Advertisement

Advertisement

เพิ่มฟังก์ชั่นขับขี่อัจฉริยะในเมือง NCA ในทุกรุ่นย่อย Huawei AVATR 11 EV Harmony ราคาจีน 1.47 ล้านบาท

เพิ่มฟังก์ชั่นขับขี่อัจฉริยะในเมือง NCA ในทุกรุ่นย่อย  Huawei AVATR 11 EV Harmony ราคาจีน 1.47 ล้านบาท
Spread the love

Advertisement

Advertisement

 

 

วันที่ 8 มกราคม 2024 AVATR ประเทศจีนเปิดตัว AVATR 11 Edition Smart Enjoy รุ่นอัปเกรด โดยไม่เพิ่มราคา สำหรับรุ่นดังกล่าวอัพเกรดระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ NCA ในเขตเมืองทั่วประเทศเป็นมาตรฐานในทุกซีรีย์ เริ่มต้นที่ 300,000 – 390,000 หยวน หรือประมาณ 1.47 – 1.92 ล้านบาท สำหรับฟังก์ชั่น NCA ใหม่จะติดตั้งในรถใหม่พร้อมปลดล็อคฟังก์ชันการขับขี่อัจฉริยะ NCA ในเมืองใน 300 เมืองในเร็วๆ นี้ ในประเทศจีน

สิ่งที่เพิ่มเติม

  • มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ขับขี่อัจฉริยะ 3 ตัว + เซ็นเซอร์ขับขี่อัจฉริยะ 34 ตัว รองรับการขับขี่อัจฉริยะ ADS 2.0 ของ Huawei
  • Huawei ADS 2.0 Navigation Cruise Assist (NCA) ระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติที่พัฒนาโดย Huawei ใช้การผสมผสานระหว่างเซ็นเซอร์ กล้อง และแผนที่ความละเอียดสูงเพื่อให้สามารถขับขี่แบบแฮนด์ฟรีบนทางหลวงและในเขตเมืองบางแห่งในประเทศจีน ระบบสามารถควบคุมความเร็ว การบังคับเลี้ยว และการเปลี่ยนเลนของรถได้ แต่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ ผู้ขับขี่ยังคงรับผิดชอบในการตรวจสอบถนนและเตรียมพร้อมเข้าควบคุมหากจำเป็น
    • การขับขี่แบบแฮนด์ฟรีบนทางหลวงและในบางพื้นที่ในเมืองของจีน
    • การควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
    • การบังคับเลี้ยวอัตโนมัติ
    • การเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ
    • การตรวจจับวัตถุและคนเดินถนน
    • เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
  • เทคโนโลยี iTRACK ช่วยติดตามยานพาหนะแบบเรียลไทม์ (real-time vehicle tracking) สามารถรับรู้สภาพถนนที่มีรายละเอียดสูงเป็นพิเศษด้วยความเร็ว 1,000 ครั้งต่อวินาที และการปรับแรงบิดแบบเรียลไทม์ 1,000 ครั้งต่อวินาที ตัวอย่างเช่น เมื่อเผชิญกับแรงกระแทกความเร็ว สามารถปรับและควบคุมแรงบิดได้ภายในมิลลิวินาที ช่วยลดความผันผวนของความเร็วล้อและระยะเวลาที่เกิดอาฟเตอร์ช็อก และได้กำลังสูงสุดภายใต้สภาพถนนที่แตกต่างกัน
  • ระบบจดจำสิ่งกีดขวาง GAEB ของ Huawei เป็นระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่พัฒนาโดย Huawei โดยใช้เซ็นเซอร์เรดาร์และกล้องเพื่อตรวจจับวัตถุและคนเดินถนนที่อยู่ข้างหน้ารถ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนให้ผู้ขับขี่ทราบหากมีวัตถุหรือคนเดินถนนอยู่ใกล้เกินไป หากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนอง ระบบจะทำการเบรกฉุกเฉินโดยอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงการชน
  • ระบบนำทางอัตโนมัติ AVATR ของ Huawei เป็นระบบนำทางที่พัฒนาโดย Huawei เพื่อใช้ในรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยใช้เซ็นเซอร์เรดาร์ กล้อง และ LiDAR เพื่อตรวจจับสภาพแวดล้อมของรถ ระบบจะสร้างภาพรวมของสภาพแวดล้อมของรถและวางแผนเส้นทางที่ดีที่สุดเพื่อไปยังจุดหมายปลายทาง
  • รุ่นอัปเกรดที่เปิดตัวในครั้งนี้ยังมาพร้อมกับที่นั่งวีไอพีที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น พื้นผิวหนังมีความแน่น นุ่ม ไร้ริ้วรอยหลายชั้น

ฟังก์ชั่นการขับขี่อัจฉริยะ NCA ในเขตเมือง

  • ขับขี่อัจฉริยะ NCA (No-Car-Ahead) หัวเว่ย เป็นระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติที่พัฒนาโดยหัวเว่ย ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ขับขี่ในเขตเมืองได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
  • ระบบ NCA หัวเว่ย ใช้กล้องและเซ็นเซอร์ต่างๆ เพื่อตรวจจับรถคันหน้าและสภาพแวดล้อมรอบตัวรถ จากนั้นระบบจะคำนวณและควบคุมความเร็วและระยะห่างระหว่างรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ ระบบ NCA หัวเว่ย ทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ (ACC) ระบบเตือนการชนด้านหน้า (PCS) และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LTA)

AVATR 11 ดำเนินการออกแบบโดย AVATR  Global Design Center ในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี โดยมีแนวคิด “ล้ำยุค” เป็นแนวคิดในการออกแบบหลัก ซึ่งแสดงถึงเสน่ห์ด้านสุนทรียภาพอันเป็นเอกลักษณ์ สร้างขึ้นบนพื้นฐานของแพลตฟอร์มเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ CHN รุ่นใหม่

เน้นความหรูหราแบบเรียบง่ายกระจังหน้าแบบปิด ชุดไฟหน้ารูปตัว F พร้อมไฟส่องสว่างกลางวัน ทำมุมทั้งสองข้าง แนวของหน้าต่างทั้งสองบานผสานกันอย่างลงตัว เพื่อสร้างมุมแหลมรูปตัว V ที่คมชัด และชี้ไปยังปลายเสา C แบบคูเป้ ให้พลังและไดนามิกอย่างงดงาม ด้านหลังมาพร้อมไฟแบบ LED ทะลุผ่านเรียวบาง กันชนหลังสีดำ ไม่มีท่อไอเสียเพราะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมระบบแสดงสัญลักษณ์ โฮโลแกรมบริเวณภายนอก กระจกหน้ารถ

ล้ออัลลอย 22 นิ้ว พร้อมยาง Continental PC6 คาลิปเปอร์เบรค Brembo 4 ลูกสูบอลูมิเนียมทั้งหมด มือจับประตูแบบซ่อน ติดตั้งประตูไฟฟ้าเหนี่ยวนำอัจฉริยะ และ ระบบลดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ RNC

ขนาดตัวถัง AVATR  11

  • ยาว 4,880 มม.
  • กว้าง 1,970 มม.
  • สูง 1,601 มม.
  • ฐานล้อ 2,975 มม.

ภายในห้องโดยสารออกแบบภายใต้แนวคิด “Vortex Emotional Eddy Current” เน้นกึ่งกลาง พร้อมนวัตกรรมใหม่ๆ เน้นความสปอร์ต และ หรูหราด้วยโทน น้ำเงิน-เทา และ แดงเบอร์กันดี เบาะหนัง Nappa คู่หน้า เบาะนั่งด้านหน้าเป็นแบบ Bucket-Shape เบาะหลังมีให้เลือกทั้ง 3 ที่นั่ง และ 2 ที่นั่ง รองรับการปรับไฟฟ้า ระบบทำความร้อน และ ฟังก์ชั่นนวด ที่พักแขนตรงกลางมาพร้อมระบบชาร์จไร้สาย และตู้เย็นบริเวณด้านล่าง

หน้าจอส่วนกลางแบบลอยขนาด 15.6 นิ้ว พร้อมระบบ Huawei Hongmen หน้าปัด Full LCD ขนาด 10.25 นิ้ว หน้าจอสำหรับผู้โดยสารขนาด 10.25 นิ้ว

ลำโพง 14 ตำแหน่ง + เพาเวอร์แอมป์ภายนอก 12 ช่อง ติดตั้ง RNC (Road Noise Cancellation) การลดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ และ เทคโนโลยีคลื่นเสียงแบบแอ็คทีฟ ASE (Active Sound Enhancement) พร้อมโหมดน้ำหอมเป็นอุปกรณ์เสริม

  • ASE (Active Noise Cancellation) Sound Enhancement) เทคโนโลยีคลื่นเสียงแบบแอคทีฟที่สามารถจำลองเครื่องยนต์ได้หลากหลาย
  • ฟังก์ชันการชาร์จแบบไร้สาย สำหรับโทรศัพท์มือถือแถวหน้า ให้กำลังชาร์จสูงถึง 50W ซันรูฟพาโนรามาแบบแบ่งส่วนได้
  • ระบบการจับคู่แผนที่มีความแม่นยำสูงช่วยให้ Avita 11 สามารถรับรู้ภาพได้สูง 360 องศา ทั้งกลางคืน แสงน้อย อุโมงค์ และ ความมืด ทำให้ไม่มีปัญหาในการรับรู้
  • Avatr 11 ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่สร้างร่วมกันโดยทั้งสอง มาพร้อมกับโซลูชันสมาร์ทคาร์แบบฟูลสแตกของ Huawei ซึ่งรวมถึง Huawei Smart Driving, Smart Cockpit, ระบบเชื่อมต่อัฉจริยะ อินเตอร์เน็ต Smart Electric และ บริการคลาววด์ในรถยนต์

AVATR  11 ติดตั้ง Lidar 3 ตัว, เรดาร์คลื่น 6 มม., เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว และกล้อง 13 ตัว พร้อมพลังประมวลผล 400TOPS สำหรับ Lidar ไม่เพียงแต่สามารถตรวจจับระยะไกลได้ 150 เมตรเท่านั้น แต่ยังมีความแม่นยำในการตรวจจับสูง พร้อมจำลองภาพ 3D เรนดาร์คลื่นมิลลิเมตร สามารถตรวจจับอย่างแม่นยำได้ไกลอีก 210 เมตร นอกจากนี้ยังตอบสนองต่อ การจดจำเลน การเปลี่ยนสัญญาณไฟจราจร ระยะห่างจากคนเดินถนน สิ่งกีดขวางวัตถุที่ต่ำ หรื เล็กจนมองไม่เห็น

  • ระบบช่วยนำทางสำหรับการขับขี่อัจฉริยะของ NCA ในความเร็วสูง
  • ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ APA
  • ระบบช่วยจดจำสัญญาไฟจราจร
  • ระบบจำกัดความเร็วอัจฉริยะ
  • ระบบเตือนการเปิดประตู

ติดตั้งมอเตอร์คู่ของ Huawei DriveONE ด้านหน้า ให้กำลัง 265 แรงม้า มอเตอร์หลัง ให้กำลัง 313 แรงม้า รวมกำลัง 578 แรงม้า แรงบิตสูงสุด 650 นิวตัน-เมตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

  • อัตราส่วนน้ำหนักหน้า-หลัง 50:5
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.98 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม.
  • แบตเตอรี่ลิเธียม CATL ternary 116kWh (แบตเตอรี่ของ CATL) วิ่งได้ 680 – 700 กม./ชาร์จ CLTC
  • แบตเตอรี่ลิเธียม CATL ternary 90kWh (แบตเตอรี่ของ CATL) วิ่งได้ 555 – 580 กม./ชาร์จ CLTC
  • สามารถชาร์จ 10 นาทีวิ่งได้ 200 กม.
  • ระบบชาร์จไฟฟ้าแรงสูง 750V ที่มีกำลังการชาร์จสูงถึง 240kW สามารถชาร์จ 30 – 80% ภายใน 15 นาที
  • ระบบกันสะเทือนหน้า ปีกนกคู่อลูมิเนียมอัลลอยด์
  • ระบบกันสะเทือนหลัง Five-link แบบอิสระ

มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ให้กำลัง 308 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 370 นิวตัน-เมตร

  • แบตเตอรี่ลิเธียม CATL ternary 90kWh (แบตเตอรี่ของ CATL) วิ่งได้ 600 – 630 กม./ชาร์จ CLTC
  • แบตเตอรี่ลิเธียม CATL ternary 116kWh (แบตเตอรี่ของ CATL) วิ่งได้ 705 – 730 กม./ชาร์จ CLTC
  • กำลังไฟชาร์จสูงสุดของแพลตฟอร์มไฟฟ้าแรงสูง 750V สามารถเข้าถึง 240kW โดยใช้เวลา 10 นาทีวิ่งได้ 200 กม.
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6 วินาที

  

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Autohome / Inf.news

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้