Maruti Suzuki อาจยืมเทคโนโลยี e-POWER ของ NISSAN มาใช้ในอินเดีย

Maruti Suzuki อาจยืมเทคโนโลยี e-POWER ของ NISSAN มาใช้ในอินเดีย
Spread the love

Advertisement

Advertisement

สรุป

  • Nissan เจรจากับ Honda เรื่องควบรวมแต่ล่ม เพราะ Honda อยากกลืน Nissan เป็นบริษัทลูก
  • Nissan เลยทำแผนฟื้นฟูใหม่ เน้นรถเฉพาะภูมิภาค เช่น SUV และ MPV ใหม่ในอินเดีย
  • Maruti Suzuki กำลังพัฒนาระบบ ไฮบริดซีรีส์ เอง แต่มีอุปสรรค
  • Nissan มีเทคโนโลยี e-POWER ไฮบริดซีรีส์ที่พร้อมใช้ และอาจเสนอให้ Maruti ใช้
  • ถ้าความร่วมมือนี้เกิดขึ้น จะได้ระบบไฮบริดประหยัดสุดๆ และ Nissan ก็ได้โอกาสฟื้นตัว
  • ทั้งสองเคยร่วมมือกันมาแล้วในอดีต เช่น Maruti A-Star / Nissan Pixo

ช่วงหลังๆ มานี้ Nissan กำลังเผชิญวิกฤตทั่วโลก รวมถึงในอินเดียด้วย เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา Nissan ประกาศว่าอยู่ระหว่างเจรจากับ Honda เพื่อควบรวมกิจการระดับโลก แต่ต้นปีนี้เอง ข่าวออกมาว่าเจรจาล้มเหลว เพราะ Honda ต้องการกลืน Nissan เป็นบริษัทลูก มากกว่าการร่วมมือแบบพาร์ตเนอร์ ซึ่ง Nissan มองว่า “เกินไปหน่อย” จนต้องขอยกเลิกดีล

หลังจากนั้น Nissan จึงประกาศแผนฟื้นฟูใหม่ เน้นไปที่กลยุทธ์สินค้าเฉพาะแต่ละภูมิภาค โดยในอินเดียจะมี SUV ใหม่ 2 รุ่น และ MPV ขนาดกะทัดรัดที่ผลิตในประเทศ และมีการขายหุ้นทั้งหมดในโรงงานที่ทำร่วมกับ Renault ที่ Chennai ทิ้งไป แต่ยังคงให้ Renault รับจ้างผลิตรถยนต์ต่อให้ตามสัญญา

Ivan Espinosa ซีอีโอคนใหม่ของ Nissan ย้ำว่ายังเปิดกว้างเรื่องหาพาร์ตเนอร์ใหม่ และนั่นแหละที่อินเดียอาจกลายเป็น “ไม้ช่วยชีวิต” ชิ้นเล็กๆ ให้กับ Nissan

Maruti Suzuki กำลังพัฒนาระบบไฮบริดแบบซีรีส์ (range extender) สำหรับรถตัวเอง และถ้าใครตามข่าวจะรู้ว่ารอบนี้ Maruti ทำเองล้วนๆ ไม่ได้พึ่ง Toyota (แม้จะมีแชร์เทคโนโลยีไฮบริดแบบเต็มระบบกับ Toyota อยู่แล้วก็ตาม) แต่ข่าววงในบอกว่าตอนนี้โปรเจกต์มีอุปสรรคอยู่ และนี่เองที่ Nissan อาจโดดเข้ามาช่วยได้

ในขณะที่แบรนด์ส่วนใหญ่เมินระบบ range extender แต่ Nissan กลับเดินหน้าเต็มตัวกับเทคโนโลยีนี้มานาน โดยใช้ชื่อ “e-POWER” และเพิ่งเปิดตัวเวอร์ชันเจนเนอเรชัน 3 ไปเมื่อเดือนที่แล้ว ถ้า Maruti จะหาใครสักรายที่มีเทคโนโลยีไฮบริดแบบซีรีส์พร้อมใช้ Nissan คือชื่อที่ใช่

แน่นอน มันยังมีอีกหลายเรื่องต้องคิด เช่น จะคุ้มไหมถ้าเพิ่มขุมพลังใหม่เข้าไปในไลน์อัพของ Maruti? แต่ถ้าพูดถึงแบรนด์ที่มีวอลุ่มยอดขายมหาศาลจนทำให้คุ้มค่าได้จริงๆ Maruti คือหนึ่งเดียวที่เหมาะสุด (อย่าลืมว่า Grand Vitara ก็ทำสำเร็จมาแล้ว ใช้เครื่อง Suzuki กับ Toyota ควบคู่กัน)

ในแง่เทคนิคและต้นทุนการเอาระบบ e-POWER มาผสานกับตัวรถ Maruti ก็ต้องศึกษากันละเอียด แต่ถ้ามีใครควบคุมต้นทุนได้อยู่หมัด แน่นอนว่าคือ Maruti Suzuki นั่นเอง

ท้ายที่สุด มันก็ขึ้นอยู่กับว่า Maruti พัฒนาไฮบริดของตัวเองไปไกลแค่ไหนแล้ว ถ้าเกือบเสร็จสมบูรณ์ การดึง Nissan เข้ามาก็อาจไม่จำเป็น แต่ถ้ายังพอมีช่องว่าง ความร่วมมือระหว่าง Suzuki กับ Nissan ในครั้งนี้จะน่าสนใจมาก เพราะนอกจากจะได้เทคโนโลยี e-POWER ที่ประหยัดโคตรๆ มาใส่ในรถ Maruti แล้ว ยังเหมือน Nissan ได้ช่วยคนอื่นและช่วยตัวเองไปพร้อมๆ กันอีกด้วย

อย่าลืม ทั้งคู่เคยทำงานร่วมกันมาแล้วในอดีต เช่นโปรเจกต์รถ Maruti A-Star / Nissan Pixo เพราะฉะนั้น ถ้ามีการรีเทิร์นรอบนี้จริง ก็น่าจะเป็น “รักซึมลึก” อีกคู่ของวงการรถยนต์แน่ๆ

autocarindia

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้