HONDA เตรียมร่วมมือ HUAWEI พัฒนาเทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะ พร้อม HONDA SENSING 360 +

HONDA เตรียมร่วมมือ HUAWEI พัฒนาเทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะ พร้อม HONDA SENSING 360 +
Spread the love

Advertisement

Advertisement

 

Honda กำลังเดินหน้าปรับตัวครั้งใหญ่ในตลาดจีนด้วยการนำระบบขับขี่อัจฉริยะจาก Huawei มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าครอสโอเวอร์ Ye S7 และ Ye P7 เพื่อรับมือกับความคาดหวังที่ไม่เป็นไปตามเป้าของนักลงทุนชาวญี่ปุ่น รวมถึงยอดขายที่ลดลงในจีน

บทบาทของ Huawei ในการพลิกฟื้น Honda

ความร่วมมือระหว่าง Honda และ Huawei ถือเป็นการปรับตัวที่สำคัญ โดย Huawei ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะในจีน จะนำระบบ Qiankun ADS มาใช้ในรถยนต์ Ye ระบบนี้มีความสามารถใกล้เคียงกับการขับขี่ของมนุษย์และรองรับฟังก์ชัน Navigation Cruise Assist (NCA) ที่ช่วยให้รถสามารถขับเคลื่อนจากจุดจอดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้

ระบบ Qiankun ADS ของ Huawei ถูกใช้งานโดยบริษัทรถยนต์รายใหญ่ในจีน เช่น Dongfeng, GAC และ Changan การนำระบบนี้มาใช้ใน Ye S7 และ P7 จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจของรถยนต์ในสายตาของนักลงทุนและผู้บริโภค

ในอนาคต รถยนต์ Ye ยังจะรองรับระบบขับขี่อัจฉริยะ Honda Sensing 360+ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของ Honda เอง ทำให้ Honda สามารถใช้กลยุทธ์แบบผสมผสานทั้งระบบของ Huawei และระบบของตัวเอง

ความร่วมมือระหว่างฮอนด้าและหัวเว่ย

  • โซลูชันระบบขับขี่อัจฉริยะ
    ฮอนด้ามีแผนที่จะนำโซลูชันระบบขับขี่อัจฉริยะ Qiankun ADS  ของหัวเว่ยมาใช้ในรถยนต์แบรนด์ใหม่ที่ชื่อว่า “เย่” โดยมีการเสนอแนวทางที่อาจใช้ระบบควบคู่กันไป ได้แก่:

    • ระบบ Honda SENSING 360 + ระบบขับขี่ขั้นสูง
    • ระบบขับขี่อัจฉริยะของหัวเว่ย
      การใช้ระบบขนานทั้งสองแบบนี้อาจเปิดโอกาสให้ลูกค้าเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตนเองได้มากขึ้น
  • การเลื่อนเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่
    รถยนต์รุ่น “เย่ S7” และ “เย่ P7” ที่เดิมมีกำหนดเปิดตัวในช่วงปลายปี 2024 ต้องเลื่อนออกไปเป็นไตรมาสแรกของปี 2025 เนื่องจาก:

    • เทคโนโลยีอัจฉริยะยังไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับฝ่ายบริหารของญี่ปุ่น
    • ข้อจำกัดด้านกฎหมายที่ยังไม่รองรับการพาณิชย์ของระบบขับขี่อัตโนมัติ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ฮอนด้าต้องการร่วมมือกับหัวเว่ย
  • เทคโนโลยีห้องโดยสารอัจฉริยะ
    รถยนต์ในแบรนด์ “เย่” จะติดตั้งจอแสดงผล “Light Field Display” ที่พัฒนาร่วมกับหัวเว่ย ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานใกล้เคียงกับ AR-HUD โดยมีจุดเด่นคือ:

    • หน้าจอใหญ่ถึง 40 นิ้ว
    • การแสดงผลระยะไกลที่ 3 เมตร
    • ความละเอียดสูงสุดที่ 90PPD ซึ่งคมชัดระดับ Retina

สถานการณ์ในตลาดจีนของผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น

  • ยอดขายรถยนต์ใหม่ในเดือนพฤศจิกายน 2024
    • โตโยต้า มียอดขายเติบโตขึ้น 7.0% อยู่ที่ 176,000 คัน
    • ฮอนด้า ลดลง 28.0% อยู่ที่ 76,773 คัน ซึ่งถือเป็นการลดลงต่อเนื่องถึง 10 เดือน
    • นิสสัน ลดลง 15.1% อยู่ที่ 63,545 คัน ซึ่งลดลงต่อเนื่องถึง 8 เดือน
      โตโยต้าแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในตลาดจีน ในขณะที่ฮอนด้าและนิสสันเผชิญกับแรงกดดันจากยอดขายที่ลดลง
  • แผนการควบรวมกิจการระหว่างฮอนด้าและนิสสัน
    • ฮอนด้าและนิสสันประกาศเริ่มการเจรจาอย่างเป็นทางการ โดยคาดว่าจะลงนามข้อตกลงควบรวมกิจการในเดือนมิถุนายน 2025 และก่อตั้งบริษัทโฮลดิ้งร่วมกันในเดือนสิงหาคม 2026
    • หากการควบรวมสำเร็จ ยอดขายรวมของทั้งสองบริษัทจะสูงกว่า 30 ล้านล้านเยน (ประมาณ 1.39 ล้านล้านหยวน) ซึ่งจะทำให้กลายเป็นกลุ่มบริษัทผลิตรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก
    • มิตซูบิชิ อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเข้าร่วมการเจรจาควบรวมนี้หรือไม่ โดยคาดว่าจะตัดสินใจได้ภายในเดือนมกราคม 2025

ผลกระทบและแนวโน้มในอนาคต

  • การปรับตัวสู่ยุคเทคโนโลยีอัจฉริยะ
    ความร่วมมือระหว่างฮอนด้าและหัวเว่ยเป็นความพยายามที่จะยกระดับเทคโนโลยีในรถยนต์ให้ก้าวล้ำขึ้น โดยเฉพาะในด้านระบบขับขี่และห้องโดยสารอัจฉริยะ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก
  • ความท้าทายในตลาดจีน
    การลดลงของยอดขายในตลาดจีนของฮอนด้าและนิสสัน แสดงถึงความจำเป็นที่ต้องมีการปรับกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง
  • โอกาสจากความร่วมมือ
    หากแบรนด์ “เย่” สามารถผสานเทคโนโลยีของหัวเว่ยเข้ากับความเชี่ยวชาญของฮอนด้าได้สำเร็จ อาจช่วยดึงดูดลูกค้าในตลาดที่กำลังมองหารถยนต์อัจฉริยะที่มีคุณภาพสูง

IThome

คุณสมบัติเด่นของ Honda SENSING 360+

  1. ระบบช่วยลดอุบัติเหตุจากจุดบอด (Blind Spot Detection)
    ช่วยตรวจจับยานพาหนะในจุดอับสายตา และแจ้งเตือนคนขับเมื่อเปลี่ยนเลน
  2. ระบบควบคุมความเร็วแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control)
    ปรับความเร็วให้เหมาะสมกับการจราจรโดยรอบ และรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างปลอดภัย
  3. ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (Collision Mitigation Braking System)
    ช่วยลดความรุนแรงของการชนด้านหน้า ด้วยการตรวจจับรถ คนเดินถนน หรือวัตถุอื่นๆ และเบรกโดยอัตโนมัติ
  4. ระบบช่วยขับขี่ในเลน (Lane Keeping Assist System)
    ป้องกันการออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ และช่วยรักษาตำแหน่งของรถในเลน
  5. ระบบช่วยตรวจจับการจราจรรอบตัว (Traffic Jam Assist)
    ช่วยควบคุมรถในสถานการณ์จราจรติดขัด ด้วยการควบคุมพวงมาลัยและการเร่ง-เบรกแบบอัตโนมัติ
  6. การเชื่อมต่อและอัปเดตแบบ Over-the-Air (OTA)
    ผู้ใช้สามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ของระบบ Honda SENSING 360+ ได้อย่างง่ายดายผ่านระบบ OTA เพื่อรับฟีเจอร์ใหม่ๆ หรือปรับปรุงประสิทธิภาพ

ปัจจุบัน (ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2024) Honda SENSING 360+ ยังไม่ได้ติดตั้งในรถยนต์ฮอนด้ารุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย ฮอนด้ามีแผนที่จะเริ่มติดตั้งเทคโนโลยีนี้ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ในปีหน้า 2025

  • สำหรับประเทศไทย ขณะนี้รถยนต์ฮอนด้าหลายรุ่นมาพร้อมกับเทคโนโลยี Honda SENSING ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่

ระบบขับขี่ในเลนขั้นสูงพร้อมความสามารถในการแฮนด์ฟรี Advanced In Lane Driving with Hands-off Capability

  • ขณะขับขี่บนทางด่วน ระบบจะช่วยลดภาระของผู้ขับขี่ด้วยการเหยียบคันเร่ง แป้นเบรก และพวงมาลัย เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาความเร็วของรถให้เหมาะสมและอยู่ในช่องทางเดินรถแม้ในขณะที่ผู้ขับยกมือออกจากพวงมาลัย
  • ระบบใช้แผนที่ความละเอียดสูงและระบบดาวเทียมนำทางทั่วโลก (GNSS ) เพื่อระบุตำแหน่งของยานพาหนะ เมื่อไม่มีรถอยู่หน้ารถ ระบบจะขับรถไปตามกลางเลนโดยยังคงรักษาความเร็วรถที่ตั้งไว้ล่วงหน้า เมื่อมีรถคันหน้า ระบบจะติดตามรถคันหน้าโดยรักษาระยะห่างที่เหมาะสม ในการเลี้ยว ระบบจะตรวจจับความโค้งของช่องทางเดินรถล่วงหน้า และทำการชะลอความเร็วและเร่งความเร็วตามความโค้งที่ตรวจพบ เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถขับขี่ได้อย่างสบายใจ

ระบบแนะนำในการเปลี่ยนเลนที่ใช้งานอยู่ Active Lane Change Recommendation*

  • ขณะขับขี่บนทางด่วนโดยใช้ Advanced In Lane Driving with Hands-off Capability เมื่อระบบตรวจพบรถคันหน้าซึ่งกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่ช้าลง ระบบจะประเมินสภาพแวดล้อมของรถภายใต้สภาวะบางประการ เมื่อระบบพิจารณาว่าสามารถเปลี่ยนเลนได้ ระบบจะแจ้งให้ผู้ขับขี่ทราบ เมื่อผู้ขับขี่อนุมัติให้เปลี่ยนเลนเพื่อแซงรถที่ขับช้ากว่าด้วยการกดปุ่มสวิตซ์บนพวงมาลัย ระบบจะควบคุมสัญญาณไฟเลี้ยว การเร่ง/ลดความเร็ว และบังคับเลี้ยวเพื่อช่วยในการผ่านและกลับเลนเดิม
  • นอกจากนี้ ในโหมดการนำทาง ระบบจะแนะนำให้เปลี่ยนเลนที่จำเป็นในการขับรถไปยังจุดหมายปลายทางโดยอิงตามคำแนะนำเส้นทางที่ระบบนำทางให้มา เมื่อผู้ขับขี่อนุมัติ ระบบจะควบคุมรถโดยอัตโนมัติตลอดกระบวนการเปลี่ยนเลน เพื่อเข้าสู่เลนที่เหมาะสมที่ทางแยกหรือช่องทางทางออกและออกจากทางด่วน

ระบบช่วยคาดการณ์เข้าโค้ง Predictive Curve Departure Warning

  • เมื่อเข้าใกล้โค้งหรือขณะเข้าโค้งบนทางด่วน ระบบพิจารณาว่าจำเป็นต้องชะลอความเร็วทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ถนนจะออกนอกระบบ ระบบจะแจ้งเตือนและช่วยเหลือในการชะลอความเร็วเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุที่รถ ออกจากถนนเป็นทางโค้ง
  • เมื่อรถกำลังจะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ระบบจะแสดงคำเตือนด้วยภาพโดยการแสดง “ข้อควรระวังทางโค้งข้างหน้า” บนมาตรวัด เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่รับรู้ถึงความเสี่ยงได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
  • เมื่อรถเข้าใกล้ทางโค้งและถึงจุดที่ผู้ขับขี่ต้องดำเนินการเพื่อชะลอความเร็ว ระบบจะส่งเสียงเตือนและกะพริบภาพคำเตือนบนหน้าจอ Head-Up Display เพื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่ให้ชะลอความเร็ว
  • เมื่อรถเข้าใกล้โค้งเพิ่มเติมและจำเป็นต้องลดความเร็วลงทันที ระบบจะส่งคำเตือนที่แรงขึ้นและชะลอรถเพื่อลดโอกาสที่ถนนจะออกนอกทางโค้ง

ระบบเตือนการเปิดประตู Exit Warning

  • ขณะที่รถจอดอยู่ เมื่อระบบตรวจจับรถที่กำลังเข้าใกล้จากด้านหลัง ไฟเลี้ยวที่เสาหน้าหรือกระจกมองข้างจะสว่างขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้โดยสารจดจำรถที่กำลังเข้าใกล้ได้ เมื่อระบบตรวจพบความเสี่ยงที่จะเกิดการชนกันระหว่างประตูรถที่ผู้โดยสารกำลังจะเปิด/เปิดและยานพาหนะอื่นๆ ที่ขับผ่าน ไฟแสดงจะกะพริบและเสียงเตือนจะดังขึ้นเพื่อเตือนผู้โดยสาร

ระบบช่วยเหลือฉุกเฉินของผู้ขับขี่ Driver Emergency Support System*

  • เมื่อผู้ขับขี่ไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้เนื่องจากปัจจัยบางประการ เช่น สภาวะสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงกะทันหันในขณะขับขี่ ระบบจะช่วยในการชะลอความเร็วและหยุดรถในช่องทางเดียวกัน
  • เมื่อคนขับไม่ตอบสนองต่อคำขอของระบบในการส่งมอบ (การโอนการควบคุมกลับไปยังคนขับ) ระบบจะส่งเสียงสัญญาณเตือนและกระตุ้นให้คนขับตอบสนอง หากผู้ขับขี่ยังคงไม่ตอบสนอง ระบบจะช่วยลดความเร็วและหยุดรถในช่องทางเดียวกัน พร้อมทั้งแจ้งเตือนผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ รอบๆ ตัวรถโดยใช้ไฟฉุกเฉินและแตร
  • นอกจากนี้ระบบยังเชื่อมต่อกับบริการคอลเซ็นเตอร์ฉุกเฉิน HELPNET® *5เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ใช้ถนนรายอื่น

หมายเหตุ

  • Honda SENSING, Honda SENSING 360 และ Honda SENSING 360+ มีฟังก์ชันช่วยเหลือผู้ขับขี่ และมีข้อจำกัดด้านความสามารถ (เช่น ความสามารถในการจดจำและความสามารถในการควบคุม) ของแต่ละฟังก์ชัน โปรดอย่าประเมินค่าความสามารถของแต่ละฟังก์ชันสูงเกินไป และขับขี่อย่างปลอดภัยโดยยังคงรักษาท่าทางการขับขี่ที่ดี ให้ความสนใจกับสภาพแวดล้อมรอบตัวคุณอยู่เสมอ และเตรียมพร้อมที่จะควบคุมการบังคับเลี้ยวและการเบรกได้ตลอดเวลา

Honda SENSING 360 ในปัจจุบัน

  • ระบบเบรกเพื่อลดความเสี่ยงในการชน (CMBS)
  • Road Departure Mitigation (RDM)
  • Lane Departure Warning (LDW)
  • Lane Keeping Assist System (LKAS)
  • ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้ (ACC)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน(LSF)
  • Traffic Sign Recognition (TSR

ภาพเวอร์ชั่นจำหน่ายจริง HONDA Ye S7 แบตเตอรี่ 89.8kWh 620 กม./ชาร์จ CLTC ในจีน

เปิดตัว GAC HONDA Ye P7 ที่งาน Guangzhou Auto Show 2024 ประเทศจีน

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้