มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ทยอยเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป
- ปรับเครื่องยนต์สำหรับ รถยนต์นั่งทุกรุ่นของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เป็นระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ในตั้งแต่ปี พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป
วันที่ 18 มีนาคม 2565: บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำการผลิตยานยนต์ในประเทศไทยเปิดตัวแผนธุรกิจที่ก้าวล้ำหน้าด้วยการให้คำมั่นสัญญาว่าจะผลิตรถยนต์นั่งที่ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าทุกรุ่นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป การประกาศแผนงานครั้งนี้สะท้อนความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เพื่อมุ่งสู่โลกแห่งยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
“ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าสอดคล้องกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลกของเราที่ต้องการลดมลพิษคาร์บอนไดออกไซด์ในรถยนต์รุ่นใหม่ลงร้อยละ 40 และเพิ่มสัดส่วนสู่เป้าหมายการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ให้ถึงร้อยละ 50 ภายในปี พ.ศ. 2573 โดยนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป เรามีความมุ่งมั่นนำเสนอระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าในรถยนต์นั่งทุกรุ่นของเราออกสู่ตลาดเมืองไทย” มร. เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวระหว่างงานแถลงข่าว
นอกจากการประกาศพัฒนารถยนต์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จะเผยโฉม มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ เป็นครั้งแรกที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 การปรับโฉมครั้งนี้มาพร้อมการยกระดับการออกแบบใหม่ทั้งหมด เน้นย้ำสไตล์ที่โดดเด่นสะดุดตาแบบรถเอสยูวี ขณะเดียวกันยังมีการติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง (CVT) เพื่อลดอัตราการบริโภคน้ำมัน พร้อมกับมอบอัตราเร่งที่นุ่มนวลและทรงพลังในทุกสถานการณ์ขับขี่
นับตั้งแต่เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2561 มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ มียอดจำหน่ายสะสมทุกรุ่นมากกว่า 44,000 คัน นับเป็นรถยนต์ที่โดดเด่นมากที่สุดรุ่นหนึ่งในประเทศไทย และยังเป็นผู้นำตลาดรถเอ็มพีวีที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในประเทศไทย อีกทั้งยังสามารถคว้ารางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปีในประเภท ‘รถอเนกประสงค์เอ็มพีวีที่มีเครื่องยนต์ต่ำกว่า 1,600 ซีซียอดเยี่ยม’ มาครองได้ 4 ปีติดต่อกัน
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังแนะนำรถยนต์แรลลี่อาร์ตสองรุ่นใหม่ ได้แก่ มิตซูบิชิ ไทรทัน แรลลี่อาร์ต ดับเบิลแค็บ และมิตซูบิชิ มิราจ แรลลี่อาร์ตที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เพิ่มทางเลือกในกลุ่มรถยนต์แรลลี่อาร์ตสำหรับลูกค้าที่หลงใหลในความตื่นเต้นและเร้าใจที่ถ่ายทอดชัยชนะจากสนามแข่งตามแบบฉบับของแบรนด์แรลลี่อาร์ตระดับตำนาน
“เราจะเดินหน้ายกระดับรถยนต์และบริการหลังการขายของเราเพื่อลูกค้าชาวไทย ด้วยการหลอมรวมวิสัยทัศน์แบบ Mitsubishi Motors-ness ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ความมั่นใจ และความสะดวกสบาย รวมถึงความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ประสบการณ์ด้านมอเตอร์สปอร์ตที่เราสั่งสมจากการคว้าชัยชนะในสนามแข่งแรลลี่สุดหฤโหดทั่วโลกถูกถ่ายทอดสู่รถยนต์รุ่นใหม่ของเราในรูปแบบของเทคโนโลยีในรถยนต์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทุกรุ่นในปัจจุบัน ศูนย์การวิจัยและพัฒนาของเรามีการทดสอบรถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่นในการจำลองสถานการณ์และสภาพแวดล้อมหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้แน่ใจว่ารถยนต์ของเราตอบสนองการใช้งานด้วยความเป็นเลิศในสภาพอากาศและสภาพถนนทุกรูปแบบ” มร. โคอิโตะ กล่าวเพิ่มเติม
เพื่อตอกย้ำดีเอ็นเอ ‘จิตวิญญาณแห่งชัยชนะ’ และสานต่อความหลงใหลในมอเตอร์สปอร์ตระดับสูงสุด มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประกาศแผนเข้าร่วมการแข่งขันเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2022ภายใต้ทีมแข่งมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต (Mitsubishi RALLIART)ทีมแข่งมอเตอร์สปอร์ตนี้จะนำโดย มร. ฮิโรกิ มาซูโอกะ หนึ่งในนักแข่งแรลลี่ชาวญี่ปุ่นชั้นนำของโลก และแชมเปี้ยนการแข่งขันดาการ์ แรลลี่ สองสมัยติดต่อกันในปี พ.ศ. 2545และ พ.ศ. 2546ศักยภาพ ความเชี่ยวชาญ และชื่อเสียงอันยากเทียบเคียงในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตของ มร. มาซูโอกะจะช่วยนำแบรนด์ระดับไอคอนอย่างแรลลี่อาร์ตกลับมาอีกครั้งด้วยการขับขี่ มิตซูบิชิ ไทรทัน ที่ถูกดัดแปลงเพื่อการแข่งขัน
มร. มาซูโอกะ กล่าวว่า “รถยนต์ของมิตซูบิชิช่วยทำให้ผมถึงเส้นชัยได้เร็วกว่าคนอื่นในการแข่งขันแรลลี่สุดหฤโหดรายการต่างๆ สิ่งนี้หมายความว่า รถยนต์ของเราช่วยให้ผู้ขับถึงจุดหมายด้วยความมั่นใจและขับขี่อย่างมั่นใจไม่ว่าสภาพท้องถนนจะเป็นอย่างไร ผมจะนำทีม Mitsubishi RALLIARTในฐานะผู้อำนวยการของทีม และวิศวกรของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส จะพัฒนารถแข่ง ตลอดจนให้การสนับสนุนเชิงเทคนิคระหว่างการแข่งขัน ติดตามพวกเราเพื่อรับข่าวสารเพิ่มเติมจากทีม Mitsubishi RALLIART”
นอกเหนือจากความมุ่งมั่นในรถยนต์ไฟฟ้า และการสร้างนวัตกรรมการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังให้ความสำคัญกับแนวคิดริเริ่มที่จะลดมลพิษคาร์บอนไดออกไซด์ในประเทศไทย บริษัทฯ ดำเนินโครงการรับผิดชอบต่อสังคมมากมายที่สอดคล้องกับแนวทางการสร้างความยั่งยืนของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น อย่างการแนะนำรถยนต์ไฟฟ้าสู่ตลาดรถยนต์เมืองไทย (มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี) การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่โรงงานผลิตรถยนต์ การปลูกป่าครอบคลุมพื้นที่ 60ไร่ในจังหวัดชลบุรีและสระแก้ว รวมถึงการบริจาคแผงโซลาร์เซลส์ให้แก่โรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศไทยภายใต้โครงการ “Solar for Lives:พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” และเมื่อไม่นานมานี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้เปิดโรงงานพ่นสีแห่งใหม่ เพื่อส่งมอบงานพ่นสีรถยนต์ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพที่ดีที่สุด ผ่านการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งช่วยลดปริมาณการปล่อยสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย หรือ Volatile Organic Compounds (VoCs)และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่สิ่งแวดล้อม
พบกับมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ และรถยนต์แรลลี่อาร์ตสองรุ่นใหม่ที่บูธ A11ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43จัดที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 – 3เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 3เมษายน พ.ศ. 2565