ทดสอบวิ่ง Lexus LM เจนเนอเรชั่นใหม่ ในญี่ปุ่น ก่อนเปิดจำหน่าย
เครดิตภาพ 旦那metal
Lexus LM เจนเนอเรชั่นใหม่ ได้ทำการทดสอบวิ่งในประเทศญี่ปุ่น แน่นอนมันคือเวอร์ชั่นพวงมาลัยขวา หลังจากที่เผยโฉมในประเทศจีนระหว่างงาน Shanghai Motor Show 2023 ประเทศจีน LEXUS เตรียมพร้อมจำหน่าย LM กว่า 60 ประเทศทั่วโลก
วันที่ 18 เมษายน 2023 All-NEW LEXUS LM เจนเนอเรชั่นที่ 2 ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมการออกแบบที่พรีเมียมมากขึ้น ภายในโปร่งสบาย หรูหรา โดยจัดแสดงครั้งแรกของโลกที่งาน ที่งาน Auto Shanghai 2023 ประเทศจีน
- นับเป็นการปรับโฉมครั้งสำคัญ หลังจากเปิดตัวกว่า 4 ปีสำหรับโฉมปัจจุบัน การเปิดตัวครั้งนี้มาพร้อมการออกแบบใหม่ และมันจะแชร์พื้นฐาน เทคโนโลยีจาก TOYOTA Alphard / Vellfire 2024 เจนใหม่ เช่นกัน
- Lexus LM เจนเนอเรชั่นแรกเปิดตัวในปี 2020 เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการรถ MPV ที่ขับเคลื่อนด้วยคนขับในประเทศจีนและส่วนอื่น ๆ ของเอเชีย LM มีให้เลือกทั้ง 4 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง นับจากนั้น LM ได้รับเสียงคอบรับที่ดีจากลูกค้าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
- ความปรารถนาของตลาดสินค้าหรูหราทั่วโลกได้ทวีความรุนแรงและหลากหลายมากยิ่งขึ้น ในการตอบสนอง LM ใหม่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยประเมินคุณค่าและเหตุผลใหม่อีกครั้งว่าเป็น “Luxury Mover” (LM) ซึ่งเป็นที่มาของชื่อรุ่น
Lexus ได้รักษาจิตวิญญาณแห่งนวัตกรรมไว้ตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ในปี 1989 โดยนำเสนอคุณค่าใหม่ ผ่านการออกแบบ และ เทคโนโลยีที่ล้ำสัมย ด้วยความปรารถนาที่จะยกระดับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า บรนด์จึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วโลก
ขนาดตัวถัง
- ยาว 5125 มม. (+85 มม.)
- กว้าง 1890 มม. (+40 มม.)
- สูง 1955 มม. (+10 มม.)
- ระยะฐานล้อ 3000 มม.
สิ่งที่น่าสนใจของ LEXUS LM ใหม่
- ออกแบบด้วยแนวคิดหลักของ “Dignified Elegance” เพื่อสร้างความโดดเด่นในฐานะรถ MPV รุ่นเรือธงของ Lexus ด้วยการผสมผสานรูปลักษณ์ภายนอกที่หรูหราและมีเอกลักษณ์เข้ากับการตกแต่งภายในที่กว้างขวางและสะดวกสบาย
- ด้านหน้าต่อยอดจาก Spindle Body เอกลักษณ์ของเลกซัส เน้นทรงแกนที่อัดขึ้นรูปแข็งแรงไร้รอยต่อของตัวถังด้วยการลดช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนและตัวถังโดยรอบให้เหลือน้อยที่สุด การออกแบบนี้จะช่วยเพิ่มแอโรไดนามิก ประสิทธิภาพการระบายความร้อนได้ดีขึ้น
- การปรับปรุงความแข็งแกร่งหลัก โดยรวมแล้ว ความแข็งแกร่งในการบิดนั้นสูงกว่ารุ่นปัจจุบันถึง 50%
- การตกแต่งภายในจึงผสมผสานงานฝีมืออันประณีตโดยคำนึงถึงมนุษย์เป็นศูนย์กลาง จุดมุ่งหมายคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลายเหมือนห้องรับรองโดยใช้ประโยชน์จากความสูงภายในรถที่กว้างขวางและนำเสนอพื้นที่โปร่งสบายพร้อมการออกแบบที่ไร้รอยต่อซึ่งโดดเด่นด้วยเส้นแนวนอนและแนวตั้งที่สะอาดตา
- การตกแต่งภายในที่ทันสมัยและกว้างขวางผสมผสานแนวคิด Lexus Tazuna Cockpit เสริมด้วยแผงหน้าปัดและคอนโซลที่เรียบง่าย
- สีสันภายในห้องโดยสารชวนให้นึกถึงความรู้สึกร่วมสมัยที่ซับซ้อน สอดคล้องกับการแสดงออกถึงความหรูหราแบบใหม่ Solis White เน้นการใช้สีทองแดงบริเวณโดยรอบ และไล่สีดำ และ สีเทาทั่วบริเวณ ขอบประตูทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ดูสะอาดตายังตกแต่งด้วยลวดลายที่ละเอียดอ่อน
- ภายในห้องโดยสารมีไฟบรรยากาศ 64 สี รวมทั้งสีมาตรฐาน 14 สี กำหนดเอง 50 สี สามารถเลือกได้ตามความต้องการ แต่ละโทนสีมีธีมของตัวเอง ผู้โดยสารสามารถเลือกโทนสีที่เหมาะกับอารมณ์หรือวัตถุประสงค์ของพวกเขาได้เช่นกัน
- รุ่น 6 และ 7 ที่นั่งเน้นความรู้สึกที่กว้างขวางและทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม
- รุ่น 4 ที่นั่งยกระดับความเป็นส่วนตัวและความเป็นส่วนตัว โดยมีฉากกั้นพร้อมหน้าจอไวด์สกรีนขนาด 48 นิ้วที่ด้านหน้าเบาะหลัง ฉากกั้นกระจกที่ยืดหดได้เหนือจอแสดงผล
- เบาะนั่งด้านหน้าปรับการกระจายแรงกดบนเบาะรองนั่งให้เหมาะสมเพื่อโอบรับลำตัว โดยไม่คำนึงถึงแรง G ระหว่างการหมุน เป้าหมายคือการได้รับความสะดวกสบายในการนั่งที่ลดความเมื่อยล้าในการนั่งนานๆ
- สำหรับเบาะนั่งแถวที่ 2 มีการใช้วัสดุดูดซับแรงกระแทก 2 ชนิดที่มีคุณสมบัติต่างกันเพื่อห่อหุ้มและรองรับผู้โดยสารอย่างนุ่มนวล
- ในรุ่นที่นั่งแถวที่ 3 พนักพิงและเบาะรองนั่งหนาช่วยให้ผู้ใหญ่นั่งได้อย่างสบายมากขึ้น
- เป็นครั้งแรกที่ Lexus นำเสนอ “AVS Suspension with Frequency-Sensitive Piston Valve” ซึ่งรวม ช่วยในการดูดซับแรงกระแทกระหว่างการขับขี่ Adaptive Variable Suspension (AVS) และวาล์วลูกสูบที่ไวต่อความถี่ของโช้คอัพ ระบบนี้จะช่วยให้คุณภาพการขับขี่ได้ยอดเยี่ยมด้วยการลดการสั่สะเทือนอย่างละเอียดในหลายช่วงความถี่
- โหมดการขับขี่แบบ “Rear Comfort” ที่เน้นความสบายของเบาะหลัง
- แผงควบคุม Rear Climate Concierge เช่น เครื่องปรับอากาศ ตำแหน่งที่นั่ง ที่บังแดด และไฟส่องสว่าง นอกจากโหมดที่ตั้งไว้ล่วงหน้าสี่โหมดแล้ว ยังมีโหมดที่ปรับแต่งได้เพื่อให้เหมาะกับความชอบส่วนบุคคลของผู้โดยสารอีกด้วย
- กลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์ E-LATCH
เทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงป้องกันขั้นสูง Lexus Safety System+
- ระบบความปลอดภัยก่อนการชน Pre-collision System (PCS)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control (พร้อมฟังก์ชันติดตามทุกความเร็ว)
- ระบบเตือนออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ Lane Departure Alert (LDA)
- ระบบเตือนออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ LANE DEPARTURE ALERT
- ระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบเชิงรุก Proactive Driving Assist
- ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะ Adaptive High-beam System (AHS)
- ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ LEXUS TEAMMATE ADVANCE PARK
เบนซินไฮบริด 2.5 ลิตร
- เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2AR-FXE 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร 2,493 ซีซี. กำลังสูงสุด 152 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 206 นิวตันเมตร ที่ 4,400 – 4,800 รอบ/นาที มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว มอเตอร์ไฟฟ้าหน้า 143 แรงม้า 270 นิวตัน-เมตร / มอเตอร์หลัง 68 แรงม้า 139 นิวตัน-เมตร รวมกำลังมอเตอร์ไฟฟ้า 197 แรงม้า แบตเตอรี่ Nickel-hydrogen 6.5 Ah เกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four
- ระบบช่วงล่างลดการสั่นสะเทือนแบบ Swing Valve
และเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.4T ไฮบริดพร้อม eAxle
เครดิตภาพ kurdistan_automotive_blog
https://www.car250.com/oyota-alphard-vellfire-2024-jp.html