Advertisement

Advertisement

ราคาเพิ่ม 20,000 – 130,000 บาท MAZDA CX-8 Minorchange ปรับโฉมใหม่ ในไทย

ราคาเพิ่ม 20,000 – 130,000 บาท MAZDA CX-8 Minorchange ปรับโฉมใหม่ ในไทย
Spread the love

Advertisement

Advertisement

มาสด้า มอเตอร์ ประเทศไทย เตรียมเปิดตัว CX-8 รุ่นปรับโฉมใหม่ ไมเนอร์เช้นจ์ ในวันที่ 25 กรกฏาคม 2022 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป คาดว่ามาในโฉมเวอร์ชั่นญี่ปุ่นที่เพิ่งเปิดตัว

Mazda CX-8 Minorchange ราคา

เบนซิน

  • 2.5 S 7 ที่นั่ง 1,549,000 บาท (เพิ่ม 50,000 บาท)
  • 2.5 SP 7 ที่นั่ง  1,619,000 บาท (เพิ่ม 20,000 บาท)
  • 2.5 SP Exclusive 6 ที่นั่ง 1,699,000 บาท (เพิ่ม 60,000 บาท)

ดีเซล

  • 2.2 XDL 7 ที่นั่ง 1,849,000 บาท (7 Seats) (เพิ่ม 50,000 บาท)
  • 2.2 XDL Exclusive 4WD 6 ที่นั่ง 2,199,000 บาท (เพิ่ม 130,000 บาท)

NEW MAZDA CX-8 มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี โดยสีใหม่ล่าสุด คือ สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz) และสีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray), และยังมี สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal)**, สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray)**, สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black), สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู (Deep Crystal Blue) และ สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl)**

**สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล เพิ่มราคา 10,000 บาท  

  สีเทา แมชชีน เกรย์ เพิ่มราคา 15,000 บาท

  สีแดง โซล เรด คริสตัล เพิ่มราคา 17,000 บาท

ตารางผ่อนดาวน์

สิ่งที่น่าสนใจ ราคาเพิ่ม 20,000 – 130,000 บาท

  • มีการปรับกระจังหน้าใหม่
  • เสริมแถบโครเมียมกันชนล่าง
  • ล้ออัลลอยใหม่ 19 นิ้ว
  • ปลายท่อไอเสียสแตนเลส
  • ตัวถังสีเบจ Platinum Quartz และ สีเทานม Polymetal Grey
  • ฝาท้ายไฟฟ้าพร้อมระบบ Hands-Free Tailgate เตะเปิด-ปิด
  • ภายในตกแต่งเพิ่มวัสดุตกแต่ง Metal Wood และ Warm Silver
  • ภายในห้องโดยสารเบาะนั่ง 3 แถว 6-7 ที่นั่ง ให้เลือก
  • เพิ่มแท่นชาร์จไร้สาย Wireless Charger
  • หน้าจอสัมผัส Touchscreen ขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมกับระบบเชื่อมต่อ Mazda Connect ใหม่
  • หลังคา Sunroof เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Mazda Radar Cruise Control เป็นแบบ Stop & Go
  • ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง เป็น G-Vectoring Control Plus (GVC Plus)

เครื่องยนต์

  • เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G แบบ 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร 2,488 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 89.0 x 100.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 13.0 : 1 ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 252 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมโหมดแมนนวล Activematic ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหน้า 13.2 กม./ลิตร
  • เครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D แบบ 4 สูบ ขนาด 2.2 ลิตร 2,188 ซีซี. เทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 86.0 x 94.2 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 14.4 : 1 ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (PS) ที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมโหมดแมนนวล Activematic ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราสิ้นเปลือง 17.5 กม./ลิตร

ช่วงล่าง

  • ระบบเบรกหน้า : ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน
  • ระบบเบรกหลัง : ดิสก์เบรก
  • ระบบกันสะเทือนหน้า : อิสระแอนพีเนียม พร้อมเหล็กกันโคลง
  • ระบบกันสะเทือนหลัง : อิสระมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง

ขนาดมิติตัวถัง

  • ยาว x กว้าง x สูง : 4,900 x 1,840 x 1,730 มม.
  • ระยะฐานล้อ : 2,930 มิลลิเมตร
  • ระยะห่างล้อหน้า / หลัง 1595 / 1600 มม.
  • ระยะต่ำสุดจากพื้น 200 มม.
  • รัศมีวงเลี้ยว 5.8 เมตร
  • น้ำหนักตัวถัง 1781 – 1924 กก.

ระบบความปลอดภัย i-Activsense ที่มาพร้อม NEW MAZDA CX-8 ประกอบด้วย

  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาในขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (Smart Brake Support)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (Lane-keep assist System)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Alert)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Control)
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advanced Blind Spot Monitoring)
  • ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (Lane Departure Warning System)
  • ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive LED Headlamps)
  • ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง (Smart City Brake Support-Reverse)
  • ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced Smart City Brake Support)
  • ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC แบบ Stop & Go (Mazda Radar Cruise Control with Stop & Go)

มร. ทาดาชิ มิอุระ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า รถครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ MAZDA CX-8 เป็นหนึ่งในรถรุ่นเรือธงของมาสด้า โดยเปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2562 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเยี่ยมจากกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหารถที่ให้ความสะดวกสบาย โดยถูกวางตำแหน่งให้เป็นรถครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยมแบบ 3 แถว ที่ดีที่สุดในตลาด ที่สำคัญคือพัฒนาขึ้นบนโครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์นั่ง ต่อมาในเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมาได้ทำการปรับปรุงเพิ่มเติม ด้วยการเสริมเทคโนโลยีด้านความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้ครบครันยิ่งขึ้น และเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายยิ่งขึ้น กับรุ่นเครื่องยนต์เบนซินแบบ 6 ที่นั่ง Exclusive เบาะนั่งแบบ Captain seat ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ส่งผลให้มาสด้า CX-8 ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว แม้จะเป็นระยะเวลาเพียงแค่ 3 ปี แต่รถรุ่นนี้ก็ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์สำหรับครอบครัว จนถึงปัจจุบันอยู่ในการครอบครองของลูกค้าชาวไทยแล้วมากกว่า 4,349 คัน 

“การเปิดตัวในวันนี้ นับเป็นรุ่นที่ 3 เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับรถในตระกูล CX-Series ทำให้รถรุ่นนี้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าครอบครัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนมากขึ้นกว่าเดิมในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ที่โดดเด่นสะดุดตายิ่งขึ้น จากการยกระดับเอกลักษณ์ความสง่างามตามแนวทางการออกแบบ โคโดะ ดีไซน์ ที่ถ่ายทอดความงามที่อยู่เหนือกาลเวลา ภายใต้คอนเซ็ปต์ Less is More ที่เน้นความเรียบง่าย แต่งดงาม บ่งบอกสไตล์พรีเมี่ยม และรสนิยมเหนือระดับ ผสานกับเทคโนโลยีความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่ถูกยกระดับมาอย่างเต็มเปี่ยมครบครันตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น คาดว่ารถรุ่นนี้จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้พบเห็น และสามารถเติมเต็มความสุขให้กับสมาชิกทุกคนในครอบครัวได้ในทุกการเดินทาง” มร. ทาดาชิ มิอุระ กล่าวเสริม

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “NEW MAZDA CX-8 มาพร้อมแนวคิด “THE PRECIOUS MOMENTS TOGETHER” ให้ทุกช่วงเวลามีคุณค่าร่วมกัน โดยเป็นรถครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยมแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง (7-Seat) และแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง (6-Seat) ที่สะท้อนภาพลักษณ์แห่งความภูมิฐานและความสมบูรณ์แบบ ตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกทุกคนในครอบครัวยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง โดยกลุ่มเป้าหมายของรถรุ่นนี้ ยังคงเป็นกลุ่มลูกค้าครอบครัวใหญ่ ที่มองหาความสะดวกสบาย การเข้า-ออก หรือขึ้น-ลง สะดวกง่ายดาย ตอบโจทย์การใช้งานของคนในทุกช่วงวัย มีพื้นที่กว้างขวางและมีความอเนกประสงค์ตามแบบฉบับรถเอสยูวีที่เกินกว่ารถยนต์นั่งจะให้ได้

การเปิดตัวครั้งนี้ คือการยกระดับรถครอบครัวแบบที่นั่ง 3 แถว ของ NEW MAZDA CX-8 ให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ยกระดับดีไซน์ภายนอกให้สอดคล้องกับรถยนต์มาสด้าเจเนอเรชั่นใหม่ ด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ตามแบบฉบับของมาสด้า และเป็นครั้งแรกที่เพิ่มสีภายนอกเทรนด์ใหม่ กับสีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ และสีเทา โพลีเมทัล เกรย์ บ่งบอกถึงความพรีเมี่ยม เหนือระดับ พร้อมเปิดมุมมองใหม่ให้กับทุกการเดินทางด้วยหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า สะท้อนภาพลักษณ์ที่หรูหราพรีเมี่ยมได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งเพิ่มความโดดเด่นด้วยวัสดุคุณภาพสูงแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งด้วยวัสดุ Warm Silver ที่มาพร้อมเบาะหนังสีดำ หรือวัสดุ Metal Wood ที่มาพร้อมเบาะหนัง Nappa สีแดง Deep Red สะท้อนความหรูหราเหนือระดับยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด โคโดะ ดีไซน์ ที่เรียบง่ายแต่งดงาม 

NEW MAZDA CX-8 คือรถครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ที่ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของรถยนต์นั่งอย่างแท้จริง การขับขี่นุ่มนวล มอบความสบายให้ผู้โดยสารในทุกตำแหน่ง ห้องโดยสารมีให้เลือกทั้งห้องโดยสารแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง (7-Seat) และแบบ 6 ที่นั่ง (6-Seat) แบบใหม่ โดยได้รับการยกระดับให้ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัว และเพิ่มพื้นที่ให้กับทุกคนในครอบครัวมากยิ่งขึ้น โดยในรุ่น 6 ที่นั่ง (6-Seat) มาพร้อมกับ 2 ทางเลือก ได้แก่ ห้องโดยสารแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง Captain seat แยกอิสระซ้าย ขวา (Captain seats with center walk-through (6-Seat) ที่สามารถเดินเชื่อมได้ถึงเบาะนั่งแถวที่สาม และห้องโดยสารแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง Captain seat ปรับไฟฟ้า (Power captain seats (6-Seat) พร้อมคอนโซลกลาง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของแต่ละครอบครัวได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ ภายในห้องโดยสารยังกว้างขวางนั่งสบายในทุกตำแหน่ง และมาพร้อมระบบระบายอากาศเบาะนั่งคู่หน้า ที่ช่วยระบายอากาศและความชื้น ทำให้เพิ่มความสบายให้กับผู้โดยสารไปตลอดการเดินทาง 

NEW MAZDA CX-8 ได้ถูกยกระดับความสะดวกสบาย เพื่อเติมความสุขให้กับผู้โดยสารทุกคนตลอดการเดินทางด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้ขีดจำกัด Mazda Connect ช่วยให้ไม่พลาดทุกการติดต่อ สามารถอัพเดทข้อมูลข่าวสาร หรือ รับ-ส่ง ข้อความ จากสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณ Bluetooth และเพลิดเพลินไปกับไลฟ์สไตล์ดิจิตอลด้วย Apple CarPlay® แบบไร้สาย และ Android AutoTM ที่เชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ที่แสดงผลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีน ขนาด 8 นิ้ว ควบคุมด้วย Center Commander ที่จัดวางในตำแหน่งที่ผู้ขับขี่ใช้งานได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger และ USB สำหรับชาร์จไฟบริเวณเบาะนั่งแถวที่สามได้ถูกเพิ่มเข้ามาในรถรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน จึงทำให้รถรุ่นนี้ ไม่เพียงแค่เป็นรถที่มอบความสะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังเป็นรถที่ทันสมัยไปอีกขั้น สามารถตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

NEW MAZDA CX-8 มีให้เลือก 2 เครื่องยนต์ ทั้งเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร (Skyactiv-D 2.2) พร้อมเทอร์โบแปรผัน ให้พละกำลังถึง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันถึง 17.5 กม./ลิตร* และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งยังมีการติดตั้งระบบช่วยป้องกันล้อหมุนฟรีแบบ Off-Road (Off-Road Traction Assist) เพิ่มเติมในรุ่นที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ i-ACTIV AWD เพิ่มความมั่นใจให้ทุกคน ออกไปพบกับประสบการณ์ใหม่ๆ ในทุกเส้นทาง และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ขนาด 2.5 ลิตร (Skyactiv-G 2.5) ให้พละกำลังถึง 194 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 258 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันสูงสุด 13.2 กม./ลิตร* และในทุกรุ่นย่อยยังมาพร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีภายใต้ SKYACTIV-Vehicle Dynamics ช่วยควบคุมสมรรถนะในการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุล โดยเฉพาะในทางโค้งและในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ขับสัมผัสถึงความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันของคนกับรถอย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมเพิ่มความสุนทรีย์ภายในห้องโดยสารด้วยระบบเสียงคุณภาพ Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง

*ผลการทดสอบตามมาตรฐาน UN101 Combine Mode

นอกจากนี้ NEW MAZDA CX-8 ยังอัดแน่นไปด้วยระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันที่ล้ำสมัย i-Activsense รอบคัน ให้ความปลอดภัยที่เหนือกว่ารถอเนกประสงค์ในระดับเดียวกัน ด้วยการติดตั้งระบบ Advanced SCBS ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance ช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้า และระบบ SCBS-R ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการชนขณะถอยหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น อีกทั้งยังมีระบบ MRCC แบบ Stop & Go ที่ได้รับการพัฒนาและติดตั้งใน NEW MAZDA CX-8 เป็นรุ่นแรกของรถมาสด้าที่วางจำหน่ายในประเทศไทย โดยระบบสามารถปรับความเร็วตามรถคันหน้าแบบอัตโนมัติจนถึงจุดหยุดนิ่ง นอกจากนี้ยังเพิ่มอุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกสบายและช่วยลดอาการเหนื่อยล้าจากการขับขี่หลากหลายระบบ เพื่อมอบความสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารไปตลอดการเดินทาง

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้