ลดราคา 235,000 บาท KIA Carnival EX 2.2 DIESEL TURBO เหลือเพยีง 1,999,000 บาท เบาะนั่ง 11 ที่นั่ง
KIA Carnival ราคาอย่างเป็นทางการ (นำเข้า CBU จากมาเลเซีย)
2.2 Diesel Turbo EX 2,234,000 1,999,000 บาท*
* แคมเปญ Motor Expo 2024 ส่วนลดสูงสุด 235,000 บาท จากราคา 2,234,000 เหลือ 1,999,000 บาท
ราคาจำหน่ายปกติ
- 2.2 Diesel Turbo LX 1,892,000 บาท
- 2.2 Diesel Turbo EX 2,234,000 บาท
- 2.2 Diesel Turbo SXL 2,594,000 บาท
พร้อมรับประกัน
- รับประกันตัวรถ Warranty นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance 5 ปี
ขนาดตัวถัง
- ยาว 5,155 มม.
- กว้าง 1,995 มม.
- สูง 1,775 มม.
- ระยะฐานล้อ 3,090 มม.
- ระยะห่างพื้น 172 มม.
- ขนาดถังน้ำมัน 72 ลิตร
เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ขนาด 2,151 ซีซี TCI-VGT 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ให้กำลัง 202 แรงม้าที่ 3800 รอบต่อนาที แรงบิตสูงสุด 441 นิวตัน-เมตร ที่ 1750 – 2750 รอบต่อนาที ความกว้างกระบอกสูง x ช่วงชัก 83×99.4 มม. กำลังอัด 16.0:1 ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีตพร้อมโหมด Manual
- ระบบเบรกหน้า ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายอากาศ
- ระบบเบรกหลัง ดิสก์เบรก
- ระบบกันสะเทือนหน้า แมคเฟอร์สันตรัท คอยล์สปริง / โช้คอัพแก็ส พร้อมเหล็กกันโคลง
- ระบบกันสะเทือนหลัง มัลติลิงค์ คอยล์ฺสปริง / โช้คอัพแก็สพร้อมเหล็กกันโคลง
การออกแบบภายนอก
- ไฟหน้า Projector Lens แบบ Dual LED
- ระบบปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำ อัตโนมัติ
- ไฟส่องสว่างมุมข้าง Escort Headlamp
- ไฟ LED Daytime Running Lights
- ไฟหรี่ แบบ LED
- ไฟตัดหมอกคู่หน้า แบบ LED
- ไฟตัดหมอกหลัง
- ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ Rain Sensor
- กระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยว LED ในตัว
- กระจกมองข้าง ปรับและพับ ด้วยไฟฟ้า
- กระจกมองขับ พับเก็บ-กางออก อัตโนมัติ
- ไฟส่องสว่าง Pocket Light ที่มือเปิดประตูภายนอก
- ไฟส่องสว่างที่พื้น บริเวณประตูสไลด์ซ้าย-ขวา
- ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
- แถบโครเมียมตกแต่งบริเวณเสา C-Pillar
- ราวหลังคา
- หลังคา Sunroof หน้า-หลัง เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
- ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ยาง ขนาด 235/60 R18
การออกแบบภายในห้องโดยสาร
- ภายในโทนดำ-น้ำตาล
- กระจกหน้าต่างไฟฟ้า ขึ้น-ลง อัตโนมัติ ทั้ง 4 บาน
- มาตรวัดแบบ Super Vision
- หน้าจอแสดงข้อมูล MID แบบสี LCD TFT ขนาด 4.2 นิ้ว
- ไฟอ่านแผนที่ แบบ LED
- เกียร์แบบหมุน Dial Type – Shift by Wire
- แป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift
- ม่านบังแดดประตูสไลด์ซ้าย-ขวา
- ม่านบังแดดหน้าต่างบานที่ 3 ซ้าย-ขวา
- ที่วางแขน และ กล่องเก็บของคอนโซลกลาง
- ไฟสร้างบรรยากาศ Mood Light ที่แผงประตูทั้ง 4 บาน
- กระจกมองหลัง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
- พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง
- พวงมาลัย ปรับได้ 2 ทิศทาง ขึ้น-ลง
- สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone
- ระบบปรับอากาศ Cluster Ionizer
- สวิตซ์ควบคุมระบบปรับอากาศด้านหลัง แบบแยกส่วน
- ปลั๊กจ่ายไฟ 2 ตำแหน่ง
- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
- ประตูสไลด์ เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ซ้าย-ขวา
- ระบบป้องกันการหนีบ Protection JAM ที่ประตูสไลด์
- ระบบ Smart Keyless Entry ที่ประตูสไลด์
- ระบบ Smart Keyless Entry ที่ประตูคู่หน้า
- ระบบ Smart Power Sliding Door ประตูสไลด์เปิดอัตโนมัติ เมื่ออยู่ใกล้ตัวรถ
- ระบบ Away-Auto Close เปิด-ปิด ฝาท้ายอัตโนมัติ เมื่ออยู่ใกล้-ออกห่าง จากตัวรถ
- ฝาท้าย เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
- ระบบป้องกันการหนีบ Protection JAM ที่ฝาท้าย
- กุญแจรีโมท สั่งเปิด-ปิด ประตูสไลด์ไฟฟ้า – ฝาท้ายไฟฟ้า
ระบบความบันเทิง
- หน้าปัด Digital Supervision Cluster ขนาด 12.3 นิ้ว
- หน้าจอระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 12.3 นิ้ว
- รองรับ Apple CarPlay / Android Auto
- ระบบนำทาง Navigation System
- ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
- ระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition
- ลำโพง BOSE Surround Sound 12 ตำแหน่ง
- ที่ชาร์จ USB 6 ตำแหน่ง
- ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย
เบาะนั่ง 4 แถว 11 ่ที่นั่ง
- เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง สีน้ำตาล Saddle Brown สลับด้วย สีดำ
- เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- เบาะนั่งคนขับปรับดันหลังด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง Lumbar Support
- ระบบบันทึกความจำตำแหน่ง Memory Seat เบาะนั่งคนขับ
- ระบบบันทึกความจำตำแหน่ง กระจกมองข้าง
- เบาะนั่งคู่หน้า พร้อมระบบอุ่น Heated Seat เป่าลม
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- สวิตซ์ปรับเลื่อนตำแหน่งเบาะผู้โดยสารตอนหน้า ด้านข้างเบาะ
- จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX เบาะนั่งแถวที่ 2
- เบาะนั่งแถวที่ 4 พับเก็บแบบ Pop-up Sinking เรียบไปกับพื้นรถ
ระบบความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบเสริมแรงเบรก BAS
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESC
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beam
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control
- พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ Blind-Spot View Monitor (BVM)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Blind Spot Collision Avoidance Assist
- ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Collision Avoidance
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางช่องจราจร Lane Following Assist
- ระบบช่วยควบคุมรถใหอยู่ในช่องจราจร Lane Keeping Assist
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Avoidance Assist
- ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีผู้โดยสารอยู่ด้านหลัง Rear Occupant Alert
- ระบบป้องกันการออกจากรถขณะมีรถวิ่งผ่าน Safe Exit Assist
- ระบบล็อคประตูอัตโนมัติตามความเร็วรถที่ตั้งไว้ Auto Door Lock by Speed
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB
- ฟังก์ชั่น Auto Brake Hold
- ระบบล็อคพวงมาลัยไฟฟ้า
- เซนเซอร์ปลดล็อคเมื่อเกิดการชน
- ระบบกุญแจ Immobilizer
- ระบบสัญญาณกันขโมย
- กล้อง 360 องศา
- เซนเซอร์หน้า-หลัง
(กรุงเทพฯ, 17 มีนาคม 2566) บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์เกีย ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เร่งขยายฐานกลุ่มลูกค้า ด้วยการเพิ่มรุ่นเริ่มต้นใหม่ของยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับพรีเมียม รุ่นเรือธงอย่าง “เกีย คาร์นิวัล” เจเนอเรชันที่ 4 โดยนำมาจัดแสดงให้ผู้สนใจสัมผัสอย่างใกล้ชิด พร้อมข้อเสนอพิเศษภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ณ บูธเกีย B1 ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1 – 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 พร้อมเดินหน้ารุกตลาดอย่างต่อเนื่องด้วยการขยายเครือข่ายโชว์รูม และศูนย์บริการมาตรฐาน เพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับการบริการลูกค้าให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค
นางสาวฬสนันท์ ภูนิธิพันธุ์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “สำหรับเกีย คาร์นิวัล เจเนอเรชันที่ 4 เป็นรถยนต์รุ่นเรือธงของ เกีย ในประเทศไทย ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการและเริ่มส่งมอบตั้งแต่ช่วงประมาณต้นปี 2564 ด้วยดีไซน์ใหม่ที่โฉบเฉี่ยว ทันสมัย มีพื้นที่ภายในที่กว้างขวางและปรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ พร้อมด้วยระบบอำนวยความสะดวกที่ครบครัน จึงสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวยุคใหม่ พิสูจน์ได้จากยอดส่งมอบในประเทศไทยแล้วร่วม 3,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัว และในโอกาสนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างมากยิ่งขึ้น เกียได้มีการเพิ่มทางเลือกด้วยรุ่นเริ่มต้น เกีย คาร์นิวัล LX โดยมาพร้อมเครื่องยนต์สมาร์ทสตรีม ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.2 ลิตร มาตรฐานยูโร 5 ให้กำลังสูงสุด 202 แรงม้าที่ 3,800 รอบต่อนาที พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ที่ยังคงให้สมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่น ดีไซน์ภายนอกและภายในที่ทันสมัย พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครัน และมีรถพร้อมส่งมอบในทันทีสำหรับล็อตแรก”
สำหรับ เกีย คาร์นิวัล LX มาพร้อมการปรับฟีเจอร์ให้เหมาะสมและตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าในวงกว้างมากยิ่งขึ้น โดยจะยังคงสมรรถะการขับขี่ที่โดดเด่นของเกีย คาร์นิวัล ด้วยเครื่องยนต์สมาร์ทสตรีม ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 202 แรงม้าที่ 3,800 รอบต่อนาที ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ เบรกมือไฟฟ้าพร้อมด้วยระบบ Auto Brake Hold และโหมดการขับขี่ที่หลากหลายที่ช่วยเพิ่มความสนุกสนานและความสปอร์ตในการขับขี่ ดีไซน์ภายนอกมาพร้อมกับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ไฟหน้าแบบ LED และ Daytime Running Right ผสานดีไซน์ภายในที่หรูหราและทันสมัยด้วยหน้าจอ Infotainment ขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบวิทยุที่สามารถเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนผ่าน Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย อีกทั้งยังมีห้องโดยสารภายในที่กว้างขวางด้วยที่นั่งจำนวน 11 ที่นั่งที่สามารถปรับพับเบาะได้หลากหลายรูปแบบ สะดวกสบายด้วยที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless Charger) พร้อมที่ชาร์จ USB รอบคันจำนวน 6 จุด และกระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติ ทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน อาทิ ถุงลงนิรภัยและม่านถุงลมนิรภัยรอบคัน ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC) ระบบรักษาความเร็วคงที่ (Cruise Control) พร้อมด้วยกล้องมองหลัง (Rear View Monitor) และเซ็นเซอร์การถอยจอดด้านหลัง
“นอกจากกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าของเกียแล้ว อีกหนึ่งเป้าหมายหลักของเราในปี 2566 คือ การเร่งขยายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการเกียมาตรฐานให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคมากยิ่งขึ้น รวมถึงเร่งปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของโชว์รูมและศูนย์บริการให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์แบรนด์และโลโก้ใหม่ของของ เกีย ประเทศเกาหลีใต้ ภายใต้แนวคิด The Opposite United โดยในปัจจุบันเรามีโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ 18 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนจะขยายเพิ่มเติมอีก 2 แห่งภายในปีนี้ ได้แก่ เชียงใหม่ และ พิษณุโลก ทั้งนี้ เกียยังได้เพิ่มช่องทางการต่อต่อสื่อสาร ‘Kia Connect’ ซึ่งเป็นระบบจองคิวนัดหมายรับบริการที่ศูนย์เกียทุกแห่งในประเทศไทย ผ่าน Line Official Account : Kia Thailand เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในการรับบริการต่างๆ อาทิ การเช็กระยะ การแจ้งซ่อมทั่วไป การขอเคลมประกันภัย หรือเคลมวารันตี เป็นต้น และยังเป็นช่องทางในการรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ ของเกียอีกด้วย โดยระบบ ‘Kia Connect’ พร้อมให้บริการกับลูกค้าเกียทุกท่านแล้ววันนี้” นางสาวฬสนันท์ กล่าวเพิ่มเติม
รุ่น LX ราคา 1,892,000 บาท (NEW 2023)
- Tiger Nose ใหม่ ที่สอดรับกับไฟหน้า LED แบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ พร้อมไฟ Daytime-Running Light ดีไซน์ใหม่ที่เชื่อมกันอย่างลงตัว เสริมภาพลักษณ์สมาร์ทให้ครอบครัว
- เครื่องยนต์ Smartstream Diesel 2.2 ให้กำลังสูงสุด 202 แรงม้า มาตรฐาน EURO 5 ขับสนุก เคลื่อนตัวเต็มสูบ ประสิทธิภาพเกินร้อย
- เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
- เบรกมือไฟฟ้าเมื่อถึงที่หมาย หรือจอดรถทิ้งระยะ
- ระบบ Auto-Brake Hold ที่ช่วยเบรกชั่วคราวให้ ขับได้ง่ายขึ้นเยอะ
- ม่านถุงลมนิรภัยรอบคัน ที่จะช่วยเสริมความปลอดภัย ให้อุ่นใจในยามฉุกเฉิน
- รองรับการเชื่อมต่อ Apple Carplay และ Android Auto แบบไร้สาย ด้วยการทำงานบนแผงหน้าจอ Infotainment ขนาด 8 นิ้ว
รุ่น EX (MY22): ราคา 2,234,000 บาท
- มาพร้อมโลโก้ Kia ใหม่
- มีฟีเจอร์ที่เพิ่มเติมจากรุ่น EX เดิม ดังนี้
- ระบบที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless Charger)
- ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (Rain Sensor)
รุ่น SXL (MY22): ราคา 2,594,000 บาท
- มาพร้อมโลโก้ Kia ใหม่
- มีฟีเจอร์ที่เพิ่มเติมจากรุ่น SXL เดิม ดังนี้
- ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (Rain Sensor)
- หน้าจอแบบ Panoramic Display ที่มาพร้อมกับหน้าจอเรือนใหม่ดิจิตอล Digital Instrument Cluster ขนาด 12.3 นิ้ว
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ Blind-Spot View Monitor (BVM)