เปิดตัว Lexus LX600 ราคา 3.15 – 4.10 ล้านบาท ใหม่ V6 เทอร์โบคู่ 3.5 ลิตร 409 แรงม้า
Lexus LX เจนเนอเรชั่นที่ 4 เปิดราคาออกมาอย่างเป็นทางการในราคาจำหน่าย 95,000 – 126,000$ หรือประมาณ 3.15 – 4.10 ล้านบาท
LX เริ่มต้นด้วย LX 600 มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบสี่ล้อ Lexus Safety System + 2.5 เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
LX 600 Premium เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งระดับ และสามารถเป็นของคุณได้ในราคา 95,000 ดอลลาร์ รุ่นพรีเมียมเพิ่มที่นั่งแถวพิเศษ การทำงานของประตูท้ายแบบแฮนด์ฟรี และระบบกันสะเทือนแบบปรับได้
รุ่นสเป็คกลางของ LX คือรุ่น F Sport Handling ด้วยราคา $101,000 รุ่นนี้มีการตกแต่งที่มีเอกลักษณ์ พร้อมด้วยการปรับแต่งช่วงล่างที่เฉพาะสำหรับรุ่นนี้ รวมถึงการตั้งค่าระบบกันสะเทือนของ F Sport เฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป แดมเปอร์และเหล็กกันโคลงด้านหลัง
รุ่น LX Luxury ได้ โมเดลดังกล่าวมีราคาเริ่มต้นที่ 103,000 เหรียญสหรัฐฯ และตกแต่งด้วยหนังกึ่งอนิลีน ล้ออัลลอยด์ขนาด 22 นิ้ว และระบบเสียงรอบทิศทาง Mark Levinson ลำโพง 25 ตัว เบาะนั่งแถวที่สองระบายอากาศ และเบาะแถวที่สามพับไฟฟ้า
รุ่นท็อปคือ LX 600 Ultra Luxury ที่ 126,000 ดอลลาร์w ไม่มีที่นั่งแถวที่สาม และ ที่นั่งแถวที่สอง แทนด้วยเก้าอี้ของกัปตัน คอนโซลกลางด้านหลังพร้อมโต๊ะแบบเปิดออก ระบบความบันเทิงด้านหลัง และ เครื่องนวดเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ภายนอกได้รับการออกแบบหรูหรา กระจังหน้าที่โด่ดเด่น เหมือนแท่นลอย 7 ชั้น ไฟหน้าแบบ LED เรียวบางขึ้น พร้อมไฟส่องสว่างกลางวันแบบ 3 มิติ
กระจกมองข้างเสา A ถูกดึงออกไปข้างหลัง เพื่อเพิ่มการมองเห็นที่ชัดจเนมากขึ้น ล้ออัลลอยหลากหลายขนาดให้เลือกทั้ง 18 , 20 และ 22 นิ้ว ด้านท้ายพร้อมโลโก้ L แทนที่คำว่า Lexus ไฟท้ายแบบ LED ลากเชื่อมทั้งสองฝั่ง
Lexus ไม่ได้เปิดเผยขนาดโดยละเอียด แต่กล่าวว่ารุ่นดังกล่าวยังคงมีระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,850 มม.
ห้องโดยสารที่ทันสมัยกว่า พร้อมการเย็บและเบาะหนังระดับพรีเมียม ตกแต่งขอบไม้ และ โลหะ แผงหน้าปัดดิจิตอล ระบบเสียงระดับพรีเมียม ลำโพง 25 ตัวของ Mark Levinson
ระบบ Lexus Interface ใหม่ทั้งหมด ซึ่งเพิ่งเปิดตัวใน NX ใหม่ พร้อมจอแสดงผลที่แตกต่าง 7 – 12.3 นิ้ว พร้อมผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะ และ ระบบนำทางบนคลาวด์ของ Google อัปเดตแบบ over-the-air
Lexus ไม่ได้เจาะจงรายละเอียดมากนัก บริษัท ยืนยันว่า LX600 จะมีให้เลือกในรุ่น Standard, Premium, Luxury, Ultra Luxury และ F Sport
เริ่มจากรุ่น F Sport โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบตาข่ายพร้อมขอบโครเมียมสีดำ ล้ออลูมิเนียมฟอร์จขนาด 22 นิ้ว เบาะนั่งแบบสปอร์ต พวงมาลัยสปอร์ตยึกเกาะดีขึ้น
F Sport มาพร้อมแดมเปอร์ที่ปรับจูนมาเป็นพิเศษ รวมถึงระบบกันสะเทือนแบบแปรผันที่ปรับปรุงใหม่ ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า ประกอบเข้าด้วยกันด้วยเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป Torsen
LX 600 Ultra Luxury เน้นความพรีเมียม มากพร้อมเบาะนั่งด้านหลังสองที่นั่งแยกกันพร้อมพนักพิงศีรษะแบบโค้ง พนักพิง และเบาะรองนั่งที่โอบรอบศีรษะ สะโพก และลำตัวส่วนล่างอย่างนุ่มนวล เพื่อความสบาย
เบาะนั่งด้านหลังแยกจากกันด้วยคอนโซลกว้างซึ่งมีที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย ที่วางแก้วแบบมีฝาปิด และกล่องเก็บของขนาดใหญ่พร้อมแหล่งจ่ายไฟ DC รวมถึงพอร์ต USB คอนโซลยังมีจอแสดงผลขนาดเล็กที่สามารถใช้ควบคุมเบาะนั่งและระบบควบคุมสภาพอากาศได้
Ultra Luxury มาพร้อมกับช่องระบายอากาศบนเพดานเหนือศีรษะแบบพิเศษ สามารถเพิ่มลมร้อน และ ความเย็น รวมทั้งติดตั้งม่านบังแดดด้านหลัง และ ไฟอ่านหนังสือ สามารถเลื่อนเบาะผู้โดยสารด้านหน้าข้างข้างหน้าอีก ลดพนักพิงศีรษะ จากนั้นเอียงเบาะ จะเพิ่มพื้นที่วางขา 43 นิ้ว
ระบบความปลอดภัย Lexus Safety System+ 2.5 เช่น
- ระบบควบคุมระยะห่างและความเร็วอัตโนมัติ DRCC (Dynamic Radar Cruise Control)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมเบรกอัตโนมัติ Pre-Collision System (PCS)
- ระบบตรวจจับรถออกนอกเลน Lane-Departure System
- ระบบช่วยติดตามเลน Lane Centering
- ระบบช่วยเบี่ยงรถจากอุปสรรค Emergency Steering Assist
- เซนเซอร์รอบคันพร้อมเบรกอัตโนมัติเมื่อเจอสิ่งกีดขวาง
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติด้วยเรดาร์ทุกความเร็ว
- ระบบไฟสูงอัจฉริยะ
- ระบบช่วยบังคับเลี้ยวฉุกเฉิน
เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ 3.5 ลิตร ใหม่ ที่ให้กำลัง 409 แรงม้า แรงบิด 649 นิวตันเมตร Lexus ยังระบุด้วยว่าเครื่องยนต์สามารถรักษาแรงบิดสูงสุดไว้ได้ประมาณ 3,600 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดใหม่
LX600 ใหม่ มีน้ำหนักตัวถังลดลงจากรุ่นก่อน 200 กก. ด้วยประตูอลูมิเนียมและแพลตฟอร์มตัวถังบนเฟรมใหม่ทั้งหมด พร้อมความแข็งแกร่งขึ้น 20%
ระบบกันสะเทือนแบบปีกนกคู่ทรงสูงพร้อมคอยล์สปริงที่ได้รับการปรับแต่งมาไว้ที่ด้านหน้า ขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังแบบโฟร์ลิงค์ ได้รับการปรับปรุงเพื่อเพิ่มเสถียรภาพ และ ความสบายในการขับขี่
LX มาพร้อมระบบกันสะเทือนแบบปรับได้ ระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้าแบบใหม่ ระบบเบรกที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ นอกจากนี้ยังมีระบบ Active Height Control ที่ได้รับการปรับปรุงพร้อม ระบบปรับความสูงของรถโดยอัตโนมัติ Low, Normal, Hi1 และ Hi2
LX600 ตอบโจทย์การขับขี่ที่หลากหลาย สามารถขับขี่ในแบบออฟโรตได้สบายๆ รวมทั้งปีนเขา 45 องศา ลุยน้ำลึก 700 มม. พร้อมโหมดต่างๆที่หลากหลาย เช่น Auto, Dirt, Sand, Mud, Deep Snow and Rock modes. Auto mode
อุปกรณ์ออฟโรดอื่นๆ ได้แก่ Crawl Control และ Downhill Assist Control รวมถึง Multi-Terrain Monitor หลังใช้กล้องสี่ตัว – ด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง – เพื่อแสดงสภาพแวดล้อมรอบคัน
ปัจจุบัน LX600 ยังไม่เปิดเผยราคาอย่างเป็นทางการ แต่พร้อมลงตลาดในช่วงไตรมาสแรกปี 2022 สหรัฐอเมริกา