เปิดตัวไทยมีนาคมนี้ MG ES5 EV แพลตฟอร์มเดียว MG 4
เครดิตภาพ FB : สุกฤต ขาวสว่าง
กรุงเทพฯ – 30 มกราคม 2568 – บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย กำหนดทิศทางแบรนด์และกลยุทธ์การตลาดในประเทศไทย ภายในงาน “MG DEALER CONFERENCE 2025” ตั้งเป้ายกระดับแบรนด์ทุกมิติทั้งการนำเสนอผลิตภัณฑ์ยานยนต์คุณภาพสูงครบทุกเซกเมนต์ ทั้งเครื่องยนต์ไฮบริด และไฟฟ้าด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัย ในปีนี้ เตรียมพร้อมก้าวข้ามขีดจำกัดด้วยการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่จะเปิดตัวภายในงาน Bangkok International Motor Show 2025 พร้อมปรับภาพลักษณ์ผู้แทนจำหน่ายดันมาตรฐานการขายและบริการหลังการขายทุกโชว์รูมให้เทียบเท่ากับ MG EVolution Showroom ตอกย้ำความมั่นใจให้กับลูกค้ารถยนต์ไฟฟ้าด้วยการเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวที่ประกาศเพิ่มการรับประกันคุณภาพแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการใช้งาน (LIFETIME WARRANTY) พร้อมตั้งเป้าครองส่วนแบ่งทางการตลาด 5% และทะยานสู่ Top 3 ภายในทศวรรษที่ 2 ของแบรนด์
ปี 2024 ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยนับเป็นปีที่มีแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ๆ ให้กับผู้บริโภคคนไทยมากขึ้น โดยมาพร้อมความโดดเด่นที่หลากหลายมิติทั้งดีไซน์ นวัตกรรม และกลยุทธ์ด้านราคา อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทยมีประมาณการการผลิตรถยนต์ที่ 1.6 ล้านคัน แบ่งเป็นการส่งออก 1.05 ล้านคัน และจำหน่ายในประเทศ 550,000 คัน แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนให้ความสนใจและมีนัยยะสำคัญต่อการเติบโตของตลาดยานยนต์ นั่นคือ “ปริมาณความต้องการรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยังคงมีเพิ่มขึ้น” โดยที่ผ่านมามียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 70,000 คัน มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากนโยบายสนับสนุนด้านเงินอุดหนุนการซื้อรถไฟฟ้า ทั้งโครงการของรัฐ EV 3.0 และ EV 3.5 อย่างไรก็ตาม คาดว่าการเติบโตของตลาดยานยนต์ไทยในปีนี้ยังคงเติบโตต่อเนื่อง เหตุเพราะการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้เป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของเอเชีย (EV hub) รวมถึงโมเดลธุรกิจและกระบวนการผลิตที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้เกิดขึ้น กับเศรษฐกิจไทย และโอกาสการขยายตัวจากความนิยมรถยนต์ไฮบริด (Hybrid) ที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน
นาย ซู๋ว หยิ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และรองกรรมการผู้จัดการบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด เผยว่า “ปีที่ผ่านมา นับเป็นปีที่มีความท้าทายมาก เอ็มจี ได้แนะนำรถยนต์ใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ NEW MG MAXUS 7 รถยนต์ไฟฟ้า 100% แบบอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง หรือ e-MPV และ ALL NEW MG3 HYBRID + รถแฮทช์แบ็ค ในกลุ่ม B-segment ที่ได้รับการโหวตจากผู้สื่อข่าวสายยานยนต์ของไทยเป็น Thailand Car of The Year ปี 2024 รวมทั้งความทุ่มเทในการทำแคมเปญการตลาดและส่งเสริมการขาย และได้รับความร่วมมือที่ดีในการผลักดันการขายจากผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ ทำให้ เอ็มจี สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 17,000 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 3% โดยเป็นลำดับที่ 7 ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ปัจจุบัน เอ็มจี มียอดขายสะสมรวมมากกว่า 200,000 คัน สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าและฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญสู่การเติบโตในอนาคต
ทั้งนี้ ในปี 2024 เอ็มจี ได้กำหนดทิศทางและกลยุทธ์การตลาดที่มีผลิตภัณฑ์ยานยนต์คุณภาพสูง ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยครบทุกเซกเมนต์ ทั้งเครื่องยนต์สันดาป ไฮบริด และยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมทั้งสร้างรากฐานของระบบนิเวศของแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ทั้งโชว์รูมและบริการหลังการขายที่จะยกระดับเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การขับขี่และการบริการเหนือระดับเพื่อสร้างความประทับใจใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า สำหรับในปี 2025 นี้ เราได้เตรียมนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ไม่ต่ำกว่า 2 รุ่น โดยเตรียมเปิดตัวภายในงาน Bangkok International Motor Show 2025
- รุ่นใหม่ทั้งหมด ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะใช้ชื่อ ES5 แทนที่จะเป็นโลโก้ ZS จะแบ่งปันฮาร์ดแวร์ร่วมกับ MG4 ซึ่งหมายความว่าจะขับเคลื่อนล้อหลัง และมีแบตเตอรี่สองขนาด คือ 49kWh และ 64kWh
- แพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM แบบเดียวกับ MG 4
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน SAIC MG ประเทศจี นประกาศราคาจำหน่าย MG ES5 EV ไฟฟ้าใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมราคาจำหน่ายพิเศษ 99,900 – 129,900 หยวน หรือประมาณ 476,000 – 618,000 บาท โดยมีตัวเลือกระยะทาง 3 ระยะทาง ได้แก่ 425 กม., 515 กม. และ 525 กม. พัฒนาบนสถาปัตยกรรม Nebula
车型 |
官方指导价(万元) |
一口价(万元) |
增换购价(万元) |
425pro 后驱版 |
11.69 |
10.39 |
9.99 |
425plus 后驱版 |
12.69 |
11.39 |
10.99 |
515pro 后驱版 |
12.69 |
11.39 |
10.99 |
515plus 后驱版 |
13.69 |
12.39 |
11.99 |
525max 后驱智驾版 |
14.69 |
13.39 |
12.99 |
ภายในของ MG S5 ที่มาพร้อมกับจอควบคุมส่วนกลางขนาดใหญ่ แผงหน้าปัด LCD ด้านหน้าของที่วางแขนตรงกลางมีที่วางแก้วสองช่อง และมีปุ่มเพียงไม่กี่ปุ่มเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในรถ พวงมาลัยมีรูปทรงสามก้านและดีไซน์ส่วนล่างเรียบซึ่งให้ความรู้สึกสปอร์ตดี
MG ES5 SUV มาพร้อมการออกแบบกระจังหน้าแบบปิด ด้านหน้าของรถใช้องค์ประกอบ X แบบคลาสสิกของ MG ไฟหน้าเพรียวบางเข้ากันกับรูปทรงช่องรับอากาศด้านล่าง ทำให้รถทั้งคันเต็มไปด้วยความสปอร์ต ด้านข้างเพรียวสปอร์ต ล้ออัลลอย 17 – 18 นิ้วให้เลือก ที่ด้านหลังของรถ รถใหม่ใช้ไฟท้ายแบบทะลุและรมดำ เมื่อรวมกับไฟนำร่องตำแหน่งสูงด้านบน
ภายในห้องโดยสารมาพร้อม 2 สี ให้เลือกได้แก่ คอนโซลกลางของรถมีสไตล์การออกแบบที่พบได้ทั่วไปในรถยนต์พลังงานใหม่ในปัจจุบัน แผงหน้าปัด LCD ขนาด 10.25 นิ้ว, หน้าจอควบคุมส่วนกลาง 2.5K ขนาด 15.6 นิ้ว, ระบบอัจฉริยะ Zebra, ระบบควบคุมรถยนต์ด้วยแอพระยะไกล, ระบบทำความร้อนที่กระจกหลัง, อุปกรณ์ติดตั้งเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ISOFIX ฯลฯ ติดตั้งแท่นชาร์จไร้สายสำหรับโทรศัพท์มือถือ ช่องเก็บของ และที่วางแก้ว เบาะหนัง เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทา ซันรูฟแบบพาโนรามา ประตูท้ายไฟฟ้า เป็นต้น
ขนาดตัวถัง MG ES5 SUV
- ยาว 4,476 มม.
- กว้าง 1,849 มม.
- สูง 1,621 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,730 มม.
มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวด้านหลัง
- ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร
- แบตเตอรี่ LFP ขนาด 49.1kWh วิ่งไฟฟ้า 425 กม./ชาร์จ CLTC
- ชาร์จ DC 30-80% ภายใน 25 นาที
- ชาร์จ AC 100% ภายใน 8.5 ชั่วโมง
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.7 วินาที
- ความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม.
- กำลังจ่ายไฟภายนอกสูงสุดของ V2L 6.6kWh
มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวด้านหลัง
- ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร
- แบตเตอรี่ LFP ขนาด 62.2kWh วิ่งไฟฟ้า 515 กม./ชาร์จ CLTC
- ชาร์จ DC 30-80% ภายใน 21 นาที
- ชาร์จ AC 100% ภายใน 11.5 ชั่วโมง
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.9 วินาที
- ความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม.
- กำลังจ่ายไฟภายนอกสูงสุดของ V2L 6.6kWh
มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวด้านหลัง
- ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร
- แบตเตอรี่ LFP ขนาด 62.2kWh วิ่งไฟฟ้า 525 กม./ชาร์จ CLTC
- ชาร์จ DC 30-80% ภายใน 21 นาที
- ชาร์จ AC 100% ภายใน 11.5 ชั่วโมง
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.9 วินาที
- ความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม.
- กำลังจ่ายไฟภายนอกสูงสุดของ V2L 6.6kWh