PHEV เมืองไทยเริ่มร้อน MG HS และ Mitsubishi Outlander เปิดตัวไล่เลี่ยกัน
MG HS PHEV ประกาศชัดเจนพร้อมเปิดตัว ในประเทศไทยวันที่ 28 ตุลาคม 2020 และให้สื่อได้ทดลองขับก่อนหน้านี้ไปแล้ว แต่ฝั่ง Mitsubishi Outlander PHEV ยังคงเงียบยังไม่มีประกาศวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ มีเพียงแต่เปรยว่าพร้อมเปิดตัวช่วงปลายเดือน พ.ย ในงาน Motor Expo 2020 แต่ทั้งนี้ 2 PHEV มีการออกแบบที่น่าสนใจไม่น้อยโดยเฉพาะ Mitsubishi Outlander PHEV ที่มาพร้อมการออกแบบที่สดใหม่กว่า MG HS อย่างชัดเจน บนขุมพลังที่มีความแตกต่างกันพอสมควร
MG HS PHEV | Mitsubishi Outlander PHEV |
เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 166 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 4,400 รอบ/นาที | เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC MIVEC ECI-Multi 4B12 ขนาด 2.4 ลิต กำลังสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที |
เครื่องยนต์+มอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 291 แรงม้า แรงบิตสูงสุด 480 นิวตัน – เมตร แบตเตอรี่ลิเธียม – ไอออน | เครื่องยนต์+มอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 236 แรงม้า 300 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion |
วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ 76 กิโลเมตร | วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ 45 กิโลเมตร |
MG HS PHEV
MG HS PHEV เตรียมเปิดตัว 27 ตุลาคม 2020 ล่าสุดทาง MG ประเทศไทยเปิดให้คำนวนอัตราสิ้นเปลืองของ HS PHEV ซึ่งทางทีมงานลองคำนวนโดยเฉลี่ย วิ่งวันละ 80 กม. 1 เดือนหรือ 30 วันได้ 2,400 กม. รวมค่าเชื้อเพลิง MG HS PHEV ทั้งหมด 2,147 บาท หรือคิดเป็นตัวเลขตรงๆ ประมาณ กม.ละ 89 สตางค์ หรือ กิโลเมตรละไม่ถึงบาท เพื่อนๆสามารถลองคำนวณตามลิงค์นี้ Mgcars.com
หมายเหตุ
ตัวเลขดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เปรียบเทียบระบบการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ Hybrid ทั่วไป กับเครื่องยนต์ Plug-in Hybrid ของ MG เท่านั้น ไม่ใช่ค่าสำหรับเปรียบเทียบรถคันใดคันหนึ่ง
- ข้อมูลอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง รถยนต์ Hybrid เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตรทั่วไป
- อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยทั่วประเทศ ไม่รวมค่า FT และภาษีมูลค่าเพิ่ม อ้างอิงจากข้อมูลของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ณ เดือนมิถุนายน 2563
- ราคาน้ำมันที่ใช้ในการคำนวณ คิดมาจากราคาน้ำมันเบนซิน 95 ด้วยราคาน้ำมัน ณ วันพุธที่ 09 กันยายน 2563 ที่ 29.16 บาท / ลิตร
- ข้อมูลจาก Eco Sticker MG รุ่น NEW MG HS PHEV
- ข้อมูลอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) รถยนต์ Hybrid เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตรทั่วไป
- ใช้รถยนต์เป็นระยะทาง 33,000 กิโลเมตรต่อปี อัตราการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยของต้นไม้ 1 ต้นคือ 1,511 กรัม / เดือน หรือ 40 ปอนด์ / ปี อ้างอิง ข้อมูลจากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม www.deqp.go.th
- ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นตามระยะทางที่น้อยกว่า หรือเท่ากับ 2,000 กิโลเมตร ของรถ NEW MG HS PHEV (เฉพาะค่าใช้ไฟฟ้า) คำนวณค่าไฟฟ้าที่เกิดขึ้นจากการชาร์จไฟฟ้า 0 – 100% (ในระยะเวลา 30 วัน / เดือน) ต่อระยะทางที่รถ NEW MG HS PHEV สามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ได้ไกลที่สุดที่ระยะทาง 67 กิโลเมตร (อ้างอิงจาก Eco Sticker)
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ขอเรียนเชิญท่านสื่อมวลชนร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวรถยนต์ NEW MG HS PHEV ยนตรกรรมรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมเทคโนโลยี Plug-In-Hybrid ของแบรนด์เอ็มจี ใน วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 13.00 – 16.00 น. ณ GMM Live House ชั้น 8 ศูนย์การค้า Central World
ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 166 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 4,400 รอบ/นาที + แบตเตอรี่ลิเธียม – ไอออน มอเตอร์ไฟฟ้ารวมกำลังทั้งหมด 291 แรงม้า แรงบิตสูงสุด 480 นิวตัน – เมตร ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ EDU II 10 สปีต วิ่งไฟฟ้าสามารถทำอัตราประหยัด 76 กม./ลิตร
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.8 วินาที
- แบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียม ไอออน จากCATL ขนาดความจุ 16.6 kWh
สำหรับสีตัวถังจะมีให้เลือกในไทย 3 สีได้แก่ ขาว ดำ และแดง พร้อมเปิดราคาจำหน่ายวันที่ 27 ตุลาคม 2020 คาดราคาจำหน่าย 1.3 – 1.4 ล้านบาท มีรุ่นเดียวให้เลือก
MG eHS
หลังจากที่บ้านเราได้เปิดตัว MG HS ใหม่ วันที่ 25 กันยายน 62 ที่ผ่านมา ล่าสุด MG ประเทศจีน เผยโฉม MG eHS พลังงานปลั๊กอินไฮบริด รีดกำลังมากถึง 291 แรงม้า และประหยัดน้ำมันได้ถึง 76 กม./ลิตร
- รุ่น e-Plus 189,000 หยวน หรือประมาณ 823,000 บาท
- รุ่น e-Pro 199,800 หยวน หรือประมาณ 870,000 บาท
- รุ่น e-Trophy 219,800 หยวน หรือประมาณ 957,000 บาท
SAIC-MG ในแดนมังกรเปิดตัว MG eHS SUV หน้าตาการออกแบบภายนอกยังคงอยู่บนฐาน MG HS รุ่นน้ำมันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่เพิ่มเครื่องยนต์เบนซิน 1.5T + มอเตอร์ไฟฟ้าก รวมถึงติดตั้งระบบ MG PILOT
ระบบ MG Pilot ได้แก่
- ACC ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
- ระบบตรวจสอบจุดบอด BLIS
- ระบบเตือนการเปิดประตู DOW
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW
- ระบบเปิด – ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC
- ระบบควบคุมความเร็ว SAS Assist
- ระบบภาพพาโนรามา 360
ทุกอย่างเหมือน MG HS รุ่นปกติเปลี่ยนแค่โลโก้ eHS ล้อัลลอยลายใหม่ ภายในตกแต่งโทนครีม+ดำ ตำแหน่งฐานเกียร์ใหม่ รวมถึงขุมพลังใหม่แรง ประหยัดกว่าเดิม
ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 166 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 4,400 รอบ/นาที + แบตเตอรี่ลิเธียม – ไอออน มอเตอร์ไฟฟ้ารวมกำลังทั้งหมด 291 แรงม้า แรงบิตสูงสุด 480 นิวตัน – เมตร ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ EDU II 10 สปีต วิ่งไฟฟ้าสามารถทำอัตราประหยัด 76 กม./ลิตร
เครื่องยนต์ปัจจุบันในไทย
- เครื่องยนต์ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว Turbo TGI GDI – Gasoline Direct Injection 1.5 ลิตร 1490 ซีซี เส้นผ่านศูนย์กลางกระบอกสูบ × ระยะชัก 74 × 86.6 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 10 : 1 ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้าที่ 5600 รอบต่อนาที แรงบิตสูงสุด 250 นิวตัน-เมตรที่ 1700 – 4400 รอบต่อนาที ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ TST (Twin Clutch Sportronic Transmission) 7 สปีด รองรับ E85 ระบบขับเคลื่อน 2WD
Mitsubishi Outlander PHEV
Mitsubishi Outlander PHEV (Plug-in Hybrid) หลังจากโผล่โชว์ตัวในประเทศไทย ที่งานจัดแสดงเทคโนโลยี เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ ที่สถาบันอุดมศึกษาชั้นนำ 5 แห่ง โดยเริ่มที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วันที่ 6 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา
Mitsubishi Outlander PHEV โฉมที่จะเปิดตัวในบ้านเรา เป็นโฉมปัจจุบันที่ขายในญี่ปุ่น (ไม่ใช่รุ่นไมเนอร์เช้นจ์ล่าสุด)
เทคโนโลยี เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ ของมิตซูบิชิ ในภาษาญี่ปุ่น “เดน” หมายถึง “ไฟฟ้า” และ “โด” หมายถึง “การขับขี่” เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ คือ ชุดระบบไฟฟ้าที่ออกแบบมาสำหรับที่พักอาศัย ประกอบด้วย Mitsubishi Outlander PHEV และอุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้าเทคโนโลยีแบบ Vehicle-to-Home หรือ V2H ซึ่งสามารถทำได้ทั้งการจ่ายและรับกระแสไฟฟ้าระหว่างยานพาหนะและที่พักอาศัยแผงโซลาร์เซลล์และแบตเตอรี่สำหรับที่พักอาศัย
ระบบ เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยแผงโซลาร์เซลล์ นำไปชาร์จ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี และในทางกลับกันยังสามารถดึงพลังงานไฟฟ้ากลับจากตัวรถ เพื่อนำไปใช้ในที่พักอาศัย จึงมีประโยชน์อย่างมากในการช่วยลดการบริโภคพลังงานและประหยัดค่าใช้จ่าย พร้อมเป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน และยังใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้อีกมาก
หลังจากที่ BOI อนุมัติโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า PHEV Plug-in Hybrid Electric Vehicle ของมิตูซูบิชิ ประเทศไทย เมื่อ 15 มีนาคม 62 ลงทุนทั้งหมด 3,130 ล้านบาท และเริ่มเดินสายผลิต Mitsubishi Outlander PHEV ที่โรงงานแหลมฉบัง จ.ชลบุรี คาดว่าจะช่วงงาน Motor Expo 2020 ช่วงปลายเดือนพฤศิจกายนี้ ถึงต้นเดือนธนัวาคม 2020
Mitsubishi Outlander PHEV ขนาดตัวถัง
- ยาว 4,695 มม.
- กว้าง 1,800 มม.
- สูง 1,710 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,670 มม.
- ระยะต่ำสุดถึงพื้น 190 มม.
- ความจุถังน้ำมัน 45 ลิตร
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC MIVEC ECI-Multi 4B12 ขนาด 2.4 ลิตร 2,359 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 86.0 x 97.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.0 : 1 กำลังสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที
- มอเตอร์ไฟฟ้า AC Synchronous Permanent Magnetic Motor 2 ตัว ด้านหน้า S61 กำลังสูงสุด 82 แรงม้า 137 นิวตันเมตร และ ด้านหลัง Y61 กำลังสูงสุด 95 แรงม้า 195 นิวตันเมตร
- เครื่องยนต์+มอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำำลังรวม 236 แรงม้า 300 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion 300 volts 13.8 kWh ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD
- ชาร์จไฟฟ้า AC 3.7 kW 230V 16A 0-100% 3 ชั่วโมง 30 นาที
- ชาร์จไฟฟ้า CHAdeMO Fast Charge 0-80% 32 นาที
- วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ 45 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP)
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ S-AWC เพิ่มโหมด Sport และ โหมด Snow จากเดิมมีแต่โหมด Normal และโหมด 4WD Lock
การอกแบบภายนอก Mitsubishi Outlander จะมาพร้อมหน้าตาแบบ Dynamic Shield กระจังหน้าขนาดใหญ่ที่เป็นเอกลักษณ์ ไฟหน้าแบบ LED ปราดเปรียวมากขึ้น ไฟส่องสว่างกลางวัน LED Daytime กันชนหน้าใหม่ เสาอากาศครีบฉลามพร้อมไฟท้ายแบบ LED ล้ออัลลอยให้เลือก 8 สีทูโทนเข้มขนาด 18 นิ้วยาง 225/55R18 และมาพร้อมหลังคาซันรูฟ เสริมสร้างบรรยากาศอีกแบบในการขับขี่
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมความหรูหราเต็มขั้นสามารถจุได้ 7 ที่นั่งพร้อมเบาะนั่งกึ่งหนังแท้สามารถปรับสูง-ต่ำด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านมี Paddle Shift เพิ่มความสนุกในการขับเคลื่อน หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วรองรับ Apple CarPlay เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา กระจังมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ ประตูท้ายเปิดไฟฟ้า
พร้อมระบบความปลอดภัยได้แก่
- ระบบถุงลมนิรภัย 7 จุดรอบคัน
- ระบบควบคุมการทรงตัว ASC
- ระบบออกตัวบนทางลาดชัน HSA
- ระบบป้องกันการลืนไถล TCL
- กล้องมองรอบคัน