ยืนยันเปิดตัวไทย 26 มีนาคมนี้ เริ่ม 9xx,xxx บาท Jaecoo J7 ปลั๊กอินไฮบริด แบตฯ 18.3kWh วิ่งไฟฟ้า 108 กม.

ยืนยันเปิดตัวไทย 26 มีนาคมนี้ เริ่ม 9xx,xxx บาท Jaecoo J7 ปลั๊กอินไฮบริด แบตฯ 18.3kWh วิ่งไฟฟ้า 108 กม.
Spread the love

Advertisement

Advertisement

   

 

กรุงเทพ, ประเทศไทย 7 มีนาคม 2568 – OMODA & JAECOO (อ่านว่า โอโมด้า แอนด์ เจคู่) ภายใต้บริษัท Chery Automobile ผู้นำเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลก เปิดให้จองสิทธิ์ JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) ยนตรกรรม Plug-in Hybrid รุ่นใหม่ หลังประสบความสำเร็จในการทดสอบระยะไกลสุดท้าทายที่ประเทศแอฟริกาใต้ ที่เป็นบทพิสูจน์ประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมและความทนทานของ JAECOO 7 SHS ในฐานะ “Super HEV + EV” ของ OMODA & JAECOO ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย โดยเปิดให้จองล่วงหน้าสำหรับลูกค้ากลุ่มแรกในประเทศไทย พร้อมข้อเสนอราคาสุดพิเศษ และรับนาฬิกา JAECOO X GARMIN FORERUNNER 165 มูลค่า 9,900 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 – 23 มีนาคม 2568

JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) รถยนต์ SUV ที่สะท้อนการออกแบบลายเส้นที่มีอัตลักษณ์เฉพาะ เรียบหรู คลาสิคผสมผสานกันอย่างลงตัว และยังโดดเด่นด้วยนวัตกรรม Super HEV + EV ล้ำสมัยจาก Chery Automobile เจเนอเรชั่นที่ 3 ที่ปรับการจ่ายเชื้อเพลิงแบบเรียลไทม์ตามสภาพการขับขี่ พร้อมระบบระบายความร้อนประสิทธิภาพสูง (Thermal Efficiency) ช่วยรักษาสมรรถนะแม้ในสภาวะที่ทำงานหนัก เมื่อผสานกับเครื่องยนต์ 1.5TDGI เจเนอเรชั่นที่ 5 และระบบ Super Electric Hybrid DHT ทำให้ขับขี่นุ่มนวล ไร้รอยต่อ สามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนได้ที่ความเร็วสูงสุด 120 กม./ชม. เมื่อแบตเตอรี่มากกว่า 25% และมีระยะทางการขับขี่รวมได้ถึง 1,300 กม. (NEDC) ในด้านสมรรถนะการขับเคลื่อน JAECOO 7 SHS มาพร้อมพละกำลังสูงสุดถึง 347 แรงม้า ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเจเนอเรชั่นใหม่ ผสานเทคโนโลยีการจัดการพลังงานอัจฉริยะ ส่งผลให้โดดเด่นทั้งด้านสมรรถนะการขับขี่ และอัตราการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม มากกว่า 21.28 กิโลเมตรต่อลิตร ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยานยนต์ยุคใหม่ ที่มองหาความคุ้มค่าและความใส่ใจด้านพลังงานในทุกการเดินทาง

ด้านความปลอดภัย มาพร้อมระบบแบตเตอรี่ที่มีการป้องกันรอบด้าน ทั้งความร้อน แรงกระแทก และกันน้ำ พร้อมระบบตัดไฟภายใน 0.002 วินาทีหลังเกิดการชน และระบบรักษาความปลอดภัยแบบเรียลไทม์ ให้ระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 106 กม. (NEDC) และยังสามารถใช้เป็นแหล่งจ่ายไฟฟ้าฉุกเฉินด้วยความสามารถปล่อยประจุไฟฟ้าภายนอกได้ถึง 3.3 กิโลวัตต์

ร่วมเป็นคนกลุ่มแรกในประเทศไทย ที่จะได้เป็นเจ้าของ JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) ตั้งแต่วันนี้ผ่านผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ 25 สาขา ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1- 23 มีนาคม 2568 นี้เท่านั้น

เตรียมพบกับการเปิดตัว JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการได้ในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 46 วันที่ 26 มีนาคม 2568 – 6 เมษายน 2568 นี้ ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3

Jaecoo แบรนด์รถยนต์จากประเทศจีน พร้อมด้วยการเปิดตัว Jaecoo J7 ซึ่งเป็น SUV ขนาดกลาง ราคาเริ่ม 9xx,xxx บาท เปิดตัวไทยในเดือนมีนาคมนี้

  • Jaecoo ก่อตั้งขึ้นในปี 2023 โดยเป็นแบรนด์ในเครือของ Chery และถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นแบรนด์ระดับพรีเมียมที่มุ่งเน้นการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ

เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 1.5TDGI  เทอร์โบ + มอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ปลั๊กอินไฮบริด

  • Super Hybrid (SHS หรือ Super Hybrid System)
  • ให้กำลัง 346 แรงม้า แรงบิด 525 นิวตัน-เมตร
  • ระบบขับเคลื่อน 2WD
  • ขนาดถังน้ำมัน 51 ลิตร
  • ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม.
  • แบตเตอรี่ LFP 18.3kWh วิ่งไฟฟ้า 108 กม. NEDC
  • ชาร์จ AC 6.6klW 30-80% ภายใน 3 ชั่วโมง
  • ชาร์จ DC 40kW 30-80% ภายใน 20 นาที
  • อัตราประหยัด 28.5 กม./ลิตร

JAECOO 7 PHEV  รหัส TJ-1 อยู่ในตำแหน่ง SUV ขนาดใหญ่ การออกแบบในสไตล์คล้ายๆ Land Rover กระจังช่องดักอากาศขนาดใหญ่ โลโก้รถสามมิติแบบฝัง ไฟหน้าแบบ LED แยกส่วน และมีการออกแบบแถบไฟแบบทะลุผ่านให้ความสปอร์ตหรูหราอย่างมาก ไฟหน้าปรับสูงต่ำอัตโนมัติ กันชนหน้าขนาดใหญ่ กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า กระจกมองหลังปรับความร้อนด้วยไฟฟ้า + พับไฟฟ้า + พับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อครถ

ด้านข้างมีการออกแบบโด่ดเด่นอย่างมาก มือจับประตูแบบซ่อน เสา C ยกสูงขึ้น และ ลาดลงบริเวณเสา D ความคล้ายคลึงกันกับ Range Rover Evoque L ด้านท้ายติดตั้งไฟท้ายแบบ LED ทะลุผ่านรูปที่สี่เหลี่ยม ท่อไอเสียเป็นแบบซ่อนทรงสี่เหลี่ยมอย่างละข้าง ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ม่านบังแดดไฟฟ้า ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

ขนาดตัวถัง JAECOO 7 PHEV

  • ยาว 4,500 มม.
  • กว้าง 1,865 มม.
  • สูง 1,670 มม.
  • ระยะฐานล้อ 2,672 มม.
  • ระยะห่างจากพื้น 174 มม.
  • เบาะหลัง 326 ลิตร

Toyota RAV4 PHEV: ยาว 4,600 มม. x กว้าง 1,855 มม. x สูง 1,685 มม. (ฐานล้อ 2,690 มม.)

Mitsubishi Outlander PHEV: ยาว 4,710 มม. x กว้าง 1,860 มม. x สูง 1,710 มม. (ฐานล้อ 2,705 มม.)

Haval H6 PHEV: ยาว 4,683 มม. x กว้าง 1,886 มม. x สูง 1,730 มม. (ฐานล้อ 2,738 มม.)

MG HS PHEV: ยาว 4,574 มม. x กว้าง 1,876 มม. x สูง 1,664 มม. (ฐานล้อ 2,720 มม.)

Lynk & Co 01 PHEV: ยาว 4,541 มม. x กว้าง 1,857 มม. x สูง 1,689 มม. (ฐานล้อ 2,734 มม.)

ภายในห้องโดยสารรองรับ 5 ที่นั่ง เน้นการออกแบบพรีเมียมเต็มไปด้วยเทคโนโลยี พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นสามก้าน หน้าจอแบบ LCD หน้าจอสัมผัสส่วนกลางแนวตั้ง 13.2 นิ้ว คาดว่าสามารถหมุนได้ คันเกียร์อิเล็กทรอนิกส์

  • ติดตั้งชิป Qualcomm Snapdragon 8155
  • หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามาขนาดใหญ่พิเศษ 1.1 ตร.ม.
  • ลำโพง SONY 8 ตำแหน่ง
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อม 7 โหมดการขับขี่
  • จอแสดงผลบนกระจกหน้า W-HUD
  • ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย 50W
  • ภาพพาโนรามา 540°
  • ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะระดับ L2.5
  • ไฟบรรยากาศภายในห้องโดยสาร 69 สี
  • ระบบช่วยเหลือการขับขี่ระดับ L2.5+
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง (ปรับได้ 4 ทิศทาง)
  • เบาะหนังระดับพรีเมี่ยม
  • เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
  • เบาะรองเอวด้านคนขับปรับ 4 ทิศทาง
  • เบาะผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
  • เบาะนั่งคู่หน้าแบบอุ่น (เบาะและพนักพิง)
  • ระบบระบายอากาศเบาะนั่งด้านหน้า (เบาะและพนักพิง)
  • เบาะนั่งแถวที่ 2 พนักพิง 4/6 จุด & พับได้ & พนักวางแขนตรงกลางพร้อมที่วางแก้วน้ำ
  • เบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับเอนได้ 2 ขั้นตอน
  • เบาะนั่งแถวที่สองมีพนักพิงศีรษะสามชั้น

ช่วงล่าง

  • ระบบกันสะเทือนหน้า McPherson อิสระ
  • ระบบกันสะเทือนหลัง แบบมัลติลิงค์
  • ระบบขับเคลื่อน 2WD
  • ดิสก์เบรกหน้า พร้อมแผ่นระบายอากาศ
  • ดิสก์เบรกหลัง
  • ล้ออัลลอย 18 นิ้ว
  • 235/55R18 ยาง 235/55R18
  • ยางอะไหล่แบบไม่เต็ม
  • พวงมาลัยพาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ EPS

ระบบความปลอดภัย

  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
  • มานถุงลมนิรภัยคู่หน้า
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบควบคุมการทรงตัวของรถ ESP
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS
  • ระบบช่วยขึ้นทางลาดชัน
  • ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง TPMS
  • เบรกมืออิเล็กทรอนิกส์ EPB + AUTOHOLD
  • กล้องพาโนรามา 540 องศา HD
  • เรดาร์จอดรถด้านหน้า+หลัง
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
  • ระบบปรับความเร็วอัตโนมัติ ACC
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า FCW
  • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB
  • ระบบเตือนออกนอกเลน LDW
  • ระบบตรวจสอบจุดบอด BSD
  • ระบบเตือนการเปิดประตู DOW
  • ระบบเตือนการชนท้าย RCW
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA
  • ระบบช่วยรักษาช่องทางฉุกเฉิน ELK
  • ระบบลดความเร็วขณะเข้าโค้งอัจฉริยะ CSA
  • ระบบจดจำป้ายจราจร TSR
  • ระบบช่วยจำกัดความเร็ว SLA
  • ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ SCF

ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย C-NCAP ของจีน Euro-NCAP ของสหภาพยุโรป, ASEAN-NCAP ของอาเซียน, A-NCAP ของออสเตรเลีย, LATIN-NCAP ของอเมริกาใต้ และมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกอื่น ๆ

paultan

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้