ปีหน้า MG ไทย เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 3 รุ่น คาด MG ZS EV ไมเนอร์เช้นจ์ , MG5 EV Wagon และ MG Marvel R

Spread the love

กรุงเทพฯ – 4 พฤศจิกายน 2564 – บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ในฐานะผู้บุกเบิกรถยนต์พลังงานทางเลือก (NEV) ในประเทศไทยอย่างจริงจัง ร่วมผลักดันประเทศไทยเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) ตามแนวทางของรัฐที่มุ่งเดินหน้าวางรากฐานการใช้งานรถยนต์พลังงานทางเลือกอย่างยั่งยืน เพื่อกระตุ้นคนไทยให้เห็นความสำคัญและผลลัพธ์ของการใช้พลังงานสะอาด

เผยปีหน้าเตรียมเปิดตัวรถยนต์พลังงานทางเลือกสู่ตลาดเมืองไทยอีกอย่างน้อย 3 รุ่น พร้อมเดินหน้าแผนการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จให้ครอบคลุมทั่วประเทศสะท้อนความมุ่งมั่นและความเอาจริงเอาจังในการสร้างสังคมยานยนต์ไฟฟ้าที่แข็งแกร่งในประเทศไทย

ตามบทความดังกล่าวที่ทาง MG ประเทศไทยได้เปรยออกมา แสดงให้เห็นว่า ปีหน้า เราจะได้สัมผัสรถยนต์พลังงานทางเลือกอย่าง PHEV และ EV อย่างน้อย 3 รุ่นย่อย ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะเห็น MG ZS EV ไมเนอร์เช้นจ์ , MG5 EV Wagon อีกรุ่นยังไม่แน่ใจ แต่ความน่าจะเป็นคือ MG 6 XPOWER PHEV และ MG Marvel R

มากกว่าแค่นำเสนอรถ แต่เป็นผู้มีบทบาทสำคัญที่ทำให้ “รถอีวี” แจ้งเกิดและเป็นที่นิยมในไทย ปัจจุบัน เอ็มจีเป็นผู้นำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 90% และมีผู้ใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของเอ็มจีร่วม 3,000 คัน แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของผู้บริโภค และการเปิดใจรับการใช้งานรถยนต์พลังงานทางเลือกที่มากขึ้น โดยนอกจากที่เอ็มจีมีการพัฒนาและนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างทางเลือกให้กับผู้บริโภคแล้ว เอ็มจียังให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานของสังคมยานยนต์ไฟฟ้า โดยมุ่งสร้างความแข็งแกร่งและเติมเต็มระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ให้สมบูรณ์แบบ สามารถรองรับการเติบโตของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการลงนามความร่วมมือกับทั้งหน่วยงานภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ อาทิ การไฟฟ้านครหลวง (MEA) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) และได้ร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เพื่อยกระดับระบบการรับรองและมาตรฐานของสถานีอัดประจุไฟฟ้าในประเทศไทย นอกจากนี้เอ็มจี ยังได้สร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้า MG Super Charge ที่ให้บริการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง (DC Charge) โดยตั้งเป้าให้มีสถานีชาร์จในทุกๆ 150 กิโลเมตรโดยได้ติดตั้งที่โชว์รูมและศูนย์บริการของเอ็มจีแล้วกว่า 115 แห่ง รวมไปถึงการลงนามความร่วมมือกับ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน เพื่อติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า MG Super Charge ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก ครอบคลุมทั้งในเขตกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ รวมทั้งสิ้น 50 แห่ง เพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานของผู้บริโภค

MG ZS EV ไมเนอร์เช้นจ์

MG Motor ยุโรปได้ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ New MG ZS EV ไมเนอร์เช้นจ์ ในสหราชอาณาจักร ก่อนเผยราคาในเดือนพฤศจิกายน 2021

New MG ZS EV ไมเนอร์เช้นจ์ ได้รับการปรับปรุงใหม่นี้ต่อยอดจากความสำเร็จของ ZS EV โฉมปัจจุบัน มาพร้อมดีไซน์ที่น่าประทับใจ และเทคโนโลยีที่มากขึ้น

ขนาดตัวถัง

ยาว 4323 มม.
กว้าง 1809 มม.
สูง 1649 มม.

ชุดแบตเตอรี่ขนาด 72 กิโลวัตต์ชั่วโมงแบบใหม่ที่เพิ่มช่วงการใช้งานได้มาก และระบบเชื่อมต่อ iSMART ใหม่ ระบบความบันเทิงทันสมัยมากขึ้น

MG ZS EV ใหม่ได้รับส่วนหน้าแบบใหม่ กระจังหน้าแบบปิดประทับโลโก้ MG ใหม่ ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างกลางวัน กันชนหน้าใหม่ กันชนหลังใหม่ ล้ออัลลอยใหม่

มีให้เลือก 2 ระดับและแบตเตอรี่ 2 แบบ รุ่นแบตเตอตรี่ 51 kWh สามารถขับได้ 320 กม./ชาร์จ ตามมาตรฐาน WLTP หรือ แบตเตอรี่แบบ Long Range ขนาด 72 kWh สามารถขับขี่ได้ 440 กม./ชาร์จ รองรับการชาร์จด่วนด้วยกำลังไฟ 76kW ทำให้ชาร์จ 0-100% เพียง 42 นาที (ระบบชาร์จปกติแบบ 7kW ใช้เวลา 10.5 ชั่วโมง)

Standard Range มีกำลังสูงสุด 178 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร รุ่น Long Range จะเพิ่มกำลังมอเตอร์ไฟฟ้า 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร

MG ZS EV ใหม่ทุกคันยังมาพร้อมกับระบบเชื่อมต่อ MG iSMART ที่ล้ำสมัย หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมกราฟิกใหม่และฟังก์ชันการทำงานที่ได้รับการปรับปรุง รุ่นใหม่ยังได้รับแผงหน้าปัดใหม่ และ ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย กล้อง 3 ตัว MG Pilot เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 4 ตำแหน่ง เรดาร์ การเชื่อมต่อ MG iSMART พร้อมกล้องจอดรถ

Netcarshow.com/

MG5 EV Wagon 400 กม./ชาร์จ

All-NEW MG5 EV Station Wagon เปิดตัวอย่างเป็นทางการในยุโรป ตอนนี้ยังไม่ระบุราคา

เน้นการออกแบบเรียบหรู กระจังหน้าแบบปิด พร้อมโลโก้ MG ใหม่ กันชนหน้าออกแบบใหม่ ช่องดักอากาศสามขั้น กันชนหลังใหม่ ไฟหน้า LED แบบ Light Curtain 80 จุด เสาหลังคา D-pillar เป็นแบบ Semi-floating ล้ออัลลอยขนาด 16-17 นิ้ว

ขนาดตัวถัง

ยาว 4544 มม.
กว้าง 1811 มม.
สูง 1513 มม.
ฐานล้อ 2665 มม.

ภายในห้องโดยสารออกแบบเรียบหรูสไตล์ใหม่ หน้าจอสัมผัสส่วนกลางความละเอียดสูง IPS HD 10.25 นิ้วว หน้าปัดดิจิตอล 7 นิ้ว พร้อมเชื่อมต่อ MG iSMART Lite พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นสามก้าน, ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ

MG Pilot L2 กล้อง 360 องศา ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ACC ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS)

Adaptive Cruise Control ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติ แปรผันตามรถยนต์คันหน้า
Automatic Emergency Braking ระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติ เมื่อเสี่ยงชน
Blind Spot Warning ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา
Emergency Lane Keeping ระบบหน่วงพวงมาลัยกลับเข้าช่องจราจร โดยอัตโนมัติ

เบาะนั่งแถว 4 พับแบบ 4 / 6 เมื่อพับลงทั้งหมดสามารถจุได้ 1,364 ลิตร รองรับกระเป๋าเดินทางขนาด 28 นิ้ว 2 ใบ และ 24 นิ้ว 1 ใบ 20 นิ้ว 1 ใบแบบสบายๆ

ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลัง 184 แรงม้า แรงบิต 280 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ลิเธียมเทอร์นารี 61.1kWh โมดูลขนาดใหญ่ 6 โมดูล ชุดแบตเตอรี่มีความหนาแน่นของพลังงานสูงถึง 170.1Wh / kg สามารถวิ่งได้ 400 กิโลเมตร/ชาร์จ WLTP

ชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ 11 กิโลวัตต์ (ชาร์จเร็ว 3 เฟส) ชาร์จเร็ว 0-80% ภายใน 30 นาที
แหล่งจ่ายไฟ V2L 2,500W

เกรด Standard Range

มอเตอร์ไฟฟ้า PSM กำลังสูงสุด 176 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่แบบ Lithium iron Phosphate ความจุ 50.3 kWh
320 กม./ชาร์จ
อัตราชาร์จ 0 – 80% แบบ Quick Charge ภายใน 40 นาที
อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 8.5 วินาที
ความเร็วสูงสุด 185 กิโลเมตร/ชั่วโมง

เกรด Long Range

มอเตอร์ไฟฟ้า PSM กำลังสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่แบบ Lithium Nickel Manganese Cobalt ความจุ 61.1 kWh
400 กม./ชาร์จ
อัตราชาร์จ 0 – 80% แบบ Quick Charge ภายใน 40 นาที
อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม.
วามเร็วสูงสุด 185 กิโลเมตร/ชั่วโมง