MAZDA SKYACTIV-Z ขุมพลังแห่งอนาคต ที่จะมาแทน SKYACTIV-G และ SKYACTIV-X
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2024 ที่การบรรยายสรุปผลประกอบการทางการเงินสำหรับครึ่งแรกของปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2025 MAZDA ได้เผยนโยบายการบริการจัดการปี 2030 ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นเสาหลักของกลยุทธ์การเติบโตในอนาคตสิ่งที่น่าสังเกตคือควบคู่ไปกับกลยุทธ์การใช้พลังงานไฟฟ้า บริษัทยังมุ่งเน้นไปที่วิวัฒนาการของเครื่องยนต์สันดาปภายในอีกด้วยการพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินเจเนอเรชั่นถัดไป “SKYACTIV-Z”
เครื่องยนต์เบนซินเจเนอเรชั่นถัดไป “SKYACTIV-Z” เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบที่จะมาสืบทอดต่อจาก “SKYACTIV-G” และ “SKYACTIV-X” ที่จำหน่ายในปัจจุบัน โดยแผนอนาคตจะขยายเป็นแบบ 6 สูบ
SKYACTIV-Z ใช้การเผาไหม้ตามทฤษฎีที่เรียกว่า “Lambda One Combustion” ซึ่งสามารถทำงานแบบหลากหลาย ตั้งแต่ความเร็วต่ำไปจนถึงความเร็วสูงช่วยให้บรรลุทั้งประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูงและประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมที่ดีเยี่ยม และคาดว่าจะปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านก๊าซไอเสียที่เข้มงวดที่สุดในโลก เช่น ยูโร 7 ของยุโรป และ LEV IV และ Tier 4 ของสหรัฐอเมริกา
Mazda กำลังดำเนินการพัฒนา SKYACTIV-Z โดยมีเป้าหมายที่จะเปิดตัวสู่ตลาดในปี 2027 นับเป็นการพัฒฯาเครื่องยนต์รุ่นที่ 3 ของแบรนด์ MAZDA
แม้ว่าข้อมูลทางเทคนิคโดยละเอียดของ SKYACTIV-Z จะยังคงเป็นความลับ แต่เราหวังว่าจะมีการประกาศในอนาคตว่ากลไกเชิงนวัตกรรมประเภทใดจะถูกสร้างขึ้นโดยการผสมผสานระหว่าง “Lambda One Combustion” และ “Super Lean Burn Combustion”
มาสด้าตั้งเป้าที่จะสร้างสังคมแห่งการสัญจรที่ยั่งยืนผ่านกลยุทธ์ที่อิงจากการใช้พลังงานไฟฟ้าและวิวัฒนาการของเครื่องยนต์สันดาปภายใน SKYACTIV-Z จะเป็นเทคโนโลยีหลักที่เปิดอนาคตดังกล่าว
ในขณะที่การใช้พลังงานไฟฟ้าเร่งความเร็วขึ้น Mazda ก็เผชิญความท้าทายอย่างกล้าหาญในการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในเพิ่มเติม SKYACTIV-Z กล่าวได้ว่าเป็นจุดสูงสุดของความสามารถทางเทคโนโลยีของ Mazda ซึ่งบรรลุทั้งประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมและความเพลิดเพลินในการขับขี่ในอนาคต
MAZDA CX-5 ยืนยันจะเปิดตัวขุมพลังไฮบริด Skyactiv Z ภายในปี 2026 ลดความซับซ้อนของเครื่องยนต์ลง