดการขับขี่ Sport, ECON และ Individual Modes
- พวงมาลัยแร็คแอนด์พีเนียน พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้าผ่อนแรงแบบใหม่MA-EPS
- ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท
- ระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงค์
- ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว
- ไฟหน้าแบบ Full LED
- สปอยเลอร์ Decklid สีดำเงา
- เบาะผ้า
- เบาะคนขับปรับไฟฟ้า
- เบาะนั่งด้านหน้าพร้อมระบบอุ่น
- เบาะหลังพับได้แบบ 60/40
- หลังคามูนรูฟไฟฟ้าแบบวันทัช
- ระบบเสียง 8 ลำโพง 180 วัตต์
- ระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติ
- ระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซน
- หน้าจอสัมผัสสีขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay® และ Android Auto™ พร้อม Alexa
- Smart Entry พร้อม Walk Away Auto Lock®
- ระบบเสียงสตรีมมิ่ง Bluetooth®*
- พอร์ต USB ด้านหน้า
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ระยะไกล Remote Engine Start
- ระบบเบรกลดการชน™ Collision Mitigation Braking System™
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Road Departure Mitigation System
- กล้องมองหลังแบบหลายมุม Multi-Angle Rearview Camera
- ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้พร้อมระบบติดตามความเร็วต่ำ Adaptive Cruise Control w/ Low-Speed Follow
- ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถพร้อมระบบช่วยการจราจรติดขัด Lane Keeping Assist System w/Traffic Jam Assist
- ระบบจดจำป้ายจราจร Traffic Sign Recognition
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Information w/Cross Traffic Monitor
2.0 e:HEV EX-L Hybrid $36,035 หรือประมาณ 1,198,000 บาท
อุปกรณ์พื้นฐาน
- เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ไฮบริด 204 แรงม้า
- ส่งกำลังเกียร์แปรผันต่อเนื่องแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-CVT) พร้อมตัวเลือกการชะลอความเร็ว Deceleration Selectors
- 4 โหมดการขับขี่ Sport, ECON และ Individual Modes
- พวงมาลัยแร็คแอนด์พีเนียน พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้าผ่อนแรงแบบใหม่MA-EPS
- ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท
- ระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงค์
- ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
- ไฟหน้าแบบ Full LED
- กระจกมองข้างพร้อมระบบอุ่น
- พวงมาลัยหุ้มหนัง
- เบาะหุ้มหนัง
- เบาะคนขับปรับไฟฟ้า
- เบาะนั่งด้านหน้าพร้อมระบบอุ่น
- เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อม Memory Seat ด้านคนขับ
- เบาะหลังพับได้แบบ 60/40
- หลังคามูนรูฟไฟฟ้าแบบวันทัช
- ระบบเสียง 8 ลำโพง 180 วัตต์
- ระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติ
- ระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซน
- หน้าจอสัมผัสสีขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay® และ Android Auto™ พร้อม Alexa
- Smart Entry พร้อม Walk Away Auto Lock®
- ระบบเสียงสตรีมมิ่ง Bluetooth®*
- พอร์ต USB ด้านหน้า
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ระยะไกล Remote Engine Start
- ระบบเบรกลดการชน™ Collision Mitigation Braking System™
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Road Departure Mitigation System
- กล้องมองหลังแบบหลายมุม Multi-Angle Rearview Camera
- ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้พร้อมระบบติดตามความเร็วต่ำ Adaptive Cruise Control w/ Low-Speed Follow
- ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถพร้อมระบบช่วยการจราจรติดขัด Lane Keeping Assist System w/Traffic Jam Assist
- ระบบจดจำป้ายจราจร Traffic Sign Recognition
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Information w/Cross Traffic Monitor
- เซนเซอร์จอดรถ Parking Sensors
2.0 e:HEV Sport-L Hybrid $36,470 หรือประมาณ 1,212,000 บาท
อุปกรณ์พื้นฐาน
- เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ไฮบริด 204 แรงม้า
- ส่งกำลังเกียร์แปรผันต่อเนื่องแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-CVT) พร้อมตัวเลือกการชะลอความเร็ว Deceleration Selectors
- 4 โหมดการขับขี่ Sport, ECON และ Individual Modes
- พวงมาลัยแร็คแอนด์พีเนียน พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้าผ่อนแรงแบบใหม่MA-EPS
- ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท
- ระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงค์
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
- ไฟหน้าแบบ Full LED
- กระจกมองข้างพร้อมระบบอุ่น
- สปอยเลอร์ Decklid สีดำเงา
- พวงมาลัยหุ้มหนัง
- เบาะหุ้มหนัง
- เบาะคนขับปรับไฟฟ้า
- เบาะนั่งด้านหน้าพร้อมระบบอุ่น
- เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อม Memory Seat ด้านคนขับ
- เบาะหลังพับได้แบบ 60/40
- หลังคามูนรูฟไฟฟ้าแบบวันทัช
- ระบบเสียง 8 ลำโพง 180 วัตต์
- ระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติ
- ระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซน
- หน้าจอสัมผัสสีขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay® และ Android Auto™ พร้อม Alexa
- Smart Entry พร้อม Walk Away Auto Lock®
- ระบบเสียงสตรีมมิ่ง Bluetooth®*
- พอร์ต USB ด้านหน้า
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ระยะไกล Remote Engine Start
- ระบบเบรกลดการชน™ Collision Mitigation Braking System™
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Road Departure Mitigation System
- กล้องมองหลังแบบหลายมุม Multi-Angle Rearview Camera
- ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้พร้อมระบบติดตามความเร็วต่ำ Adaptive Cruise Control w/ Low-Speed Follow
- ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถพร้อมระบบช่วยการจราจรติดขัด Lane Keeping Assist System w/Traffic Jam Assist
- ระบบจดจำป้ายจราจร Traffic Sign Recognition
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Information w/Cross Traffic Monitor
- เซนเซอร์จอดรถ Parking Sensors
2.0 e:HEV Touring Hybrid $40,395 หรือประมาณ 1,343,000 บาท
อุปกรณ์พื้นฐาน
- เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ไฮบริด 204 แรงม้า
- ส่งกำลังเกียร์แปรผันต่อเนื่องแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-CVT) พร้อมตัวเลือกการชะลอความเร็ว Deceleration Selectors
- 4 โหมดการขับขี่ Sport, ECON และ Individual Modes
- พวงมาลัยแร็คแอนด์พีเนียน พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้าผ่อนแรงแบบใหม่MA-EPS
- ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท
- ระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงค์
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
- ไฟหน้าแบบ Full LED
- กระจกมองข้างพร้อมระบบอุ่น
- สปอยเลอร์ Decklid สีดำเงา
- พวงมาลัยหุ้มหนัง
- เบาะหุ้มหนัง
- เบาะคนขับปรับไฟฟ้า
- เบาะนั่งด้านหน้าแบบอุ่นและระบายอากาศ
- เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อม Memory Seat ด้านคนขับ
- เบาะหลังพับได้แบบ 60/40
- หลังคามูนรูฟไฟฟ้าแบบวันทัช
- ระบบเสียง 8 ลำโพง 180 วัตต์
- ระบบเสียงระดับพรีเมียมของ Bose
- ระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติ
- ระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซน
- จอแสดงผลบนกระจก Head-Up Display
- หน้าจอสัมผัสสีขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay® และ Android Auto™ พร้อม Alexa
- เทคโนโลยี Google ในตัว
- Smart Entry พร้อม Walk Away Auto Lock®
- ระบบเสียงสตรีมมิ่ง Bluetooth®*
- พอร์ต USB ด้านหน้า
- ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย Wireless Phone Charger
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ระยะไกล Remote Engine Start
- ระบบเบรกลดการชน™ Collision Mitigation Braking System™
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Road Departure Mitigation System
- กล้องมองหลังแบบหลายมุม Multi-Angle Rearview Camera
- ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้พร้อมระบบติดตามความเร็วต่ำ Adaptive Cruise Control w/ Low-Speed Follow
- ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถพร้อมระบบช่วยการจราจรติดขัด Lane Keeping Assist System w/Traffic Jam Assist
- ระบบจดจำป้ายจราจร Traffic Sign Recognition
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Information w/Cross Traffic Monitor
- เซนเซอร์จอดรถ Parking Sensors
เครดิตภาพ : greencarreports
6 มกราคม 2023 — แมรีสวิลล์ โอไฮโอ สหรัฐอเมริกา HONDA ได้เผยการผลิต HONDA ACCORD เจนเนอเรชั่นที่ 11 ที่โรงงาน Marysville Auto Plant (MAP)
- Honda ครบรอบ 40 ปีการผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ ด้วย All-New 2023 Honda Accord
พนักงานของฮอนด้าที่โรงงาน Marysville Auto (MAP) ในรัฐโอไฮโอ เฉลิมฉลองการเริ่มต้นการผลิตจำนวนมากของฮอนด้า แอคคอร์ดและแอคคอร์ดไฮบริดใหม่ปี 2023 รถยนต์ที่ขายดีสุดในอเมริกาช่วงห้าทศวรรษที่ผ่านมา ACCORD ถูกสร้างขึ้นในโรงงาน Marysville Auto Plant (MAP) กว่า 40 ปีตั้งแต่ปี 1982 ทำให้ Honda เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับสากลรายแรกที่ประสบความสำเร็จในการผลิตรถยนต์ในอเมริกา
“นี่เป็นช่วงเวลาแห่งความภาคภูมิใจสำหรับผู้ร่วมงานของฮอนด้าทุกคน เนื่องจากเราเฉลิมฉลองไม่เพียงแค่ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงประวัติศาสตร์ที่มีเรื่องราวของโรงงานรถยนต์แมรีส์วิลล์ ซึ่งฮอนด้าเริ่มผลิตรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาด้วยป้ายชื่อเดียวกันนี้เมื่อ 40 ปีที่แล้ว” จุนกล่าว Jayaraman หัวหน้าโรงงานที่ MAP “ความสำเร็จด้านการขายที่ยาวนานหลายทศวรรษของแอคคอร์ดบ่งบอกถึงความเป็นผู้นำและจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกของโรงงานในแมรีสวิลล์ ซึ่่งได้มอบผลิตภัณฑ์คุณภาพ ให้ลูกค้าของเราตลอดสี่ทศวรรษที่ผ่านมา”