Advertisement

Advertisement

ทดสอบวิ่ง All-NEW Hyundai Creta EV เวอร์ชั่นไฟฟ้าล้วน เตรียมเปิดตัวในอินเดีย

ทดสอบวิ่ง All-NEW Hyundai Creta EV เวอร์ชั่นไฟฟ้าล้วน เตรียมเปิดตัวในอินเดีย
Spread the love

Advertisement

Advertisement

เครดิตภาพ @motorbeam

Render By : rushlane.com

 

Hyundai Creta EV ขณะกำลังทดสอบวิ่งในท้องถนนประเทศอินเดีย จะเห็นว่าการออกแบบภายนอกไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากสักเท่าไหร่หากเทียบเวอร์ชั่น ICE (คาดว่าเวอร์ชั่นจำหน่ายจริงๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร) เบื้องต้นอาจมีการหยิบยกการออกแบบจาก Hyundai Kona Electric รวมทั้งขุมกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าอาจหยิบจาก Hyundai Kona Electric มาใช้งาน

Hyundai Creta หรืออีกชื่อ Hyundai ix25 ปัจจุบันพัฒนาถึงโฉมที่ 2 เปิดตัวในประเทศไทยวันที่ 17 มีนาคม 2022 นำเข้าจากอินโดนีเซีย มีรุ่น SE และ SEL พร้อมเครื่องยนต์ เบนซิน Smartstream 1.5 ลิตร แน่นอนว่าอนาคต ฮุนไดกำลังพัฒนาไปสู่ระบบไฟฟ้า สำหรับรถยนต์ทุกรุ่นของแบรนด์ ภายในปี 2030

สำหรับ Hyundai Creta เองคงไม่พ้นการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ และ มันก็คือความจริงเมื่อมีการจับภาพทดสอบวิ่งใหม่ของ Hyundai Creta EV ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2024 – 2025

Hyundai Creta Electric ที่ทดสอบจะเป็นว่ามีส่วนที่ยื่นออกมาเล็กน้อยบริเวณด้านล่างของถาดพื้น สันนิษฐานว่าส่วนที่ยื่นออกมานี้เป็นของชิ้นส่วนโครงสร้างซึ่งทำหน้าที่เป็นส่วนรองรับส่วนล่างของแบตเตอรี่ นอกจากส่วนต่อขยายพื้นและกันชนหน้าและหลัง

Hyundai Creta เวอร์ชั่นไฟฟ้าใหม่ ไม่ได้ใช้แพลตฟอร์มอย่าง E-GMP ของฮุนได แต่พวกเขาร่วมมือกับ TATA Motors ประเทศอินเดีย โดยพึ่งพาแพลตฟอร์มจาก Tiago, Tigor และ Nexon เพื่อควบคุมต้นทุน และ สร้างรถยนต์ราคาไม่แพงตอบโจทย์อินเดีย

Hyundai Kona EV

มอเตอร์ไฟฟ้า และ ระยะการวิ่ง

  • Long Range มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ให้กำลัง 154 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตัน-เมตร
    • แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนขนาด 48.4kWh
    • สามารถวิ่งได้ 317 กม./ชาร์จ WLTP
  • รุ่น Long Range ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวให้กำลังสูงสุด 215 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 255 นิวตัน-เมตร
    • แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนขนาด 64.8kWh
    • สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 490 กม./ชาร์จ WLTP
    • รองรับการชาร์จ DC 10 – 80 % ภายใน 43 นาที

เทคโนโลยีการชาร์จ 

  • ฮุนไดยังเผยว่า Kona Electric มีเทคโนโลยี 400V แม้ว่าจะไม่ล้ำสมัยเท่า Ioniq 5 และ Ioniq 6 แต่สามารถชาร์จที่ 10 – 80% ภายใน 41 นาที
  • ฟังก์ชัน Vehicle-to-Load (V2L)
  • ระบบปรับสภาพแบตเตอรี่ โคมไฟประตูพอร์ตชาร์จแบบใหม่
  • ะระบบป้องกันประตูชาร์จค้างในทำงานที่อุณหภูมิต่ำถึง -30°C (-22°F)

ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) เช่น ระบบ Smart Cruise Control (NSCC) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันความเร็วตามสภาพการจราจร ทำงานร่วมกับระบบนำทาง , ระบบ Highway Driving Assist (HDA) ใช้ความสามารถของเซนเซอร์และข้อมูลจากแผนที่ช่วยขับแบบอัตโนมัติบนไฮเวย์

Cartoq.com/ Kleber Silva

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้