Advertisement

Advertisement

MAZDA CX-90 PHEV 327 แรงม้า ราคาในสหรัฐฯ 1.72 ล้านบาท วิ่งไฟฟ้า 41 กม. EPA

MAZDA CX-90 PHEV 327 แรงม้า ราคาในสหรัฐฯ 1.72 ล้านบาท วิ่งไฟฟ้า 41 กม. EPA
Spread the love

Advertisement

Advertisement

 

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2023 MAZDA ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เริ่มต้นที่ 40,970 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.44 ล้านบาท) ในรุ่น 3.3 Turbo และ ปลั๊กอินไฮบริด ราคาเริ่มต้นที่ 48,820 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.72 ล้านบาท) ในรุ่น 3.3 Turbo S ที่ทรงพลังที่สุดเปิดตัวที่ 53,125 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.87 ล้านบาท) โดย รุ่น Premium Plus สูงสุดมีราคา 61,325 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.16 ล้านบาท)

  • ราคารวมปลายทางและค่าธรรมเนียมการจัดการ $1,375
Package Starting MSRP
CX-90 3.3 Turbo Select $39,595
CX-90 3.3 Turbo Preferred $43,445
CX-90 3.3 Turbo Preferred Plus $45,900
CX-90 3.3 Turbo Premium $48,900
CX-90 3.3 Turbo Premium Plus $52,950
CX-90 PHEV Preferred $47,445
CX-90 PHEV Premium $52,900
CX-90 PHEV Premium Plus $56,950
CX-90 3.3 Turbo S $51,750
CX-90 3.3 Turbo S Premium $56,450
CX-90 3.3 Turbo S Premium Plus $59,950

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2023 ฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น Mazda Motor Corporation ในอเมริกาเหนือ ได้เปิดตัว Mazda CX-90 ซึ่งเป็นรถ SUV ขนาดกลางรุ่นใหม่ของบริษัท มาพร้อมขุมพลัง PHEV ที่ใช้เครื่องยนต์ e-Skyactiv 2.5 ลิตร 323 แรงม้า

  • จะเปิดตัวในสหรัฐอเมริกาในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้

CX-90 เป็นรถ SUV แบบครอสโอเวอร์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในตลาดอเมริกาเหนือ ภายใต้แนวคิด “เพื่อการเดินทางในชีวิตของคุณ” เน้นการออกแบบตัวถังที่กว้างมอบความสะดวกสบาย ฟังก์ชั่นการทำงาน ความปลอดภัย และ การขับขี่ทีีสนุกสนาน

  • ตัวถังสีแดงใหม่ Artisan Red
  • ล้อไดมอนด์คัทขนาด 21 นิ้วที่มีผิวโลหะสีดำ

ขนาดตัวถัง

  • ยาว 5100 มม.
  • กว้าง 1994 มม.
  • สูง 1,732 มม.
  • ระยะฐานล้อ 3,120 มม.
  • ความจุสัมภาระท้ายเมื่อพับบเาะแถวสาม และ สอง 2,025 ลิตร

การออกแบบ CX-90 แสดงออกถึงความรู้สึกมีชีวิตชีวาซึ่งมีรากฐานมาจากธีมการออกแบบ KODO หรือ “Soul of Motion” ของ Mazd เน้นความสวยงามภายใต้ น้อยแต่ได้มาก ทำให้เกิดรูปลักษณ์ออกแบบเรียบง่าย ได้สัดส่วน สง่างาม การตกแต่งภายในเป็นการแสดงออกถึงสุนทรียภาพแบบญี่ปุ่นโดยผสมผสานความมีชีวิตชีวาของแสงและวัสดุธรรมชาติในพื้นที่หรูหราที่เป็นระเบียบ

  • ภายในห้องโดยสารจุได้ 7 – 8 ที่นั่ง
  • 8 ที่นั่งแบบ 2+3+3
  • 7 ที่นั่งแบบ 2+2+3 (Walkthrough)
  • 7 ที่นั่งแบบ 2+2+3 (Captain Seat with Center Console)
  • ภายในตกแต่งด้วย ไม้และโครเมียม
  • แผงหน้าปัดแบบ Full LCD
  • ระบบ Head-Up Display ติดตั้งอยู่เหนือแผงหน้าปัด
  • จอแสดงผลกลางขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว รวมถึงจอภาพแบบ “See-Though View” เพื่อช่วยในการจอดรถ
  • จอแสดงผลควบคุมส่วนกลางจะมี 2 ขนาด 10.25 นิ้วและ 12.3 นิ้ว
  • ระบบ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย และวิทยุดาวเทียม SiriusXM
  • จอมองภาพ 360° พร้อมมุมมองแบบมองทะลุได้
  • ติดตั้งเครื่องเสียง Bose 12 ลำโพง
  • กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติพร้อม Homelink
  • ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย
  • พอร์ต USB-C จะมีให้สำหรับผู้โดยสารทุกคน รวมถึงผู้โดยสารแถวที่สาม
  • เครื่องปรับอากาศแถวที่สาม
  • แถวที่สามได้รับการออกแบบให้นั่งได้ 3 คน
  • แถวหลังยังมีประตูท้ายแบบไฟฟ้า
  • เบาะนั่งหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • เบาะหนัง NAPPA
  • เบาะนั่งแถวที่สองแบบปรับความร้อนได้

ระบบ Driver Personalization ของ Mazda ประกอบด้วย 3 ฟังก์ชันที่รวมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อระหว่างรถและคนขับ

  • คำแนะนำตำแหน่งการขับขี่อัตโนมัติ
  • การกู้คืนการตั้งค่าอัตโนมัติ
  • ระบบช่วยเหลือการขับขี่

เครื่องยนต์ได้แก่

  • เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ e-Skyactiv D 3.3 ลิตร 6 สูบ พร้อมเทคโนโลยีไฮบริด M HYBRID Boost 48V
    • ให้กำลัง 251 แรงม้า ที่ 3750 รอบต่อนาที
    • แรงบิด 550 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 ถึง 2,400 รอบต่อนาที
    • ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีต
    • อัตราประหยัดน้ำมัน 18.5 กม./ลิตร
    • ปล่อย CO2 143 กรัม/กม.
  • เครื่องยนต์เบนซิน e-Skyactiv G 6 สูบ 3.3 ลิตรเทอร์โบชาร์จ พร้อมเทคโนโลยี M Hybrid Boost
    • ให้กำลัง 340 แรงม้า
    • แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร
    • ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีต
    • อัตราสิ้นเปลือง 12.19 กม./ลิตร
    • ปล่อย CO2 189 กรัม/กม.

เบนซิน 2.5 e-SKYACTIV Plug-in Hybrid

    • เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ Skyactiv-G ขนาด 2.5 ลิตร 2,488 ซีซี. Direct Injection กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 89.0 x 100.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 13.0 : 1
    • ให้กำลัง 192 แรงม้า ที่ 6000 รอบต่อนาที
    • แรงบิดสูงสุด 261 นิวตัน-เมตร
    • มอเตอร์ไฟฟ้า 136 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร
    • รวมกำลัง 327 แรงม้า ที่ 4000 รอบต่อนาที แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร
    • แบตเตอรี่ Lithium-ion 355V 50Ah ขนาด 17.8 kWh
    • วิ่งโหมดไฟฟ้า 41 กม. EPA
    • ช้เวลา 6 ชั่วโมง 40 นาทีในการชาร์จแบตเตอรี่จาก 20% ถึง 80% โดยใช้ปลั๊กไฟ 120 โวลท์แบบบ้านมาตรฐาน
    • พร้อมระบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟฟ้า Plug-in Hybrid
    • เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบใหม่
    • ขับเคลื่อน 4 ล้อ i-ACTIV AWD แบบ Full-Time 4WD
  • ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD เป็นมาตรฐาน
  • ระบบการขับขี่ Mi Drive ประกอบด้วยโหมดปกติ โหมดสปอร์ต ออฟโรด และโหมดพ่วง
  • ติดตั้งระบบ Kinematic Posture Control ช่วยให้เข้าโค้งได้ดีขึ้น
  • ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ i-Activsense ของ Mazda

ระบบความปลอดภัย

  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค 4W-ABS
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรก Brake Assist
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว DSC
  • ระบบป้องกันการลื่นไถล TCS
  • ระบบไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกระทันหัน ESS
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Launch Assist
  • ระบบช่วยลงทางลาดชัน Hill Descent Control
  • ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน i-ACC MRCC Adaptive Radar Cruise Control พร้อม Stop & Go
  • ระบบเตือนป้ายจราจร Traffic Sign Recognition
  • ระบบเตือนเปิดประตูเมื่อลงจากรถ Vehicle Exit Warning
  • ระบบเตือนเมื่อรถอยู่ในมุมอับสายตา Blind Spot Monitoring
  • ระบบเตือนเมื่อรถตัดผ่านขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert
  • ระบบเบรกอัตโนมัติด้านหน้า Advanced Smart City Brake Assist
  • ระบบเบรกอัตโนมัติด้านหลัง Advanced Smart City Brake Assist – Rear
  • ระบบรักษารถให้อยู่ในเลน พร้อมพวงมาลัยดึงกลับ Lane Keeping Assist with Steering Assist
  • ระบบเตือนเมื่อผู้ขับมีอาการเหนื่อยล้า Drowsiness Detection
  • กล้อง 360 องศา

 

Caranddriver.com

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้