Mitsubishi Xforce HEV เปิดตัวที่ไทย แต่โดนแบนที่ออสเตรเลีย เพราะความปลอดภัยไม่ผ่าน

Mitsubishi Xforce HEV เปิดตัวที่อาเซียน แต่ยังหมดสิทธิ์ขายในออสเตรเลีย เพราะมาตรฐานความปลอดภัยไม่ผ่าน
Mitsubishi Xforce รุ่นไฮบริด (HEV) เอสยูวีขนาดเล็กตัวใหม่ล่าสุด ได้เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งนับเป็นการเพิ่มทางเลือกจากรุ่นเครื่องยนต์เบนซินล้วนที่เปิดตัวไปเมื่อ 2 ปีก่อน อย่างไรก็ตาม รุ่นไฮบริดนี้ก็ยังคง หมดสิทธิ์ทำตลาดในออสเตรเลีย เนื่องจากต้องลงทุนอัปเกรดระบบความปลอดภัยเพิ่มเติมในระดับที่สูงและต้นทุนแพง
Xforce HEV ใช้ระบบขับเคลื่อนไฮบริดที่ยกมาจากรุ่นพี่ Xpander HEV แต่มีการปรับแต่งเพิ่มเติมให้เหมาะกับรถแบบ SUV โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร ไม่มีเทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอรี่แรงดันสูง และเกียร์อัตโนมัติแบบ Transaxle 2 สปีด ที่พัฒนาใหม่
ไฮไลต์ของระบบนี้คือ
สามารถตัดการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าออกจากเพลาขับเมื่อใช้ความเร็วสูง ช่วยลดการสูญเสียพลังงาน รวมถึงยังปรับปรุงเรื่องเสียงรบกวนจากถนน และอัตราเร่ง เพื่อให้ได้ฟีลลิ่งการขับขี่แบบรถไฟฟ้า (EV) ที่ลื่นไหลยิ่งขึ้น
เช่นเดียวกับไฮบริดทั่วไป รุ่นนี้มาพร้อมระบบเบรกแบบ Regenerative ที่ช่วยชาร์จไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ขณะชะลอหรือเบรก โดย Mitsubishi เคลมอัตราสิ้นเปลืองไว้ที่ 4.1 ลิตร/100 กม. ตามมาตรฐานการทดสอบ NEDC
อุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งในรุ่นไฮบริด มีทั้ง
- จอสัมผัสกลาง 12.3 นิ้ว
- มาตรวัดดิจิทัล 8 นิ้ว
- ล้ออัลลอย 18 นิ้ว
- ไฟหน้า-ท้าย LED
- ระบบเสียง Yamaha
- แท่นชาร์จไร้สาย
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
- กล้องมองหลัง
- เซ็นเซอร์จอดหน้า-หลัง
- ระบบช่วยขับขี่ เช่น
- AEB (เบรกอัตโนมัติ)
- เตือนจุดอับสายตา
- ช่วยเปลี่ยนเลน
- ระบบเตือนรถสวนหลัง (RCTA)
- Cruise Control แบบแปรผัน
- ระบบเตือนรถคันหน้าเคลื่อนตัว
- ไฟสูงอัตโนมัติ
- มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ
- Normal Mode – โหมดมาตรฐาน ขับขี่ได้ดีในทุกสภาพถนน
- Wet Mode – สำหรับถนนเปียก ช่วยลดการลื่นไถล
- Gravel Mode – สำหรับถนนลูกรัง เพิ่มการยึดเกาะถนน
- Tarmac Mode – สำหรับถนนลาดยาง ปรับการควบคุมเพื่อการขับขี่ที่มั่นคง
- Mud Mode – สำหรับถนนโคลน ช่วยเพิ่มแรงบิดให้ล้อเพื่อออกจากโคลน
- EV Priority Mode – โหมดขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100%
- Charge Mode – โหมดชาร์จพลังงานกลับเข้าแบตเตอรี่ไฮบริด
แต่ถึงจะจัดเต็มขนาดนี้ Xforce HEV ก็ยังไม่ได้ไปต่อในออสเตรเลีย เพราะโครงสร้างและระบบความปลอดภัยยังไม่ผ่านมาตรฐาน ANCAP ล่าสุด ซึ่งเข้มงวดมากขึ้นตั้งแต่ปี 2023–2025 โดย Mitsubishi ประเมินว่า ถ้าทดสอบตอนนี้ Xforce จะได้เพียง 3 ดาว ซึ่งไม่ผ่านเกณฑ์ที่หน่วยงานรัฐและลูกค้ารายใหญ่ใช้ในการจัดซื้อ (ส่วนมากกำหนดให้ต้องได้ 5 ดาว)
ทาง Mitsubishi ออสเตรเลียจึงจะหันไปนำเข้า ASX รุ่นใหม่ที่พัฒนาจาก Renault Captur (ผลิตในสเปน) ซึ่งได้คะแนน 4 ดาวจาก Euro NCAP และมีขนาดเล็กกว่า ASX รุ่นเดิม รวมถึง Xforce อีกด้วย
รุ่นใหม่นี้จะมาแทน ASX รุ่นปัจจุบันที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2010 ซึ่งไม่ผ่านข้อกำหนด ADR 98/00 ที่จะมีผลในเดือนมีนาคม 2025 บังคับให้รถยนต์ใหม่ทุกคันต้องมีระบบ AEB สำหรับการตรวจจับรถยนต์ร่วมถนน
ASX รุ่นใหม่จะมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและไฮบริด แต่ ราคาเปิดตัวจะสูงขึ้นประมาณ 6,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย และมีให้เลือกเพียง 3 รุ่นย่อย จากเดิมที่มีถึง 6 รุ่น
Mitsubishi ออสเตรเลียจึงออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลผ่อนปรนเงื่อนไขการจัดซื้อรถราชการ โดยเสนอให้ “ลดเกณฑ์ขั้นต่ำจาก 5 ดาวเหลือ 4 ดาว” สำหรับรถที่ทดสอบภายใต้มาตรฐาน ANCAP ปี 2023–2025 เพื่อเปิดทางให้รถรุ่นใหม่ที่มีต้นทุนคุ้มค่าแต่ยังมีความปลอดภัยในระดับดีได้มีโอกาสทำตลาด
3 รุ่นต่างกันยังไง ? เปิดขายไทย 899,000 – 1,089,000 บาท Mitsubishi Xforce HEV ประหยัด 24.4 กม./ลิตร