Advertisement

Advertisement

KIA Sportage เพิ่มรุ่น แต่งพิเศษ SX และ X-Pro

KIA Sportage เพิ่มรุ่น แต่งพิเศษ SX และ X-Pro
Spread the love

Advertisement

Advertisement

KIA Sportage ยกระดับการตัดแต่งพิเศษ เพิ่มรุ่น X-Line , SX และ X-Pro ทั้งสองรุ่นใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมาตรฐาน

X-Line ขอบโครเมียมบริเวณกันชน เพิ่มสีดำเงาสำหรับฝาครอบกระจก แร็คหลังคา ขอบหน้าต่าง แร็คหลังคามีรางยกเพื่อติดตั้งอุปกรณ์เสริมได้ง่าย ล้ออัลลอย 19 นิ้ว

SX เน้นความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรต ติดตั้งล้อสีดำด้านขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง B.F. Goodrich all-terrain นอกจากนี้ยังมีไฟตัดหมอก LED กระจกบังลม หลังคาทูโทน โหมดการขับเคลื่อนหลากหลาย เช่น ปกติ , สปอร์ต สมาร์ท และ หิมะ

นอกจากนี้ยังมี X-Pro Prestige (คล้ายๆ X-Line แต่เน้นเพิ่มภายในมากกว่า)พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย เพิ่มไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED เบาะนั่งคู่หน้าแบบมีช่องระบายอากาศ และเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าแบบปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง

Kia Sportage ครอสโอเวอร์ที่ออกแบบใหม่ ภายใต้ปรัชญา“thought-provoking and daring” กระจังหน้าพร้อมตาข่ายสีดำ ขนาบข้างด้วยไฟส่องสว่างกลางวันทรงบูมเมอแรงเพื่อสร้างความโด่ดเด่น

ตัวถัง Sportage มีความสปอร์ตอย่างมาก เสา D อันโดดเด่น พร้อมหลังคาสีดำตัดกันอย่างลงตัว กันชนหลังออกแบบคล้ายๆ KIA EV6 ไฟท้ายลากเชื่อมกันสวยงาม ล้ออัลลอยหลากหลายขนาด 17-19 นิ้ว

นอกจากนี้ผู้ซื้อสามารถเลือกรุ่น Sportage X-Line ใหม่ได้เช่นกัน จะมาพร้อม กันชนหน้าปรับปรุงใหม่ ตกแต่งด้วยสีดำ และแร็คหลังคา และ ตกแต่งภายในแบบพิเศษ เช่น ขอบไม้โลหะสีดำ เบาะนั่งเขียว

การตกแต่งภายหรูหราอย่างมาก ช่องระบายอากาศแบบสามมิติ สวิตช์เกียร์คลาสสิก คอนโซลกลางออกแบบใหม่ พร้อมโหมดการขับขี่และปุ่มควบคุมสำหรับเบาะนั่งคู่หน้าแบบปรับความร้อน/ระบายอากาศ หน้าจอสัมผัสขนาด 12 นิ้วที่จับคู่กับแผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 12 นิ้ว คอนโซลกลางยังใหม่ ป้นหมุนเกียร์แบบ Shift-by-Wire

เครื่องยนต์ TGDI 4 สูบขนาด 1.6 ลิตร ให้กำลัง 177 แรงม้า และแรงบิด 264 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด

เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตรยังให้กำลัง 183 แรงม้า และแรงบิด 416 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีต

Kia กล่าวว่าเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล ยังคงจำหน่าย แต่อาจมีตัวเลือกขุมพลังอย่างไฮบริด และ ปลั๊กอินไฮบริด ในอนาคต

ติดตั้ง Terrain Mode ใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะปรับการตั้งค่าต่างๆ โดยอัตโนมัติตามสภาพต่างๆ เช่น หิมะ โคลน และทราย โหมดการขับขี่ Comfort, Eco, Sport และ Smart

ระบบกันสะเทือนแบบควบคุมด้วยไฟฟ้า (ECS) ที่ให้การควบคุมการหน่วงอย่างต่อเนื่องแบบเรียลไทม์ รุ่นไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริดจะมาพร้อมระบบ E-Handling

เทคโนโลยีการขับขี่และความปลอดภัยอัจฉริยะ (ADAS) ประกอบไปด้วย

  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า หรือ Forward Collision-Avoidance Assist (FCA)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ หรือ Lane Keeping Assist (LKA)
  • มอนิเตอร์ระบบตวรจจับจุดอับสายตาแบบใหม่ แจ้งเตือน และ แสดงภาพ BVM (Blind Spot View Monitor)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน หรือ Smart Cruise Control (SCC).
  • ใช้ความสามารถของเซนเซอร์และข้อมูลจากแผนที่ช่วยขับแบบอัตโนมัติบนไฮเวย์ Highway Driving Assistance (HDA)
  • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันทำงานร่วมกับระบบนำทาง Smart Cruise Control (NSCC)

นอกจากนี้ยังติดตั้ง ระบบช่วยเหลือในการจอดรถ Parking Assist ซึ่งติดตั้ง

  • ระบบถอยจอดรถอัตโนมัติด้วยกุญแจรีโมท RSPA (Remote Smart Parking Assist)
  • 12 เซ็นเซอร์ Ultrasonic และ กล้องรอบคันUltrasonic Surround View Monitor (SVM)
  • ระบบเตือนมุมอับสายตาขณะถอยรถ หรือ Rear Cross-Traffic Collision-Avoidance Assist (RCCA)
  • ระบบเตือนคนขับหากตรวจพบความเสี่ยง ขณะถอยหลัง แสดงผลผ่านมอนิเตอร์ หากไม่ปลอดภัย รถจะหยุดอัตโนมัติ PCA (Parking Collision-Avoidance Assist)

X-Line

SX

X-Pro Prestige

Motor1

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้