Advertisement

Advertisement

ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น เผชิญยอดขายลดลงครั้งใหญ่ในจีน Mazda ลดลง 66.5% / Nissan ลดลง 45.8%

ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น เผชิญยอดขายลดลงครั้งใหญ่ในจีน Mazda ลดลง 66.5% / Nissan ลดลง 45.8%
Spread the love

Advertisement

Advertisement

 

ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น กำลังเผชิญกับวิกฤตยอดขายลดลงครั้งใหญ่ ในประเทศจีน เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าครองตลาดแดนมังกร และผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีนมีเทคโนโลยีที่เหนือชั้นกว่า

เราเข้าใจกันดีว่า จีนคือผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลก นอกจากนี้พวกเขายังมี CATL ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของโลก รองลงมาคือ BYD หรือพูดง่าย 6 ใน 10 ของผู้ผลิตแบตเตอรี่โลกคือแบรนด์จีน

ข้อมูลอุตสาหกรรมเปิดเผยว่ายอดขายรวมของแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นในจีนลดลง 32% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสแรกของปี 2023 ปัจจุบันยอดขายแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นคิดเป็น 18% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ของจีน ลดลงจากส่วนแบ่ง 20% ในปี 2022 ส่วนแบ่ง 22% ในปี 2021 และ ส่วนแบ่ง 24% ในปี 2020

ผู้ผลิตรถยนต์บางรายได้รับผลกระทบอย่างหนัก เมื่อเร็วๆ นี้ Mitsubishi ประกาศว่าได้ระงับการผลิต Outlander PHEV ในประเทศจีนหลังจากยอดขายในประเทศจีนลดลงในไตรมาสแรกที่ผ่านมา ผลกระทบนี้ทำให้พวกเขาขาดทุนกว่า 78 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2,633 ล้านบาท จากยอดขายที่ชะลอตัวในประเทศ

  • GAC Mitsubishi Motors บริษัทร่วมทุนที่ดูแลธุรกิจของ Mitsubishi Motors ในประเทศจีน มียอดขายตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมีนาคมลดลง 58% จากปีก่อนหน้าเหลือ 3,969 คัน โรงงานจะหยุดผลิตรถยนต์ใหม่และมีกำหนดเริ่มการผลิตใหม่ในเดือนมิถุนายน แต่ในช่วงเวลานี้ยังคงมีการผลิตแค่บางส่วน
  • ยอดขายรถยนต์ของ Mitsubishi ในเดือนมีนาคมอยู่ที่ 2,471 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วอย่างไรก็ตาม จากเดือนมกราคมถึงมีนาคมปีนี้ขายได้ทั้งหมด 3,969 คัน เท่ากับว่าในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์เพียงสองเดือน มียอดขาย 1,498 คันเท่านั้น โดยเฉลี่ยพวกเขาขายรถยนต์ได้ 750 คันต่อเดือนในตลาดที่ใหญ่่สุดในโลก ณ ตอนนี้ สถานการณ์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

นอกจากนี้ Nissan มียอดขายในจีนลดลง 45.8% ในไตรมาสแรกของปี 2023 ขณะที่ Honda ลดลง 38.2% และ Mazda ลดลง 66.5% Toyota และ Lexus มียอดขายลดลง 14.5% 

Toshihiro Mibe ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Honda ให้สัมภาษณ์กับReuters ว่าคู่แข่งในจีนกำลังเอาชนะคู่แข่งในเทคโนโลยีซอฟต์แวร์บางอย่าง โดยอธิบายว่าผู้ผลิตรถยนต์ของจีน “ล้ำหน้ากว่าที่เราคาดไว้”

โดยทั่วไป ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น จะนำเสนอระบบไฟฟ้า และ ปลั๊กอินไฮบริด ด้วยการเปิดตัวแบบช้าๆ เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในจีนบางราย ประเทศกำลังเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างรวดเร็วจน Nissan Sylphy ซึ่งเป็นรถยนต์ที่มียอดขายสูงสุดของจีนเป็นเวลาสามปี พ่ายแพ้ให้กับ BYD Song ปลั๊กอินไฮบริดเมื่อปีที่แล้ว

“ญี่ปุ่นเป็นผู้แพ้สงครามราคารายใหญ่ที่สุดจนถึงตอนนี้” บิล รุสโซ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Automobility กล่าว “ในขณะที่ EV มีราคาไม่แพงมาก พวกเขาก็กลายเป็นที่สนใจมากขึ้นสำหรับผู้ซื้อหลัก ”

และ ด้วยการสนับสนุนของรัฐบาลจีน ในการหนุนรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มกำลัง ทำให้ราคา และ ต้นทุนทั้งหมดของห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ไฟฟ้าลดลงอย่างมาก เป็นเหตุให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าลดลงตามลำดับ ทำให้ไม่แปลกใจเลยที่ความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ไม่ใช่แค่แบรนด์ญี่ปุ่นต้องปรับตัว แบรนด์รถยนต์อื่นทั่วโลกก็ต้องปรับตัว และไม่สามารถทิ้งตลาดจีนได้ Mercedes-Benz เผยก่อนหน้านี้ว่าพวกเขาไม่สามารถออกจากตลาดจีนได้เนื่องจาก ประเทศจีนคิดเป็น 37% ของยอดขายรวมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในปีที่แล้ว รวมถึง 18% ของรายได้ คำกล่าวจาก Ola Kallenius ประธานคณะกรรมการบริหารของ Mercedes-Benz Group และ CEOของMercedes- Benz

Carscoop/ Carnewschina.com

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้