ทดสอบวิ่ง LDV/MG Terron 9 กระบะดีเซล และ ไฟฟ้าในออสเตรเลีย ก่อนเปิดตัวปีหน้า
MG ตั้งเป้าหมายใหม่ จะเป็นแบรนด์อันดับ 3 แรกในออสเตรเลียภายในสิ้นปี 2030 และการไปถึงจุดนั้นพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากยอดขายกระบะที่ต้องเพิ่มขึ้น
“ในออสเตรเลีย หากไม่มีรถกระบะ คุณจะไม่มีวันมีโอกาสได้อยู่ในสามอันดับแรก” Peter Ciao ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ MG Motor Australia กล่าว
Giles Belcher ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของบริษัท กล่าวเสริมว่า “แผนของเราคือติดท็อป 5 ภายในสิ้นปี 2027 และติดท็อป 3 ภายในสิ้นปี 2030 จะทำไม่ได้ถ้าไม่มีรถกระบะ ดังนั้นต้องเชื่อมจุดต่างๆ เข้าด้วยกัน”
คำพูดดังกล่าวของผู้บริการ ยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า จะมีกระบะรุ่นใหม่ ที่กำลังรอเปิดตัวในช่วง 1-2 ปีนี้ในออสเตรเลีย ปัจจุบัน MG จำหน่ายรถรุ่นT60ที่ผลิตโดย LDV ซึ่งเป็นอีกแบรนด์หนึ่งในเครือ SAIC Motor ในตลาดต่างๆ เช่น ประเทศไทย โดยใช้ชื่อรุ่นว่า Extender
“ทั้ง LDV และ MG ต่างก็เป็นของ SAIC Motor ดังนั้น เราจึงแบ่งปันทรัพยากรผลิตภัณฑ์จำนวนมาก 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ MG Ute จะเน้นที่วิธีการที่จะตอบโจทย์ MG ซึ่งเป็นลูกค้าเป้าหมาย” Ciao กล่าว
ยังไม่ชัดเจนว่ารถกระบะรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวนั้นจะเป็นรถใหม่หรือไม่ หรือเราคาดหวังว่าจะได้เห็นรถกระบะรุ่น LDV ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้ที่มีการปรับแต่งใหม่เล็กน้อย
Isuzu D-Max (31,202), Mazda BT-50 (17,526) และ Mitsubishi Triton (16,641) Kia เข้าสู่กลุ่มรถกระบะเป็นครั้งแรกในปี 2025 ด้วย Tasmanและคาดว่าจะขายได้ประมาณ 20,000 คันในปีแรกที่เปิดจำหน่าย
มีผู้เล่นชาวจีนหลายรายในกลุ่มนี้แล้ว โดย GWM ขายCannon Ute ได้ 9,616 คัน ในปี 2023 ในขณะที่ LDV ขาย T60 ได้ 9,106 คัน
Brand | October 2024 sales | Change YoY |
---|---|---|
Toyota | 18,471 | -9.0% |
Ford | 8581 | -0.3% |
Mazda | 7656 | -17.8% |
Hyundai | 7086 | +7.0% |
Kia | 6602 | +16.9% |
Mitsubishi | 5590 | -12.6% |
MG | 5206 | -14.7% |
Isuzu Ute | 3651 | -12.2% |
GWM | 3350 | +12.9% |
Volkswagen | 3279 | -24.8% |
Subaru | 3116 | -13.5% |
Nissan | 3050 | -18.8% |
Mercedes-Benz | 2237 | +11.1% |
BMW | 2017 | -18.3% |
Suzuki | 1752 | +42.3% |
BYD | 1732 | +71.1% |
Tesla | 1464 | -26.4% |
LDV Terron 9
รถยนต์รุ่นนี้จะมาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าภายใต้ ชื่อรุ่น eTerron 9 โดยทั้งสองรุ่นจะเปิดตัวพร้อมตราสัญลักษณ์ LDV ในปี 2025 ตามเอกสารการอนุมัติของรัฐบาล Terron 9 จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 4 สูบขนาด 2.5 ลิตรที่ให้กำลัง 219 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีต มีความสามารถในการลากจูงแบบเบรกได้สูงสุด 3,500 กิโลกรัม
ขนาดตัวถัง ยาว 5,500 มม. กว้าง 1,997 มม. สูง 1,860 มม. ระยะห่างจากพื้นถึงตัวรถอยู่ที่ 220 มม. ซึ่งถือว่าใหญ่กว่ารุ่น T60 ในปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัด และยังเทียบชั้นกับ Ford Ranger ในแง่ของขนาดโดยรวมได้อีกด้วย รุ่นดีเซลและไฟฟ้ามีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น โดยกระจังหน้าแบบดั้งเดิมและไฟทรงตัว T บนรุ่นดีเซล ในขณะที่รุ่น EV มีไฟหน้าแบบปิดและไฟทรงตัว C
การออกแบบของ LDV ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดของ Maxus GST ซึ่งเห็นได้จากตัวถังแบบ Hummer และล้ออัลลอยด์ขนาดใหญ่ 18 หรือ 20 นิ้ว
MG MAXUS eTerron 9
LDV Australia ยืนยันเตรียมเปิดตัว eTerron 9 กระบะไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่จะวางจำหน่ายในโชว์รูมในพื้นที่ โดยเป็นรุ่นต่อจาก eT60 โดยจะเปิดตัวในปีหน้า ซึ่งสอดคล้องกับรายงานก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าจะมาถึงในไตรมาสแรก (มกราคมถึงมีนาคม)
- เeTerron 9 รถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้าล้วนที่ใช้แพลตฟอร์ม GST ได้รับการเปิดเผยที่งาน Hannover Auto Show ในเยอรมนี
eTerron 9 ได้รับการออกแบบมาให้เป็นจุดเริ่มต้นของการรุกครั้งใหญ่ของ Maxus “ยุโรปมีบทบาทสำคัญต่อ Maxus และ SAIC Group หลังจากประสบความสำเร็จในการเริ่มต้นในภูมิภาคที่มีความต้องการสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตอนนี้เรากำลังเริ่มรุก เราต้องการขยายบทบาทผู้นำของเราในด้านการเดินทางที่ยั่งยืนและปลอดการปล่อยมลพิษด้วยรุ่นใหม่ๆ” Utz Rachner ผู้จัดการประจำประเทศเยอรมนีของ SAIC Maxus Europe อธิบาย “รถกระบะ eTerron 9 รุ่นใหม่ของเรา ซึ่งเรากำลังนำเสนอต่อสาธารณชนทั่วโลกเป็นครั้งแรกที่เมืองฮันโนเวอร์ ถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของรุ่นนี้”
มอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวรสองตัว
- มอเตอร์ไฟฟ้าหน้า 167 แรงม้า และ มอเตอร์ไฟฟ้าหลัง ให้กำลัง 268 แรงม้า
- รวมกำลัง 435 แรงม้า
- แบตเตอรี่ LFP 102kWh วิ่งได้ 430 กม./ชาร์จ WLTP
- สามารถชาร์จจาก 20 – 80 % ภายใน40 นาทีด้วยกำลังไฟฟ้าสูงสุด 115 กิโลวัตต์
- เร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 5.8 วินาที
- รถบรรทุกไฟฟ้ายังมีคุณสมบัติ Vehicle-to-load (V2L) ซึ่งทำให้เจ้าของสามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์และเครื่องมือภายนอกได้ โดยมีซ็อกเก็ตขนาด 2.2 กิโลวัตต์หลายตัวทั่วทั้งรถและการเชื่อมต่อภายนอกขนาด 6.6 กิโลวัตต์
- ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4X4
- ระบบ All-Terrain System (ATS) ประกอบด้วยโหมดการขับขี่ที่ตั้งไว้ล่วงหน้า 6 โหมด สามารถตั้งค่ารูปแบบการขับขี่ได้กว่า 400 แบบ
- สามารถลากจูงน้ำหนักได้ถึง 3,500 กิโลกรัม
Maxus กล่าวว่า “ตัวถังแบบกึ่งโมโนค็อก” และโครงสร้างเหล็ก “ที่มีความแข็งแรงสูงพิเศษเกรดรือดำน้ำ” ของ eTerron 9 ช่วยให้มั่นใจว่าจะผ่านมาตรฐานการรับรองความปลอดภัยของ Euro NCAP สำหรับการให้คะแนนระดับ 5 ดาว อย่างไรก็ตาม ยังไม่ผ่านการทดสอบโดยหน่วยงานในเครือของ ANCAP
eTerron 9 มีระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบมัลติลิงค์ ระบบกันสะเทือนถุงลมมาตรฐานช่วยให้คุณลดพื้นที่บรรทุกลงได้ 60 มม. ในโหมด Easy Load
มีโหมดการขับขี่ที่เปลี่ยนแปลงได้ 6 โหมด นอกจากนี้ยังมีโหมดกำหนดเองที่ให้ผู้ขับขี่เลือกความสูงของช่วงล่างถุงลม พวงมาลัย การฟื้นพลังงาน การควบคุมเสถียรภาพ และการตั้งค่าระบบส่งกำลังได้ตามต้องการ
แม้ว่าความจุบรรทุกจะลดลงจาก 1,000 กก. ของ eT60 เหลือ 620 กก. แต่ eTerron 9 สามารถลากจูงน้ำหนักได้สูงสุด 3,500 กก. เมื่อใช้เบรก ซึ่งเพิ่มขึ้นจากขีดจำกัด 1,000 กก. ของรุ่นก่อน
eTerron 9 มีความยาว 5.5 เมตร โดยเอกสารข้อมูลของรัฐบาลจีนก่อนหน้านี้ระบุว่าจะมีความกว้าง 2,005 มม. สูง 1,860 มม. และมีระยะฐานล้อ 3,300 มม.
eTERRON 9 ออกแบบภายใต้แนวคิด “New Electrified Mecha” ที่สร้างเส้นสายที่แข็งแกร่งและทรงพลังผ่านการผสมผสานของรูปทรงเรขาคณิตพื้นฐาน ถือเป็นเพื่อนคู่ใจที่สมบูรณ์แบบสำหรับลูกค้าเชิงพาณิชย์และบุคคลทั่วไปที่มีไลฟ์สไตล์ที่กระตือรือร้น
รถกระบะคันนี้มีอุปกรณ์เพิ่มเติมมากมายเพื่อความสะดวกสบาย เช่น ช่องเก็บของท้ายรถแบบ ‘frunk’ ขนาด 236 ลิตร และ ‘ประตูท้ายรถ’ แบบไฟฟ้าที่แยกห้องโดยสารออกจากถังเก็บสัมภาระ ซึ่งช่องเก็บสัมภาระแบบไฟฟ้านี้มีพื้นที่บรรทุกสัมภาระยาวถึง 2.4 เมตร ช่วยให้เจ้าของสามารถบรรทุกสิ่งของที่ยาวขึ้นได้ ทั้งฝากระโปรงหน้าและฝาท้ายมีระบบช่วยปรับไฟฟ้า
ภายใน eTerron 9 มาพร้อมกับเบาะหนัง เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมระบบระบายอากาศและระบบนวด ส่วนเบาะนั่งด้านหน้าทั้งสองข้างสามารถพับได้เพื่อสร้าง “พื้นที่นอนที่เกือบจะราบเรียบ” ที่มีความยาว 170 ซม.
ปัจจุบันยอดจำหน่ายรถกระบะ SAIC Maxus ในต่างประเทศมีมากกว่า 180,000 คัน โดยยอดขายในตลาดรถกระบะที่พัฒนาแล้ว เช่น ยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอเมริกา มีสัดส่วนมากกว่า 90%
Xie Jiayue รองผู้จัดการทั่วไปของ SAIC Maxus กล่าวในงานแถลงข่าวว่า “ในปี 2025 เราจะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเราต่อไป และเพิ่มรถยนต์รุ่นใหม่อีก 10 รุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นจะยังคงรักษามาตรฐานด้านประสิทธิภาพ ความสะดวกสบาย และความทนทานอันเป็นเลิศเช่นเดียวกับแบรนด์ของเรา เป็นที่รู้จักสำหรับ MAXUS มุ่งมั่นที่จะให้บริการและผลิตภัณฑ์แก่ลูกค้าชาวยุโรปมาโดยตลอด เรามุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์และรถกระบะชั้นนำของโลก”