ลดราคาในไทย 293,000 บาท KIA Carniva เหลือ 1,599,000 – 2,349,000 บาท

ลดราคาในไทย 293,000 บาท KIA Carniva เหลือ 1,599,000 – 2,349,000 บาท
Spread the love

Advertisement

Advertisement

 

 

 

KIA Carnival ราคาอย่างเป็นทางการ (นำเข้า CBU จากมาเลเซีย)

  • 2.2 Diesel Turbo LX 1,892,000 เหลือ 1,599,000 บาท* (ลดลง 293,000 บาท)
  • 2.2 Diesel Turbo EX 2,234,000 เหลือ 1,999,000 บาท* (ลดลง 235,000 บาท)
  • 2.2 Diesel Turbo SXL  2,594,000 บาท เหลือ 2,349,000 บาท (ลดลง 245,000 บาท)

ข้อเสนอโปรโมชั่นนี้มาพร้อมส่วนลดและสิทธิประโยชน์หลากหลาย โดยมีการลดราคาสำหรับรุ่นรถต่าง ๆ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ดังนี้:

  • รุ่น LX: ลดราคา 293,000 บาท จาก 1,892,000 บาท เหลือ 1,599,000 บาท
  • รุ่น EX: ลดราคา จาก 2,234,000 บาท เหลือ 1,999,000 บาท
  • รุ่น SXL: ลดราคา 245,000 บาท จาก 2,594,000 บาท เหลือ 2,394,000 บาท

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น:

  • การรับประกันตัวรถ: นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน: นาน 5 ปี
  • ประกันภัยชั้น 1 ฟรี: นาน 1 ปี
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง: ฟรี นาน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

ข้อเสนอมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568.

ขนาดตัวถัง

  • ยาว 5,155 มม.
  • กว้าง 1,995 มม.
  • สูง 1,775 มม.
  • ระยะฐานล้อ 3,090 มม.
  • ระยะห่างพื้น 172 มม.
  • ขนาดถังน้ำมัน 72 ลิตร

เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ขนาด 2,151 ซีซี TCI-VGT 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ให้กำลัง 202 แรงม้าที่ 3800 รอบต่อนาที แรงบิตสูงสุด 441 นิวตัน-เมตร ที่ 1750 – 2750 รอบต่อนาที ความกว้างกระบอกสูง x ช่วงชัก 83×99.4 มม. กำลังอัด 16.0:1 ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีตพร้อมโหมด Manual

  • ระบบเบรกหน้า ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายอากาศ
  • ระบบเบรกหลัง ดิสก์เบรก
  • ระบบกันสะเทือนหน้า แมคเฟอร์สันตรัท คอยล์สปริง / โช้คอัพแก็ส พร้อมเหล็กกันโคลง
  • ระบบกันสะเทือนหลัง มัลติลิงค์ คอยล์ฺสปริง / โช้คอัพแก็สพร้อมเหล็กกันโคลง

การออกแบบภายนอก 

  • ไฟหน้า Projector Lens แบบ Dual LED
  • ระบบปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำ อัตโนมัติ
  • ไฟส่องสว่างมุมข้าง Escort Headlamp
  • ไฟ LED Daytime Running Lights
  • ไฟหรี่ แบบ LED
  • ไฟตัดหมอกคู่หน้า แบบ LED
  • ไฟตัดหมอกหลัง
  • ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ Rain Sensor
  • กระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยว LED ในตัว
  • กระจกมองข้าง ปรับและพับ ด้วยไฟฟ้า
  • กระจกมองขับ พับเก็บ-กางออก อัตโนมัติ
  • ไฟส่องสว่าง Pocket Light ที่มือเปิดประตูภายนอก
  • ไฟส่องสว่างที่พื้น บริเวณประตูสไลด์ซ้าย-ขวา
  • ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
  • แถบโครเมียมตกแต่งบริเวณเสา C-Pillar
  • ราวหลังคา
  • หลังคา Sunroof หน้า-หลัง เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
  • ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ยาง ขนาด 235/60 R18

การออกแบบภายในห้องโดยสาร

  • ภายในโทนดำ-น้ำตาล
  • กระจกหน้าต่างไฟฟ้า ขึ้น-ลง อัตโนมัติ ทั้ง 4 บาน
  • มาตรวัดแบบ Super Vision
  • หน้าจอแสดงข้อมูล MID แบบสี LCD TFT ขนาด 4.2 นิ้ว
  • ไฟอ่านแผนที่ แบบ LED
  • เกียร์แบบหมุน Dial Type – Shift by Wire
  • แป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift
  • ม่านบังแดดประตูสไลด์ซ้าย-ขวา
  • ม่านบังแดดหน้าต่างบานที่ 3 ซ้าย-ขวา
  • ที่วางแขน และ กล่องเก็บของคอนโซลกลาง
  • ไฟสร้างบรรยากาศ Mood Light ที่แผงประตูทั้ง 4 บาน
  • กระจกมองหลัง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
  • พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง
  • พวงมาลัย ปรับได้ 2 ทิศทาง ขึ้น-ลง
  • สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone
  • ระบบปรับอากาศ Cluster Ionizer
  • สวิตซ์ควบคุมระบบปรับอากาศด้านหลัง แบบแยกส่วน
  • ปลั๊กจ่ายไฟ 2 ตำแหน่ง
  • ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
  • ประตูสไลด์ เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ซ้าย-ขวา
  • ระบบป้องกันการหนีบ Protection JAM ที่ประตูสไลด์
  • ระบบ Smart Keyless Entry ที่ประตูสไลด์
  • ระบบ Smart Keyless Entry ที่ประตูคู่หน้า
  • ระบบ Smart Power Sliding Door ประตูสไลด์เปิดอัตโนมัติ เมื่ออยู่ใกล้ตัวรถ
  • ระบบ Away-Auto Close เปิด-ปิด ฝาท้ายอัตโนมัติ เมื่ออยู่ใกล้-ออกห่าง จากตัวรถ
  • ฝาท้าย เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
  • ระบบป้องกันการหนีบ Protection JAM ที่ฝาท้าย
  • กุญแจรีโมท สั่งเปิด-ปิด ประตูสไลด์ไฟฟ้า – ฝาท้ายไฟฟ้า

ระบบความบันเทิง

  • หน้าปัด Digital Supervision Cluster ขนาด 12.3 นิ้ว
  • หน้าจอระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 12.3 นิ้ว
  • รองรับ Apple CarPlay / Android Auto
  • ระบบนำทาง Navigation System
  • ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
  • ระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition
  • ลำโพง BOSE Surround Sound 12 ตำแหน่ง
  • ที่ชาร์จ USB 6 ตำแหน่ง
  • ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย

เบาะนั่ง 4 แถว 11 ่ที่นั่ง

  • เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง สีน้ำตาล Saddle Brown สลับด้วย สีดำ
  • เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • เบาะนั่งคนขับปรับดันหลังด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง Lumbar Support
  • ระบบบันทึกความจำตำแหน่ง Memory Seat เบาะนั่งคนขับ
  • ระบบบันทึกความจำตำแหน่ง กระจกมองข้าง
  • เบาะนั่งคู่หน้า พร้อมระบบอุ่น Heated Seat เป่าลม 
  • เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • สวิตซ์ปรับเลื่อนตำแหน่งเบาะผู้โดยสารตอนหน้า ด้านข้างเบาะ
  • จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX เบาะนั่งแถวที่ 2
  • เบาะนั่งแถวที่ 4 พับเก็บแบบ Pop-up Sinking เรียบไปกับพื้นรถ

ระบบความปลอดภัย

  • ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรก BAS
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESC
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beam
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control
    • พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go
  • ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ Blind-Spot View Monitor (BVM)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Blind Spot Collision Avoidance Assist
  • ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Collision Avoidance
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางช่องจราจร Lane Following Assist
  • ระบบช่วยควบคุมรถใหอยู่ในช่องจราจร Lane Keeping Assist
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Avoidance Assist
  • ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีผู้โดยสารอยู่ด้านหลัง Rear Occupant Alert
  • ระบบป้องกันการออกจากรถขณะมีรถวิ่งผ่าน Safe Exit Assist
  • ระบบล็อคประตูอัตโนมัติตามความเร็วรถที่ตั้งไว้ Auto Door Lock by Speed
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB
  • ฟังก์ชั่น Auto Brake Hold
  • ระบบล็อคพวงมาลัยไฟฟ้า
  • เซนเซอร์ปลดล็อคเมื่อเกิดการชน
  • ระบบกุญแจ Immobilizer
  • ระบบสัญญาณกันขโมย
  • กล้อง 360 องศา
  • เซนเซอร์หน้า-หลัง

 

 

(กรุงเทพฯ, 17 มีนาคม 2566) บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์เกีย ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เร่งขยายฐานกลุ่มลูกค้า ด้วยการเพิ่มรุ่นเริ่มต้นใหม่ของยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับพรีเมียม รุ่นเรือธงอย่าง “เกีย คาร์นิวัล” เจเนอเรชันที่ 4 โดยนำมาจัดแสดงให้ผู้สนใจสัมผัสอย่างใกล้ชิด  พร้อมข้อเสนอพิเศษภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ณ บูธเกีย B1 ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1 – 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 พร้อมเดินหน้ารุกตลาดอย่างต่อเนื่องด้วยการขยายเครือข่ายโชว์รูม และศูนย์บริการมาตรฐาน เพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับการบริการลูกค้าให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค

นางสาวฬสนันท์ ภูนิธิพันธุ์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “สำหรับเกีย คาร์นิวัล เจเนอเรชันที่ 4 เป็นรถยนต์รุ่นเรือธงของ เกีย ในประเทศไทย ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการและเริ่มส่งมอบตั้งแต่ช่วงประมาณต้นปี 2564 ด้วยดีไซน์ใหม่ที่โฉบเฉี่ยว ทันสมัย มีพื้นที่ภายในที่กว้างขวางและปรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ พร้อมด้วยระบบอำนวยความสะดวกที่ครบครัน จึงสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวยุคใหม่ พิสูจน์ได้จากยอดส่งมอบในประเทศไทยแล้วร่วม 3,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัว และในโอกาสนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างมากยิ่งขึ้น เกียได้มีการเพิ่มทางเลือกด้วยรุ่นเริ่มต้น เกีย คาร์นิวัล LX โดยมาพร้อมเครื่องยนต์สมาร์ทสตรีม ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.2 ลิตร มาตรฐานยูโร 5 ให้กำลังสูงสุด 202 แรงม้าที่ 3,800 รอบต่อนาที พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ที่ยังคงให้สมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่น ดีไซน์ภายนอกและภายในที่ทันสมัย พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครัน และมีรถพร้อมส่งมอบในทันทีสำหรับล็อตแรก”

สำหรับ เกีย คาร์นิวัล LX มาพร้อมการปรับฟีเจอร์ให้เหมาะสมและตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าในวงกว้างมากยิ่งขึ้น โดยจะยังคงสมรรถะการขับขี่ที่โดดเด่นของเกีย คาร์นิวัล ด้วยเครื่องยนต์สมาร์ทสตรีม ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 202 แรงม้าที่ 3,800 รอบต่อนาที ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ เบรกมือไฟฟ้าพร้อมด้วยระบบ Auto Brake Hold และโหมดการขับขี่ที่หลากหลายที่ช่วยเพิ่มความสนุกสนานและความสปอร์ตในการขับขี่ ดีไซน์ภายนอกมาพร้อมกับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ไฟหน้าแบบ LED และ Daytime Running Right ผสานดีไซน์ภายในที่หรูหราและทันสมัยด้วยหน้าจอ Infotainment ขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบวิทยุที่สามารถเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนผ่าน Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย อีกทั้งยังมีห้องโดยสารภายในที่กว้างขวางด้วยที่นั่งจำนวน 11 ที่นั่งที่สามารถปรับพับเบาะได้หลากหลายรูปแบบ สะดวกสบายด้วยที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless Charger) พร้อมที่ชาร์จ USB รอบคันจำนวน 6 จุด และกระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติ ทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน อาทิ ถุงลงนิรภัยและม่านถุงลมนิรภัยรอบคัน ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC) ระบบรักษาความเร็วคงที่ (Cruise Control) พร้อมด้วยกล้องมองหลัง (Rear View Monitor) และเซ็นเซอร์การถอยจอดด้านหลัง

 “นอกจากกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าของเกียแล้ว อีกหนึ่งเป้าหมายหลักของเราในปี 2566 คือ การเร่งขยายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการเกียมาตรฐานให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคมากยิ่งขึ้น รวมถึงเร่งปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของโชว์รูมและศูนย์บริการให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์แบรนด์และโลโก้ใหม่ของของ เกีย ประเทศเกาหลีใต้ ภายใต้แนวคิด The Opposite United  โดยในปัจจุบันเรามีโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ 18 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนจะขยายเพิ่มเติมอีก 2 แห่งภายในปีนี้ ได้แก่ เชียงใหม่ และ พิษณุโลก ทั้งนี้ เกียยังได้เพิ่มช่องทางการต่อต่อสื่อสาร ‘Kia Connect’ ซึ่งเป็นระบบจองคิวนัดหมายรับบริการที่ศูนย์เกียทุกแห่งในประเทศไทย ผ่าน Line Official Account : Kia Thailand เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในการรับบริการต่างๆ อาทิ การเช็กระยะ การแจ้งซ่อมทั่วไป การขอเคลมประกันภัย หรือเคลมวารันตี เป็นต้น  และยังเป็นช่องทางในการรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ ของเกียอีกด้วย โดยระบบ ‘Kia Connect’ พร้อมให้บริการกับลูกค้าเกียทุกท่านแล้ววันนี้” นางสาวฬสนันท์ กล่าวเพิ่มเติม 

 

รุ่น LX ราคา 1,892,000 บาท (NEW 2023)

  • Tiger Nose ใหม่ ที่สอดรับกับไฟหน้า LED แบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ พร้อมไฟ Daytime-Running Light ดีไซน์ใหม่ที่เชื่อมกันอย่างลงตัว เสริมภาพลักษณ์สมาร์ทให้ครอบครัว
  • เครื่องยนต์ Smartstream Diesel 2.2 ให้กำลังสูงสุด 202 แรงม้า มาตรฐาน EURO 5 ขับสนุก เคลื่อนตัวเต็มสูบ ประสิทธิภาพเกินร้อย
  • เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ 
  • เบรกมือไฟฟ้าเมื่อถึงที่หมาย หรือจอดรถทิ้งระยะ
  • ระบบ Auto-Brake Hold ที่ช่วยเบรกชั่วคราวให้ ขับได้ง่ายขึ้นเยอะ
  • ม่านถุงลมนิรภัยรอบคัน ที่จะช่วยเสริมความปลอดภัย ให้อุ่นใจในยามฉุกเฉิน
  • รองรับการเชื่อมต่อ Apple Carplay และ Android Auto แบบไร้สาย ด้วยการทำงานบนแผงหน้าจอ Infotainment ขนาด 8 นิ้ว 

รุ่น EX (MY22): ราคา 2,234,000 บาท 

  • มาพร้อมโลโก้ Kia ใหม่
  • มีฟีเจอร์ที่เพิ่มเติมจากรุ่น EX เดิม ดังนี้
    • ระบบที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless Charger)
    • ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (Rain Sensor)

รุ่น SXL (MY22): ราคา 2,594,000 บาท 

  • มาพร้อมโลโก้ Kia ใหม่
  • มีฟีเจอร์ที่เพิ่มเติมจากรุ่น SXL เดิม ดังนี้
    • ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (Rain Sensor)
    • หน้าจอแบบ Panoramic Display ที่มาพร้อมกับหน้าจอเรือนใหม่ดิจิตอล Digital Instrument Cluster ขนาด 12.3 นิ้ว
    • ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ Blind-Spot View Monitor (BVM)

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้