อัตราสิ้นเปลือง HONDA CITY e:HEV รวม 27.7 กม./ลิตร ราคา 839,000 บาท พร้อมข้อมูล ตารางผ่อนดาวน์
- ปริมาณออกไซต์ของไนโตรเจน (NOx) 0.007 กรัม/กม.
- ปริมาณการปล่อยฝุ่นละออง/มลพิษอนุภาค (PM) 0 กรัม/กม.
- อัตราการปล่อยก๊าซ CO2 85 กรัม/กม.
- อัตราการใช้พลังงานรวม (Combined) 27.7 กม./ลิตร หรือ 100 กม.ต่อ 3.6 ลิตร
- อัตราการใช้พลังงานนอกเมือง (Extra-Urban) 23.2 กม./ลิตร หรือ 100 กม. ต่อ 4.3 ลิตร
- อัตราการใช้พลังงานในเมือง (Urban) 40 กม./ลิตร หรือ 100 กม. ต่อ 2.5 ลิตร
- ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานต่อเดือน 2,142.72 บาท
- มาตรฐาน UN Reg.83
- ผลการทดสอบ Emission Standard EURO 5
ราคา 839,000 บาท
- รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
- พร้อม Ultimate Care เพิ่มอีก 2 ปี 40,000 กิโลเมตร (รวมเป็น 5 ปี 140,000 กิโลเมตร)
- ฟรีค่าแรงเช็คระยะ นาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี
- รุ่น Hybrid รับประกันระบบ Hybrid นาน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
- รุ่น Hybrid รับประกันแบตเตอรี่นาน 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
ขนาดตัวถัง
- ความยาว 4553 มม.
- ความกว้าง 1748 มม.
- ความสูง 1467 มม.
- ฐานล้อ 2589 มม.
- ระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้า / คู่หลัง 1,497 / 1,483 มม.
- ความสูงใต้ท้องรถ 135 มม.
- น้ำหนักรถ 1227 กก.
- ขนาดล้อ 16 X 6J ขนาดยาง 185 / 55 R16
- ความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร
เบนซิน 1.5 e: HEV
- เครื่องยนต์รหัส LEB-MMD เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร 1,498 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 73.0 x 89.5 มิลลิเมตร จุดระเบิดแบบ Atkinson Cycle กำลังสูงสุด 97 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตร พ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กำลังสูงสุด 109 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร
- แบตเตอรี่ ลิเธียม-ไอออน
- รองรับ E20
- อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 9.4 วินาที
- ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT ปล่อย CO2 ที่ 85g./km.
เทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (RDM with LDW)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
เทคโนโลยีด้านการขับขี่
- ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)
- ปุ่ม ECON พร้อมไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด (Eco Indicator)
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)
- ระบบ Auto Brake Hold
- มาตรวัด พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว
ภายนอก
- ไฟหน้า และไฟท้ายแบบ LED
- ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
- ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- ระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติ เมื่อดับเครื่องยนต์
- กันชนหน้า และกระจังหน้าสไตล์สปอร์ตแบบ RS
- สปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black
- ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
- กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว สีดำแบบสปอร์ต ระบบปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลา
- เสาอากาศแบบครีบฉลาม
- ไล่ฝ้ากระจกหน้า-หลัง
- ล้ออัลลอยด์ 16 นิ้ว
ภายใน
- วัสดุหุ้มเบาะ หนังกลับ / ผ้า / วัสดุหนังสังเคราะห์ ตกแต่งด้ายสีแดง
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)
- เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้
- ะบบปรับอากาศอัตโนมัติ
- กุญแจรีโมทพร้อมสวิตช์เปิดฝากระโปรงท้าย
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System)
- ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)
- ช่องปรับอากาศตอนหลัง
- พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง
- ช่องจ่ายไฟสำรอง ด้านหน้า 1 ตำแหน่ง และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
- กระจกมองหลังแบบตัดแสง
- แผงบังแดดพร้อมกระจกแต่งหน้าแบบมีฝาปิด
- ด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า
- ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า
- พนักเท้าแขนด้านหน้า / ด้านหลังพร้อมที่วางแก้ว
- ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร และห้องสัมภาระท้าย
- ราวมือจับ 4
- ระบบเครื่องเสียง
- หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay(2) ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth
- พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
- รองรับการเชื่อมต่อ Smartphone(3)
- รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri(4)
- องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง
- จำนวนลำโพง 8
- ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT
ระบบความปลอดภัย
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
- ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)(5)
- กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ
- สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
- ถุงลมคู่หน้า
- ถุงลมด้านข้างคู่หน้า
- ม่านถุงลมด้านข้าง
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
- ะบบป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรก (ABS & EBD)
- ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
- ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ
- เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง
- เข็มขัดนิรภัยด้านหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง
- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย
- ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Auto Door Lock By Speed)
- ดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
- กุญแจแบบ Wave Key
- ไฟเบรกดวงที่ 3
- อุปกรณ์อุดการรั่วซึมของยางชั่วคราว (TPRK)
โรงงาน HONDA ในมาเลเซีย ผลิต CITY ไฮบริด
การเผยภาพ และข้อมูลบางส่วนของ Honda CITY ไฮบริด i-MMD สร้างความน่าสนใจให้ชาวไทยไม่น้อยเพราะจัดเต็มด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda Sensing และอื่นๆอีกเพียบ พูดง่ายๆคือ CITY มาเลเซียออฟชั่นจัดเต็มมากกว่าบ้านเรา
HONDA CITY RS e: HEV 2020 ได้รับการประกอบที่ โรงงานประกอบของ Honda Malaysia ใน Pegoh มะละกา พร้อมเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย
โรงงานหมายเลข 1 และ 2 มาพร้อมเครื่องจักรหุ่มยนต์ และเครื่องมือใหม่ๆที่ได้รับการอัพเกรด นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงในสายการผลิตตั้งแต่โครงสร้างจนถึงการเชื่อม และทาสีจนถึงขั้นตอนตรวจสอบขั้นสุดท้าย
CITY เจนใหม่ ผ่านกระบวนการเชื่อมด้วยหุ่นยนต์ นอกจากนี้กระบวนการทาสีถึง 6 ขั้นตอน รวมถึงการจุ่มลงในสระเพื่อเคลือบสารป้องกันการกัดกร่อน และตรวจสอบการรั่วไหล
City i-MMD ไฮบริดในมาเลเซียซึ่งเป็นประเทศแรกในโลกที่ได้รับการติดตั้งขุมพลังนี้ นอกจากนี้โรงงานแห่งนี้จะผลิต i-MMD ในโมเดลอื่นๆอีกด้วยในอนาคต
Honda CITY RS ไฮบริด i-MMD ได้รับประโยชน์จากการลดหย่อนภาษี EEV อย่างน้อย 30% ของการประกอบหลักซึ่งรวมถึงระบบส่งกำลังแบบไฮบริดระบบขับเคลื่อนตัวถังและชิ้นส่วนภายใน และแม้แต่ ชุดแบตเตอรี่ไฮบริดหรือที่เรียกว่า Intelligent Power Unit (IPU) ประกอบด้วยมือ
Honda Malaysia ใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีการส่งมอบ IPU ที่ผิดพลาดให้แก่ลูกค้า วิธีหนึ่งในการดำเนินการนี้คือการประกอบและติดตั้งแบตเตอรี่ในรถยนต์ภายใน 180 วันนับจากวันที่ผลิตเซลล์ลิเธียมไอออน
ช่วยลดอัตราการเกิดข้อบกพร่องได้อย่างมาก แต่ในกรณีที่มีการผลิต IPU ที่ผิดพลาดอาจมีการส่งคืนให้กับผู้ผลิตหรือนำไปรีไซเคิลอย่างรับผิดชอบโดย Honda Assembly Malaysia
เครื่องยนต์ i-VTEC Atkinson-cycle 1.5 ลิตรของ i-MMD ประกอบมากถึง 19 ขั้นตอน และ ระบบส่งกำลังไฮบริด Sport Hybrid i-DCD ก็ได้ถูกสร้างบนฐานนี้
อย่างไรก็ตามกำลังการผลิตยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โรงงานทั้งสองแห่งยังคงสามารถผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลได้ 100,000 คัน (รวมกัน) ต่อปี
โรงงานแห่งนี้ยังมีสนามทดสอบระยะทาง 2.1 กิโลเมตรสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการวิจัยและพัฒนาและศูนย์ตรวจสอบก่อนส่งมอบหลายแห่ง
ฮอนด้า มาเลเซีย ได้จัดแสดง Honda CITY RS i-MMD ที่หน้าโรงงานประกอบ Honda Malaysia ที่เมือง Pegoh รัฐมะละกา เตรียมเปิดตัวเดือนหน้า พร้อมให้ข้อมูลก่อนเปิดตัว Multi-Mode Drive อัจฉริยะ (i-MMD) ระบบส่งกำลังไฮบริด รวมถึงระบบความปลอดภัย Honda Sensing
Honda Sensing
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow – ACC with LSF)
- ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System – CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System – LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning – RDM with LDW)
- ระบบช่วยเตือนระวังการเกิดอุบัติเหตุพร้อมกล้องบันทึกเหตุการณ์ Forward Collision Warning (FCW)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam – AHB)
ฮอนด้า ประเทศมาเลเซีย เตรียมประกาศเปิดตัว Honda CITY RS i-MMD อย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกในไตรมาส 4 ของปีนี้
Honda CITY RS ไฮบริด i-MMD จะมีให้เลือกเฉพาะรุ่นท๊อปเท่านั้น ด้วยการวางตำแหน่งในขุมพลังเบนซิน 1.5 ลิตร i-MMD ไร้ระบบอัดอากาศ มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำกังสูงสุด 109 แรงม้า แรงบิต 253 นิวตัน-เมตร
นอกจากนี้ยังมีรุ่นเบนซินปกติ 1.5 ลิตร i-VTEC ให้กำลัง 121 แรงม้า แรงบิต 145 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ CVT
และได้อุปกรณ์เพิ่มเติมคล้ายๆกับเวอร์ชั่นอินเดียอย่าง Honda LaneWatch กล้องกระจกมองข้าง และเบรกมือไฟฟ้าด้วย ล้ออัลลอยทูโทน 16 นิ้ว
Honda City RS i-MMD มาเลเซียมีให้เลือก 5 สีได้แก่ Modern Steel Metallic, Passion Red Pearl, Platinum White Pearl, Crystal Black Pearl และ Lunar Silver Metallic
Honda CITY RS ไฮบริด i-MMD ดีไซน์รวมๆไม่ต่างจากบ้านเรา แต่มาพร้อมขุมพลังไฮบริดครั้งแรกของโลก